โอ้กะจู๋ เปิดเทรดวันแรก ราคาหุ้น +62% มูลค่าบริษัทแตะ 6,600 ล้านบาท
บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ หรือ OKJ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพ “โอ้กะจู๋”
ร้านอาหารจานด่วน “Ohkajhu Wrap & Roll” และน้ำผักผลไม้ “Oh! Juice”

วันนี้เป็นวันแรก ที่ OKJ เปิดให้ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ

แล้วที่ผ่านมา OKJ มีรายได้เท่าไร ?

ปี 2562 รายได้ 643 ล้านบาท กำไร 80 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 837 ล้านบาท กำไร 33 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 803 ล้านบาท ขาดทุน 83 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 1,215 ล้านบาท กำไร 38 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 1,717 ล้านบาท กำไร 141 ล้านบาท

และในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2567 ที่ผ่านมา
บริษัทมีรายได้รวม 1,111 ล้านบาท กำไร 102 ล้านบาท
คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 9.2%

ซึ่งเมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกของปี 2566 จะพบว่าบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 43% และกำไรเพิ่มขึ้น 39%

โดยหากเจาะเข้าไปดูสัดส่วนรายได้ในครึ่งปี 2567 นี้

1) แบรนด์โอ้กะจู๋ 99.3%
แบ่งตามช่องทางจำหน่าย
93.4% ยังมาจากหน้าร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ
5.9% มาจากการขายผ่าน Delivery & Kiosk, Café Amazon และซูเปอร์มาร์เก็ต

2) แบรนด์ Oh! Juice 0.6%
3) แบรนด์ Ohkajhu Wrap & Roll 0.1%

(หมายเหตุ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2567
โอ้กะจู๋ มีร้านอาหารทั้งหมด 30 สาขา, ร้านแบบ Delivery & Kiosk 4 สาขา และวางขายใน Café Amazon 450 สาขา ส่วน Ohkajhu Wrap & Roll มี 1 สาขา และ Oh! Juice มี 2 สาขา)

ทีนี้เราลองมาดูตัวเลขสำคัญของธุรกิจร้านอาหารอย่าง Same Store Sales
Growth (SSSG) หรือ การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม

หากนับเฉพาะยอดขายจากหน้าร้าน โอ้กะจู๋ มี SSSG อยู่ที่ 8.4%

แล้ว โอ้กะจู๋ หรือ OKJ มีมูลค่าเท่าไร ?

- Pre-Money Valuation มูลค่าก่อนระดมทุน IPO

มีจำนวนหุ้นทั้งหมด 450 ล้านหุ้น
ถ้าราคาหุ้นเท่ากับ 6.70 บาท เท่ากับราคาที่ IPO
จะคิดเป็นมูลค่าบริษัท 3,015 ล้านบาท
และ P/E ที่ 17.8 เท่า เมื่อเทียบกับกำไร 12 เดือนล่าสุด

- Post-Money Valuation มูลค่าหลังระดมทุน IPO
(เสนอขายหุ้น IPO 159 ล้านหุ้น มูลค่าการเสนอขาย 1,065 ล้านบาท)

เสนอขายราคา IPO ที่ 6.70 บาทต่อหุ้น
มีจำนวนหุ้นทั้งหมด 609 ล้านหุ้น
คิดเป็นมูลค่าบริษัท ณ ราคา IPO ที่ 4,080 ล้านบาท
และ P/E ที่ 24.1 เท่า เมื่อเทียบกับกำไร 12 เดือนล่าสุด

แต่เช้านี้ ราคาหุ้น OKJ เปิดตลาดขึ้นมาอยู่ 10.90 บาท หรือเพิ่มขึ้น 62%
ทำให้มูลค่าบริษัทกลายเป็น 6,638 ล้านบาท
และ P/E กำลังถูกซื้อขายกันที่ 39.26 เท่า เมื่อเทียบกับกำไร 12 เดือนล่าสุด

สำหรับเงินทุนที่ได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท บริษัทจะนำไปใช้เพื่อ
- ขยายธุรกิจ ทั้งเพิ่มจำนวนสาขาร้านโอ้กะจู๋, Ohkajhu Wrap & Roll และ Oh! Juice รวมถึงปรับปรุงสาขา และขยายช่องทางการจำหน่าย
- ลงทุนก่อสร้างครัวกลางแห่งใหม่ และเครื่องจักร อุปกรณ์ รวมถึงห้องล้างผัก และระบบ IT
- ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

โดย OKJ ตั้งเป้าเพิ่มร้าน Ohkajhu Wrap & Roll ให้ครบประมาณ 20 สาขา และร้าน Oh! Juice ให้ครบประมาณ 70 สาขา ภายในปี 2571
ซึ่งตอนนี้ Oh! Juice มีทั้งหมด 7 สาขาแล้ว

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ OKJ หลังการ IPO ก็คือ
- ครอบครัวเอกชัยพัฒนกุล ถือหุ้นในสัดส่วน 31.26%
- นายจิรายุทธ ภูวพูนผล ถือหุ้นในสัดส่วน 15.34%
- ครอบครัวสุชัยบุญศิริ ถือหุ้นในสัดส่วน 7.30%
- บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด (บริษัทลูกของ OR) ถือหุ้นในสัดส่วน 20.00%..

Reference:
- https://www.digitalipo.in.th/digitalipo.../preview/set/OKJ

*หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
โพสต์นี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นนี้แต่อย่างใด