KBTG บุกยุค Agentic AI ด้วยยุทธศาสตร์ Human-First x AI-First Transformation

KBTG บุกยุค Agentic AI ด้วยยุทธศาสตร์ Human-First x AI-First Transformation

KBTG X ลงทุนแมน
ในยุคที่หลายประเทศกำลังแข่งกันพัฒนาเทคโนโลยี AI
คำถามที่หลายคนน่าจะสงสัยกันก็คือ แล้วตอนนี้เทคโนโลยี AI ของไทยพัฒนาไปถึงไหนแล้ว และสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้หรือไม่ ?
เชื่อว่าบริษัทที่น่าจะช่วยให้เราเห็นทิศทางและความคืบหน้าของการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในไทยได้เป็นอย่างดี ก็คงจะเป็น KBTG ที่เป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยี AI ของไทย
แล้ววันนี้ KBTG ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ไปถึงไหนแล้ว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
KBTG หรือ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป คือหน่วยงานทางด้านเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งถ้าดูจากผลงานและรางวัลต่าง ๆ ที่ได้รับแล้ว ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยี AI ของไทยเลยก็ว่าได้
ถ้าถามว่า KBTG ในวันนี้ประสบความสำเร็จในการพัฒนา AI ไปถึงขั้นไหนแล้ว
คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KBTG ก็ได้เปิดเผยว่า ตลอดปี 2567 ทาง KBTG ได้บรรลุความสำเร็จด้าน AI ในหลายมิติ เริ่มตั้งแต่การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม AI ไม่ว่าจะเป็น
- AINU (อัยนุ) ระบบยืนยันตัวตน ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง Face Liveness Detection ที่สามารถตรวจจับและพิสูจน์ได้ว่าใบหน้าที่สแกนนั้นมาจากตัวบุคคลจริง ๆ ไม่ได้ผ่านการตกแต่งหรือสวมรอย
โดยผลงานนี้ก็ประสบความสำเร็จถึงขั้นที่ทำให้ KBTG ยังเป็นองค์กรไทยหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล The Innovators 2024 จาก Global Finance เลยทีเดียว
- THaLLE โมเดลปัญญาประดิษฐ์ด้านการเงินตัวแรกของไทยที่สามารถสอบผ่าน CFA ซึ่งเป็นการสอบวัดความรู้และความสามารถทางการเงินที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และล่าสุดก็ยังสอบผ่าน Investment Consultant ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกด้วย
- Future You AI ที่จะทำให้เราได้คุยกับตัวเองในอนาคต ซึ่งในวันนี้มีผู้ใช้งานแล้วถึง 52,000 คน จาก 190 ประเทศทั่วโลก
โดยความสำเร็จทั้งหมดที่กล่าวมา ก็ได้ทำให้ในวันนี้ KBTG สามารถสร้างผลกระทบทางธุรกิจ ทั้งในแง่ของรายได้และมูลค่าเพิ่ม รวมกันได้มากกว่าหลายพันล้านบาทเลยทีเดียว
และสำหรับปี 2568 KBTG ก็ได้ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายยิ่งขึ้นไปอีก กับความต้องการที่จะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า
ทีนี้เราลองมาดูกันว่า KBTG จะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างไร ?
KBTG จะใช้ยุทธศาสตร์ Human-First x AI-First Transformation ที่จะเน้นการพัฒนาบุคลากรและการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร โดยจะมีการปรับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ให้ AI เข้ามามีส่วนร่วมและผสมผสานกับการทำงานของพนักงานในทุกจุด
และเทคโนโลยีที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ก็คือ Agentic AI หรือโมเดล AI ที่ไม่เพียงแค่สามารถปฏิบัติการได้เอง แต่ยังประสานงานและสั่งการ AI ตัวอื่น ๆ เพื่อทำงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
โดยสำหรับในส่วนของ Agentic AI นี้ ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Managing Director ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้ว่า ในปีที่จะถึงนี้ KBTG จะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI โดยยังคงวางมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และจะมีการพัฒนา Agentic AI ใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1. Agentic Platformization การสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพื่อจัดการ Agent ให้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้
KBTG ได้มีการพัฒนา AthenaMind แพลตฟอร์มที่จะเป็นเสมือนโรงงานช่วยสร้าง AI Agent เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละส่วนงานต่าง ๆ ของ KBTG เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
โดยตัวอย่าง AI Agent ตัวแรกที่ได้มีการเปิดให้พนักงาน KBTG ได้ใช้งานแล้ว ก็ได้แก่ HR Chat Agent ช่วยตอบคำถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของพนักงาน เช่น ประกันกลุ่ม บัญชีค่าใช้จ่าย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการลา
ซึ่งปัจจุบัน KBTG ก็กำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนพัฒนา AI Agent สำหรับหน่วยงานส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อขยายผลความสำเร็จ เช่น PDPA Chat Agent และ Regulatory Chat Agent
2. Agentic Orchestration การสร้างและออกแบบกระบวนการใหม่ (Operation Workflow) เพื่อให้ AI Agent กับมนุษย์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้
ในส่วนนี้ ได้มี คุณจิรัฎฐ์ ศรีสวัสดิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Assistant Managing Director - Technical Excellence มายกตัวอย่างของการนำ AI Coding Assistant มาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานของ Developer
โดย AI Coding Assistant จะเป็นเหมือนผู้ช่วยของเหล่านักพัฒนา ที่จะคอยแนะนำโคดเวลาพิมพ์ ซึ่งที่ผ่านมา นักพัฒนาของ KBTG ก็ได้ตรวจสอบ และยอมรับโคดที่สร้างจาก AI Coding Assistant ไปแล้วมากกว่า 500,000 บรรทัด
และก้าวต่อไป จะเป็นการเพิ่มความสามารถของ AI Coding Assistant ไปเป็น AI Coding Agent ซึ่งจะมีความสามารถเปรียบเสมือน Junior Developer ที่สามารถเขียนโคดได้ตั้งแต่ต้นจนจบจากการให้ Requirement ที่ชัดเจน
โดยบางงานที่ผ่านมา AI Coding Agent ก็สามารถเขียนโคดออกมาได้ไม่ต่างจากคน และใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น จากที่คนปกติต้องใช้เวลาทำมากถึงครึ่งวัน
และสุดท้ายแล้ว AI Coding Agent ก็จะถูกพัฒนาขึ้นไปอีก และจะกลายเป็น Multi-Agent SDLC ที่ AI จะเข้าไปช่วยในกระบวนการต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะในส่วนของการ Coding แต่ยังรวมถึง การวางแผน, การทำ Requirement Analysis, การ Develop & Test และการ Deployment หรือเรียกได้ว่า AI จะเข้าไปในทุก Step ของการทำงานเลยนั่นเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการทำงานได้อย่างมหาศาล
3. Agentic Humanization การเตรียมความพร้อมของคนทั้งในด้านแนวคิด ทักษะ และวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI มากยิ่งขึ้น
รวมถึงสร้างสิ่งที่เรียกว่า Human-AI Workforce Integration เพื่อส่งเสริมการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการทำงานของพนักงานในทุก ๆ วัน
โดยในส่วนนี้ ดร.โกเมษ จันทวิมล ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Principal AI Evangelist ได้เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน KBTG ได้บรรลุเป้าหมาย 100% ด้าน AI Literacy สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ AI ให้พนักงานทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และยังมีการสร้างชมรม Machine Learning, AI, Data Analytics (M.A.D. Guild) และกลุ่มผลักดันการใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย (KBTG Democratization of AI: K-DAI Council) เพื่อจะมุ่งทำ Human Transformation พัฒนาบุคลากรให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้
จากทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา เชื่อว่าทุกคนคงเห็นภาพคร่าว ๆ แล้วว่า Agentic AI เทคโนโลยีที่เป็นเครื่องมือสำคัญของ KBTG มีประโยชน์ และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ ได้มากขนาดไหน
โดยผลดีที่เกิดจากนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-Driven Innovations) เหล่านี้เอง ที่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณเรืองโรจน์ พูนผล เชื่อว่าจะทำให้ KBTG สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจให้มากกว่า 10,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้าได้
และยังจะช่วยยกระดับบุคลากรได้ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จากการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานของบุคลากรให้มี AI-Driven Innovations เข้าไปอยู่ในทุกขั้นตอน
และนอกจากจะสร้างผลกระทบต่อบริษัทแล้ว ความสำเร็จของ KBTG ก็ยังสร้างผลกระทบให้กับประเทศไทยอีกด้วย เพราะสิ่งที่ KBTG จะทำต่อจากนี้ ก็คือการสร้าง World Class Ecosystem ผ่านความร่วมมือกับองค์กรระดับโลก และจะยกระดับให้ KBTG และประเทศไทย เป็น World Leading Ecosystem ทางด้าน AI
จากทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา การพัฒนาเทคโนโลยี AI ของ KBTG นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากตัวเลขผลกระทบทางธุรกิจ ทั้งในแง่ของรายได้และมูลค่าเพิ่ม ที่มากกว่าหลายพันล้านบาท
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามต่อไปว่า ในปีหน้านี้ KBTG จะมีความสำเร็จอะไรให้เราเห็นอีกบ้าง
เพราะก็ถือได้ว่า ความสำเร็จของ KBTG นั้น นอกจากจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรแล้ว ยังจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคอีกด้วย..
Reference
- ข้อมูลประชาสัมพันธ์ KBTG
#KBTG
#KBTGHumanFirstxAIFirst
#AgenticAI
#KBTGTheYearOfAgenticAI2025
Tag: KBTG

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon