iQiyi คือ Netflix เมืองจีน / โดย ลงทุนแมน

ช่วงนี้กิจกรรมยามว่างของคนไทยเรา
หลายๆ คนคงเคยดูซีรี่ย์ผ่าน Netflix
แต่สำหรับคนจีนที่ไม่มี Netflix ให้ดู
iQiyi จึงเกิดขึ้นเพื่อที่จะกลายเป็น Netflix จีน

เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

อย่างที่เรารู้กันว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการตรวจสอบบริษัทเทคโนโลยีจากต่างประเทศอย่างเข้มข้น

เวลาที่เราไปประเทศจีนจึงไม่ค่อยจะเห็นคนเล่น Facebook, Google หรือดู YouTube

คนจีนจะมีแพลตฟอร์มของตัวเองซึ่งทดแทนสิ่งเหล่านี้

Weibo จะเทียบได้กับ Facebook Twitter
Baidu จะเทียบได้กับ Google

และในตอนนี้ธุรกิจวีดีโอคอนเทนต์ที่กำลังเป็นที่ร้อนแรงอย่าง Netflix

ประเทศจีนก็มี iQiyi ที่เทียบกับ Netflix ได้เช่นกัน

iQiyi เป็นของใคร?

iQiyi เป็นบริษัทลูกของ Baidu ซึ่งเป็นบริษัท search engine อันดับ 1 ของประเทศจีน

ลักษณะการทำธุรกิจของ iQiyi ก็จะคล้ายกับ Netflix นั่นก็คือการเก็บค่าสมาชิกในการรับชมคอนเทนต์

แต่ iQiyi จะมีรายได้จากส่วนของโฆษณาเพิ่มเข้ามาจึงทำให้ต่างจาก Netflix ที่มีรายได้มาจากค่าสมาชิกเพียงอย่างเดียว

และตอนนี้ iQiyi มีสัดส่วนของรายได้จากโฆษณามากกว่าการเก็บค่าสมาชิกเสียอีก

ซึ่งผู้ให้บริการสตรีมมิ่งวีดีโอของจีนทุกรายจะมีโครงสร้างรายได้เป็นลักษณะนี้เช่นกัน

แบบนี้ iQiyi จะเติบโตไปทั่วโลกแข่งกับ Netflix รึเปล่า?

เมื่อดูในข้อจำกัดของ iQiyi ที่คอนเทนต์ส่วนใหญ่จะเป็นของคนจีนและแทบจะไม่มีคอนเทนต์ของประเทศอื่นเลย

ซึ่งถ้าใครลองเปิดเว็บของ iQiyi จะพบว่าไม่มีภาษาอังกฤษอยู่เลย

ข้อจำกัดนี้อาจทำให้ iQiyi ขยายตัวไปทั่วโลกได้ยาก

แล้วตลาดวีดีโอของจีนตอนนี้มีมูลค่าเท่าไหร่?

ในปี 2015 ตลาดสตรีมมิ่งวีดีโอของจีนมีมูลค่าอยู่ที่ 1.1 แสนล้านบาท

แต่ตัวเลขนี้อาจกลายเป็นแค่อดีต

เพราะมีการคาดการณ์ว่าในปี 2020 จะเติบโตขึ้นถึง 4 เท่าเป็น 4.4 แสนล้านบาท

ในเมื่อตลาดวีดีโอของจีนก็มีมูลค่าที่สูง แต่ทำไม Netflix ที่เป็นแพลตฟอร์มดูสตรีมมิ่งแบบสมาชิก อันดับ 1 ของโลกไม่เข้าสู่ตลาดประเทศจีน?

เมื่อ 2 ปีก่อน Netflix เคยให้เหตุผลว่า จีนเป็นตลาดที่เข้าถึงยากเพราะถูกควบคุมด้วยกฎหมายอย่างเข้มงวด

เรื่องนี้ทำให้ไม่สามารถนำคอนเทนต์ต่างๆ เข้าไปฉายได้ง่าย

นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องราคาอีกด้วย

ค่าบริการของ Netflix โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 11 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 352 บาท

แต่สำหรับผู้ให้บริการวีดีโอคอนเทนต์ที่จีนตอนนี้ มีรายได้เฉลี่ยอยู่เพียงหัวละ 3 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 96 บาทเท่านั้น

เรื่องนี้อาจจะเป็นเพราะผู้ให้บริการในจีนเน้นการทำรายได้จากโฆษณาเป็นหลักจึงทำให้ค่าสมาชิกมีราคาที่ไม่แพง

โมเดลของ Netflix จึงอาจจะยังไม่ค่อยเข้ากับตลาดจีนเท่าไรนัก

ถ้า Netflix เข้าไปจีน ก็อาจจะต้องยอมรับการขาดทุน

แล้วกำไรของ iQiyi เป็นอย่างไร?

ปี 2015 รายได้ 26,571 ล้านบาท ขาดทุน 12,863 ล้านบาท
ปี 2016 รายได้ 56,135 ล้านบาท ขาดทุน 15,356 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 86,813 ล้านบาท ขาดทุน 8,668 ล้านบาท

สังเกตได้ว่าผลประกอบการ iQiyi ขาดทุนอย่างที่ Netflix กลัวจริงๆ

เพราะว่าที่จีนเองก็ยังมีคู่แข่งเจ้าใหญ่อยู่อีกไม่ว่าจะเป็น Tencent video หรือ Youku ซึ่งเป็นของ Alibaba ทำให้ตลาดนี้มีการแข่งขันที่รุนแรง

อย่างไรก็ตามจากรายได้ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ดังนั้นการขาดทุนของ iQiyi อาจจะเป็นการยอมขาดทุนเพื่อให้มีรายได้เติบโตถึงจุดคุ้มทุน และสามารถทำกำไรได้ในอนาคต

ซึ่ง iQiyi จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่กลัวการขาดทุนของ iQiyi ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยมา จนตอนนี้บริษัท iQiyi มีมูลค่าอยู่ที่ 653,700 ล้านบาท

ถ้าบริษัทนี้มาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็จะถือว่าเป็นบริษัทใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว

ส่วนผลประกอบการของบริษัท Netflix

ปี 2015 รายได้ 216,553 ล้านบาท กำไร 3,928 ล้านบาท
ปี 2016 รายได้ 282,062 ล้านบาท กำไร 5,972 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 373,474 ล้านบาท กำไร 17,854 ล้านบาท

รายได้ และกำไรของ Netflix เติบโตอย่างก้าวกระโดด

และได้สะท้อนไปยังราคาหุ้นของ Netflix ที่เป็นหนึ่งในหุ้นที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา

10 ปีที่แล้ว Netflix มีมูลค่าบริษัท 5 หมื่นล้านบาท ตอนนี้ Netflix มีมูลค่าบริษัท 5 ล้านล้านบาท ก้าวข้ามบริษัท Disney ที่มีอายุเกือบร้อยปี ซึ่งมีมูลค่าบริษัท 4.8 ล้านล้านบาท

ถ้าใครลงทุนใน Netflix เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้เขาจะได้กำไร 10,000%

แม้ว่าในสหรัฐอเมริกาจะมี Amazon video ที่ทำธุรกิจในลักษณะคล้าย Netflix แต่ความนิยมก็ยังไม่ได้ใกล้กันเท่าไรนัก รวมถึงการที่ Netflix มีคอนเทนต์เป็นของตัวเองจำนวนมาก

ในเรื่องของจำนวนผู้ใช้
สิ้นปี 2017 iQiyi มีจำนวนสมาชิกอยู่ที่ 51 ล้านคน
Netflix มีจำนวนสมาชิกอยู่ที่ 117 ล้านคน

แปลว่าตอนนี้ Netflix มีจำนวนสมาชิกมากกว่า iQiyi เพียง 2 เท่า

เรื่องจึงกลายเป็นคำถามที่น่าสนใจว่า แล้ว iQiyi จะต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะได้มีกำไรในอนาคต..

คำถามที่น่าคิดทิ้งท้าย

หุ้นของ Netflix และ iQiyi จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสหรัฐอเมริกา

ถ้าเรามีเงินก้อนใหญ่หนึ่งก้อนให้เลือกลงทุน

ระหว่าง iQiyi กับ Netflix เราจะเลือกลงทุนในบริษัทไหนกัน?

Netflix มีมูลค่าบริษัท 5 ล้านล้านบาท iQiyi มีมูลค่าบริษัท 6.5 แสนล้านบาท

Netflix มีราคาแพงกว่า iQiyi มากถึง 7 เท่า ทั้งที่จำนวนสมาชิกของ Netflix มีมากกว่า iQiyi แค่ 2 เท่า

แต่ประเด็นที่สำคัญคือ Netflix มีกำไรแล้ว แต่ iQiyi ยังไม่มีกำไร..
----------------------
<ad> คนจีนชอบดูวิดีโอ แล้วก็ชอบกินชา กาแฟ หากร้านกาแฟของเราขายดี ให้เครื่องเรียกคิวไร้สาย QTY ช่วยสิ เครื่องเรียกคิวไร้สาย QTY เปลี่ยนร้านกาแฟของคุณให้ดูโปร ลดรายจ่ายได้หลักล้านต่อปี ซื้อแล้วไม่ลดรายจ่าย รายได้ไม่เพิ่ม ยินดีคืนเงิน !

แจ้งว่ามาจากลงทุนแมน รับส่วนลด 3,000 บาท
Line : @qtyq FB : QtY : queue calling system Website : www.qtyqcalling.com
----------------------
Reference
-https://techcrunch.com/2018/02/28/baidu-iqiyi-us-ipo/
-https://www.forbes.com/sites/ywang/2018/03/07/the-billion-dollar-race-to-become-the-netflix-of-china/#5b82c06c3495
-https://www.techinasia.com/netflix-china-nope
-http://www.scmp.com/tech/china-tech/article/2113720/tencent-video-iqiyi-race-lead-chinas-online-video-market
[7750].