WIN Cosmetics ร้านขายเครื่องสำอาง ในเชียงใหม่ ที่มีรายได้ 600 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
ถ้าให้คนเชียงใหม่แนะนำร้านเครื่องสำอางที่ขายไม่แพง เชื่อว่าจะต้องมีชื่อร้าน WIN Cosmetics

รู้หรือไม่ว่า WIN Cosmetics ทำยอดขายได้ปีละ 600 ล้านบาท ทั้งที่มีเพียงแค่ 6 สาขา ในเชียงใหม่เท่านั้น

หรือเฉลี่ยแล้ว 1 สาขา สามารถทำรายได้ถึงปีละ 100 ล้านบาท

แล้ว WIN Cosmetics ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ผู้ก่อตั้งร้านนี้คือ คุณ​ยงยุทธ และคุณกำเรด จาวลา คู่สามีภรรยาชาวเหนือ เชื้อสายอินเดีย

ทั้งคู่เคยทำธุรกิจรถเร่หนังขายยาทั่วภาคเหนือ แต่พอถึงจุดหนึ่ง ก็เริ่มอยากลงหลักปักฐาน

เลยตัดสินใจมาเปิดหน้าร้านขายของที่กาดหลวง หรือตลาดวโรรส ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่

โดยเริ่มจากการเปิดร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ในตึก 1 คูหา และตั้งชื่อว่า “วินบูติค” ตามชื่อ คุณวิน ลูกชายคนโต

ด้วยการออกแบบร้านที่สะดุดตา และสินค้าที่ไปเลือกซื้อเองจากกรุงเทพฯ เลยไม่เหมือนเจ้าอื่นในกาดหลวง
ทำให้ ​วินบูติค ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

จนสามารถขยายสาขาไปฝั่งตรงข้าม โดยตั้งชื่อว่า “มิตรเฮ้าส์” ตามชื่อ คุณอามิตร ลูกชายคนเล็ก

ต่อมาค่าเช่าที่ร้านแพงขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับแถวนั้น มีตึก 4 คูหา รีโนเวตใหม่ปล่อยให้เช่า ทั้งคู่เลยตัดสินใจไปเปิดร้านใหม่ที่นั่น

แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ร้านเสื้อผ้าที่ทำอยู่ แต่กลับเป็นไอเดียธุรกิจใหม่คือ ร้านขายเครื่องสำอางแบบครบวงจร

ซึ่งไอเดียนี้ได้มาตอนที่ทั้งคู่ไปฮันนีมูนกันที่ฮ่องกง เจอร้าน Watsons บนถนนนาธาน เห็นว่ามีสินค้าให้เลือกเยอะมาก และมีลูกค้าเข้าออกตลอดเวลา

อีกทั้งทั้งคู่มองว่า ยังไม่มีร้านแบบนี้ที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า อย่างในกาดหลวงเอง ก็มีแค่แผงขายเล็ก ๆ เท่านั้น

จึงเกิดเป็นร้าน WIN Cosmetics ขึ้นมาในปี 2538

โดยคุณ​ยงยุทธไปติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อเอาสินค้ามาวางขายที่หน้าร้าน

ซึ่ง WIN Cosmetics ตกแต่งร้านอย่างหรูหรา มีพื้นที่ให้เดินเลือกซื้อสินค้า ที่แบ่งตามแบรนด์และหมวดหมู่อย่างสวยงาม แถมยังขายราคาไม่แพงอีกด้วย

แต่ช่วง 2 ปีแรกก็ไม่ได้ง่ายแบบที่คิด พอลูกค้าเห็นร้านก็นึกว่าขายแพง ไม่กล้าเดินเข้าไป

WIN Cosmetics เลยต้องทำการตลาดอย่างหนัก ทั้งรถแห่ แจกใบปลิว โฆษณาทางวิทยุ และทำระบบสมาชิกขึ้นมา

แต่สิ่งที่เรียกลูกค้าเข้าร้านได้มากที่สุดก็คือ ดารา นักแสดง ที่เป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ต่าง ๆ

โดยสมัยนั้นแบรนด์มักจะเชิญพรีเซนเตอร์มาร้านตัวแทนจำหน่าย อย่างเช่น WIN Cosmetics จนทำให้ลูกค้ามาต่อแถวรอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด

แม้ทีแรกอาจจะเข้าเพราะอยากเจอดารา แต่พอเข้ามาก็ได้รู้ว่าขายของไม่แพง บริการดี กลับมาซ้ำ และบอกต่อ จนทำให้ WIN Cosmetics เป็นที่รู้จักไปทั่วเชียงใหม่

จากนั้น WIN Cosmetics ก็ได้ถูกต่อยอดมาเป็นร้าน Win Salone’ (วิน ซาลอนเน่) โดยคุณอามิตร ลูกชายคนเล็ก

พอเรียนจบบริหารที่อังกฤษ คุณอามิตรก็กลับมารับช่วงต่อธุรกิจครอบครัว ซึ่งตอนนั้นมีร้านขายเครื่องสำอางครบวงจร ทั่วเชียงใหม่

คุณอามิตร เลยสร้างร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสวยครบวงจรขึ้นมาใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านเดิมไม่ไกล

โดยที่ Win Salone’ มีขายอุปกรณ์เสริมสวยทุกอย่างสำหรับคนที่อยากเปิดร้านเสริมสวย ทั้งยาย้อมผม ยาทาเล็บ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์สำหรับซาลอน

ต่อมาก็พัฒนาจนกลายเป็นสถาบันที่ให้ความรู้แก่คนที่อยากเปิดร้านเสริมสวย และมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศมาสอนอยู่เรื่อย ๆ

ในส่วนของร้านเครื่องสำอางอย่าง WIN Cosmetics ก็ขยายไลน์สินค้าที่หลากหลายมากขึ้น ครอบคลุมสินค้าในชีวิตประจำวัน รวมถึงช่องทางออนไลน์

รวมถึงขยายไป 6 สาขา ทั่วเชียงใหม่
ซึ่งแต่ละสาขาก็มีสินค้าที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและนักท่องเที่ยวในแต่ละย่าน

โดยวันนี้ WIN Cosmetics ไม่ได้มีแค่ขายปลีก แต่มีขายส่งด้วย รวมถึงบริการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่อยากเปิดร้านขายเครื่องสำอางอีกด้วย

ซึ่งตรงนี้ทำให้ฐานลูกค้าของ WIN Cosmetics ขยายใหญ่ขึ้น ทั้งค้าปลีก ค้าส่ง ร้านขายเครื่องสำอาง และร้านเสริมสวย

และนี่คือหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ WIN Cosmetics สามารถขายสินค้าที่ราคาถูกกว่าเจ้าอื่นได้ เพราะพอมีคำสั่งซื้อปริมาณเยอะ ทำให้เกิด Economies of Scale ต้นทุนจึงต่ำกว่า

บวกกับความตั้งใจที่จะไม่บวกกำไรมาก แต่ไปเน้นปริมาณแทน เพราะอยากให้ลูกค้าสนุกกับการมาซื้อของที่ WIN Cosmetics

โดยคุณอามิตร ผู้เป็นน้องชาย จะดูแลเรื่องการขายและการบริการ
ส่วนคุณวิน ผู้เป็นพี่ชาย จะดูแลเรื่องการบริหารคลังสินค้าเป็นหลัก

ด้วยการร่วมแรงบริหารจากทายาทรุ่นที่ 2 ทำให้ WIN Cosmetics ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

และนี่คือ ผลประกอบการของ บริษัท วิน คอสเมติคส์ จำกัด

ปี 2564 รายได้ 456 ล้านบาท กำไร 2.8 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 487 ล้านบาท กำไร 5.1 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 596 ล้านบาท กำไร 6.3 ล้านบาท

นั่นหมายความว่า WIN Cosmetics
มีรายได้เฉลี่ยต่อสาขาสูงถึงปีละ 100 ล้านบาท
ซึ่งอาจจะมากกว่าร้านเชนเครื่องสำอางบางแบรนด์ด้วยซ้ำ

และอีกการบริการที่น่าสนใจของ WIN Cosmetics
ก็คือ Win Delivery

เพราะแม้ช่องทางออนไลน์จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าของ WIN Cosmetics นอกเชียงใหม่ก็จริง

แต่ก็หมายความว่ามีร้านบิวตีสตอร์ออนไลน์อื่น ๆ ให้ลูกค้าในเชียงใหม่เลือกซื้อเช่นเดียวกัน

เลยมีบริการ Win Delivery ส่งด่วนถึงหน้าบ้าน ในระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร โดยคิดค่าส่งอยู่ที่เพียง 25 บาทต่อออร์เดอร์

ซึ่งค่าส่งอาจจะถูกกว่าสั่งออนไลน์บางร้าน
แถมได้ไวกว่า สำหรับคนที่รีบใช้ด้วย

คิดภาพง่าย ๆ คล้ายกับบริการ GrabMart ใน Grab แต่ข้อดีก็คือ WIN Cosmetics ไม่ต้องจ่ายค่า GP ให้กับ Grab นั่นเอง

จากการเปิดร้านวันแรกของรุ่นพ่อแม่ จนถึงวันนี้ที่ WIN Cosmetics มีสาขาทั่วเชียงใหม่ ทั้งขายปลีก ขายส่ง ออนไลน์ และ Delivery

รวมไปถึงร้านขายอุปกรณ์เสริมสวย Win Salone’ ที่เป็นเหมือนสถาบันให้กับผู้ประกอบการที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ

สิ่งที่เราเห็นก็คือ การไม่หยุดพัฒนาของ WIN Cosmetics ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ มาจนถึงรุ่นลูก ๆ

แต่ก็ไม่ทิ้งตัวตนเดิมก็คือ ความตั้งใจที่อยากให้ลูกค้าได้ซื้อของไม่แพง และสนุกไปกับการช็อปปิง

ทำให้ในวันนี้ WIN Cosmetics ปลุกปั้นร้านขายเครื่องสำอางในเชียงใหม่ จนมีรายได้ 600 ล้านบาท ได้นั่นเอง..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman