เหตุผลที่ Banpu NEXT จะเป็นผู้เล่นที่น่าจับตาในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ EV ที่เติบโตไปพร้อมเทรนด์ Net Zero ในเมืองไทย

เหตุผลที่ Banpu NEXT จะเป็นผู้เล่นที่น่าจับตาในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ EV ที่เติบโตไปพร้อมเทรนด์ Net Zero ในเมืองไทย

Banpu NEXT x ลงทุนแมน
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทุกบริษัทในประเทศไทยต้อง “ปรับตัว” อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือการที่ภาครัฐเตรียมออกกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ พ.ร.บ. Climate Change เพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2608
สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อกฎหมายนี้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง คือทุกบริษัทต้องทำการประเมิน และตรวจวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ หากเกินกำหนด ก็ต้องซื้อสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจ่ายภาษีคาร์บอน
เหมือนเป็นการบังคับทางอ้อม ให้ภาคธุรกิจต้องลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายด้านภาษีคาร์บอน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับกฎหมายสิ่งแวดล้อม
สิ่งที่บริษัทจำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วนคือ ลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้มากที่สุด ซึ่งธุรกิจที่ถูกจับตามองคือ “อุตสาหกรรมการขนส่งสินค้า” ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญในวงจรการดำเนินธุรกิจ ที่ปล่อยคาร์บอนเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% จากการขนส่งบนท้องถนนเมืองไทย
และถ้าใครที่ทำธุรกิจส่งออก หากไม่จริงจังกับเรื่องนี้ ก็อาจเจอการกีดกั้นทางการค้าจากประเทศต่าง ๆ ส่งผลให้เสียโอกาสทางธุรกิจชนิดที่ไม่อาจประเมินมูลค่าได้
หนึ่งในทางออกเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าที่ต้องการปรับตัว คือ ควรพิจารณาเปลี่ยนระบบขนส่งจากรถเครื่องยนต์สันดาปมาสู่โหมด EV หรือยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

พอพูดถึง “ยานยนต์ไฟฟ้า” สิ่งที่มาคู่กันก็คือ “แบตเตอรี่”
ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ประเทศไทย มีโรงงานประกอบแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก
โรงงานดังกล่าวมีชื่อว่า DP NEXT (ดีพี เน็กซ์) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบ้านปู เน็กซ์ ที่ทำธุรกิจให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจร และดูราเพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูก ผู้ให้บริการระบบกักเก็บพลังงานแบบลิเทียมไอออนชั้นนำระดับโลก
หากถามว่า โรงงาน DP NEXT พร้อมที่จะส่งมอบแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการทรานส์ฟอร์มของบริษัทต่าง ๆ ในประเทศไทย เข้าสู่โหมดธุรกิจ Net Zero มากน้อยแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ ในประเทศไทยมีรถบัสไฟฟ้าสาธารณะ 3,000 คัน
และภายในปี 2568 จะมีรถบัสจดทะเบียนกว่า 150,000 คัน
อีกทั้งเรายังได้เห็นนโยบายบริษัทยักษ์ใหญ่ในหลาย ๆ อุตสาหกรรมของประเทศไทย ประกาศที่จะเปลี่ยนระบบขนส่งสินค้า และรถที่ใช้ในโรงงานตัวเอง จากเครื่องยนต์ “สันดาป” มาสู่ “ยานยนต์ไฟฟ้า”
เพื่อให้สอดรับเทรนด์ของโลกในการทำธุรกิจ Net Zero รวมถึงเตรียมพร้อม เมื่อ พ.ร.บ. Climate Change ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง
ขณะเดียวกัน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลในเมืองไทย ก็ยังเติบโตต่อเนื่อง จากการมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์จีน สะท้อนจากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ปี 2566 รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วน 10% จากยอดจดทะเบียนทั้งหมด
ปี 2567 รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วน 15% จากยอดจดทะเบียนทั้งหมด
เบื้องหลังการเติบโตนี้ ก็น่าจะมาจากนโยบายกระตุ้นของภาครัฐทั้งในภาคการผลิตและในฝั่งผู้ซื้อ
ปรากฏการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้แต่ละปีมีความต้องการแบตเตอรี่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งโรงงาน DP NEXT พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการแบตเตอรี่ของธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการขนส่งได้เป็นอย่างดี
โดยจะประกอบแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนนิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ออกไซด์ (NMC) ที่มีจุดขายคือ กักเก็บพลังงานได้สูง มีน้ำหนักเบา จ่ายไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพ และรองรับการชาร์จแบบรวดเร็ว ทำให้การชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ไกล เหมาะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่เชิงพาณิชย์ เช่น รถบัส รถบรรทุก รถขนส่งอุตสาหกรรม
โดยล่าสุด โรงงานแห่งนี้ได้ส่งมอบแบตเตอรี่ชุดแรกให้กับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ ผู้ให้บริการรถบัสรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะนำไปใช้กับรถบัสไฟฟ้าในสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สามารถวิ่งได้ไกลประมาณ 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้น และในอนาคตจะนำแบตเตอรี่ไปใช้กับรถบัสไฟฟ้าของเชิดชัย อย่างน้อยประมาณ 100 คัน ในปี 2568
ที่น่าสนใจคือ หลังจากที่บ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์ ไปออกบูธ และนำเสนอแบตเตอรี่ในงาน Future Mobility Asia 2024 ที่ผ่านมา
ได้กระแสตอบรับดี ส่งผลให้มีผู้ประกอบการติดต่อเข้ามาจากหลากหลายธุรกิจ เช่น กลุ่มผู้ให้บริการรถบัส, ผู้ผลิตและให้บริการรถบรรทุกและรถยกที่ใช้ในโรงงาน, ผู้ผลิตและให้บริการรถแทรกเตอร์การเกษตร รวมไปถึงท่าเรือขนส่งสินค้า
เพราะทุกบริษัทต่างรู้ดีว่า หากต้องการให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสู่การเป็นองค์กร Net Zero เพื่อเป็นแต้มต่อในการแข่งขัน จนถึงการเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง และค่าบำรุงรักษาระยะยาว เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาป
ส่วนเหตุผลที่บริษัทต่าง ๆ ให้ความสนใจแบตเตอรี่จากโรงงานแห่งนี้ ทั้งที่ยังมีตัวเลือกบริษัทอื่น ๆ ก็เพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการเชิงเทคนิคและการใช้งานเฉพาะด้าน อีกทั้งมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในไทย ที่ให้คำปรึกษาและบริการหลังการขาย จึงทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจในการใช้งาน และบริการที่รวดเร็ว
นอกจากนี้ บ้านปู เน็กซ์ ยังได้ร่วมมือกับ SVOLT Energy Technology ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถ EV ขนาดเล็ก (Passenger Car) ให้แก่ค่ายรถ Great Wall Motor ทำให้บริษัทสามารถสร้างมูลค่าธุรกิจแบตเตอรี่ นำเสนอโซลูชันได้ครบวงจรยิ่งขึ้น และให้บริการครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของตลาด EV
บ้านปู เน็กซ์ ยังถือเป็นผู้นำเทรนด์พลังงานสะอาดให้แก่องค์กรหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น นิคมอุตสาหกรรมโรงงาน, โครงการอสังหาริมทรัพย์, โรงเรียน, โรงแรม, โรงพยาบาล และศูนย์การค้า ที่เลือกใช้บริการของ บ้านปู เน็กซ์ ผ่านธุรกิจต่าง ๆ
เช่น ระบบโซลาร์และการกักเก็บพลังงาน ระบบจัดการพลังงาน และ e-Mobility ที่มีจุดเด่นคือ Total Solutions ที่ใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มมาสร้างบริการที่ทรงพลัง ช่วยมอนิเตอร์ และตอบโจทย์การใช้พลังงานสะอาดได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ด้วยความน่าเชื่อถือและโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งด้านพลังงานสะอาดนี้เอง
ทำให้หลายบริษัทในไทย มั่นใจในแบตเตอรี่ และโซลูชันจากบ้านปู เน็กซ์ นั่นเอง..
หากผู้ประกอบการธุรกิจไหนสนใจผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่
สำหรับรถ EV ขนาดใหญ่ รถบัส รถบรรทุก และรถขนส่งไฟฟ้า ลงทะเบียนได้ที่ https://cutt.ly/BPN-Battery-LTMAN เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ Banpu NEXT Call Center 02-095-6599

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon