วิเคราะห์ 5 กลยุทธ์ สู่การเป็นองค์กร NET ZERO ของ CKPower
CKPower x ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่า ? ปรากฏการณ์เรือนกระจก ส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เฉลี่ย 0.8 องศาเซลเซียส ในระยะเวลา 10 ปี
ซึ่งการที่โลกของเราร้อนขึ้น ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อไปเป็นทอด ๆ เช่น ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย จนทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
จากปัญหาเหล่านี้เอง ที่ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทระดับโลกหันมาให้ความสำคัญ กับเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น
โดยหนึ่งในบริษัทที่ จริงจังกับเรื่อง NET ZERO คือ บริษัทที่มีชื่อว่า บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า CKPower
โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า รวมถึงการที่บริษัทเน้นการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น
ทำให้ปี 66 บริษัทได้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง ประมาณ 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
นอกจากนี้ CKPower ยังตั้งเป้าอีกว่าภายในปี 2050 CKPower จะต้องเป็นองค์กรที่สามารถปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ NET ZERO
แล้ว CKPower จะใช้กลยุทธ์อะไรในการไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ ปัจจุบันมีโรงผลิตไฟฟ้าด้วยกัน 18 แห่ง รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3,640 เมกะวัตต์
โดยหากแบ่งการผลิตไฟฟ้าตาม แหล่งการผลิต จะได้เป็น
- โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 13 โรง
- โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 3 โรง
- โรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น 2 โรง
- โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 3 โรง
- โรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น 2 โรง
ถ้าถามว่า CKPower เป็นบริษัทใหญ่ระดับไหน ?
ในปี 2023 บริษัทมีรายได้ 10,947 ล้านบาท กำไร 1,462 ล้านบาท ปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 30,241 ล้านบาท
อ่านมาถึงตรงนี้ หากพูดถึงในเรื่องของความยั่งยืน
CKPower เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด
CKPower เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาโดยตลอด
เพราะหากเราลองมาดู สิ่งที่บริษัททำในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราจะพบว่า
ในปี 2023 บริษัทสามารถลดการใช้พลังงานทั้งหมด 5,101 MWh ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2,051 tCO2e หรือหากเทียบกับโครงการกรุงเทพฯ ปิดไฟ (Earth Hour 2024) 1 ชั่วโมง จะเท่ากับ 186 ชั่วโมง
ซึ่งในปีนั้น บริษัทปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 0.0691 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) ต่อการผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh)
ตัวเลขนี้ต่ำกว่าค่ากลางการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Thailand Grid) ที่ 0.4999 tCO2e/MWh ถึง 86%
6 เดือนแรกในปี 2024 บริษัทลดการใช้พลังงานได้ถึง 2,883 MWh ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,313 tCO2e หรือหากเทียบกับโครงการกรุงเทพฯ ปิดไฟ 1 ชั่วโมง จะเท่ากับ 119 ชั่วโมง
บริษัทปล่อยก๊าซเรือนกระจก ต่ำกว่า 83% และคาดการณ์ว่าตลอดปี 2024 ต่ำกว่าค่ากลางการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศถึง 87%
นอกจากนี้ ภายในปี 2050 บริษัท CKPower ตั้งเป้าว่า จะเป็นองค์กรที่สามารถปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ NET ZERO ให้สำเร็จ
โดยกลยุทธ์ที่บริษัทเลือกใช้ จะแบ่งออกเป็น 5 แนวทางหลักด้วยกัน
1. ลดการใช้พลังงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
บริษัทมีโครงการลดการใช้พลังงานในทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
บริษัทมีโครงการลดการใช้พลังงานในทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
2. เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการใช้พลังงานในการผลิตไฟฟ้า
บริษัทมีการจัดทำโครงการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า โดยในแผนระยะยาว จะมุ่งการขยายการลงทุนในโครงการที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เช่น การศึกษาการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจนผสมก๊าซธรรมชาติ สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของไทยตามร่างแผน PDP 2024
3. เพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
จากแผนระยะยาวบริษัทมุ่งเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ให้ได้ 95% ภายในปี 2043
4. เพิ่มการใช้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในองค์กร
บริษัทมุ่งมั่นเพิ่มการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดภายในองค์กร 100% ตามแผนงานระยะยาว
รวมถึงการใช้ใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่คงเหลือ ภายในปี 2043
5. เพิ่มโอกาสทางธุรกิจเพื่อขยายการลงทุนสีเขียวให้กับองค์กร
โดยในแผนระยะยาว บริษัทได้เตรียมความพร้อมสำหรับประยุกต์ใช้ กลไกการกำหนดราคาคาร์บอนภายในองค์กร (Internal Carbon Pricing)
รวมไปถึงการขยายธุรกิจใหม่ ที่มุ่งเน้นใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานหมุนเวียนที่ทันสมัยระดับโลก
ก็น่าติดตามกันต่อไปว่า CKPower จะสามารถทำสำเร็จได้ตามที่บริษัทตั้งเป้าไว้หรือไม่
แต่ที่รู้แน่ ๆ คือ แค่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา CKPower ได้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มากถึงหลักล้านล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเรามีการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดทั้งหมดอยู่ที่ 50 ล้านเมกะวัตต์-ชั่วโมง โดยหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ ที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดส่งให้กับประเทศไทยก็คือ CKPower
ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัท ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดส่งให้ประเทศที่ประมาณ 8.5 ล้านเมกะวัตต์-ชั่วโมง คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 17% ของพลังงานทั้งหมดเลยทีเดียว
References :
-เอกสารประชาสัมพันธ์ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)
-settrade
References :
-เอกสารประชาสัมพันธ์ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)
-settrade