วิเคราะห์ สวนทุเรียน ในวิมานหนาม น่าลงทุนแค่ไหน ?

วิเคราะห์ สวนทุเรียน ในวิมานหนาม น่าลงทุนแค่ไหน ?

วิเคราะห์ สวนทุเรียน ในวิมานหนาม น่าลงทุนแค่ไหน ?
เล่าแบบไม่สปอยล์ สำหรับคนที่ยังไม่ดูภาพยนตร์เรื่อง วิมานหนาม
เรื่องย่อคร่าว ๆ คือ คู่รัก ทองคำและเสก ลงทุนทำสวนทุเรียนด้วยกัน ที่แม่ฮ่องสอน
แต่เสกดันเสียชีวิตก่อน จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแย่งชิงสวนทุเรียนระหว่างแม่ของเสก ลูกเลี้ยงของแม่เสก และทองคำ
คำถามคือ สวนทุเรียนที่เป็นประเด็นนี้ มีมูลค่ามากแค่ไหน ถึงทำให้เกิดการแย่งชิงกันดุเดือดขนาดนี้
แล้วเรารู้ได้อย่างไรว่า สวนทุเรียนนี้ น่าลงทุนหรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
จากข้อมูลคร่าว ๆ ในเรื่องนี้ ทองคำบอกว่า ลงทุนทำสวนทุเรียนกับเสกมานาน จนในปีที่ 5 กำลังจะคืนทุน มีผลผลิตทุเรียน 4,000 ลูก หนักลูกละ 3 กิโลกรัม
เท่ากับสวนนี้ จะมีผลผลิต 12 ตัน หรือ 12,000 กิโลกรัม
และขายได้กิโลกรัมละ 160 บาท
เท่ากับว่า จะได้เงินมาเป็นเลขกลม ๆ 2,000,000 บาท
ถ้าเราลองดูข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ต้นทุนผลิตทุเรียน จะอยู่ที่ราว 28,240 บาทต่อตัน
สรุปคือ ต้นทุนสวนทุเรียนนี้ อยู่ราว ๆ 340,000 บาท
ถ้าดูตรงนี้ สวนทุเรียนดูน่าลงทุนไม่น้อย เพราะดูเหมือนว่า น่าจะสร้างกระแสเงินสดส่วนเกิน มากถึง 1,660,000 บาท ในแต่ละปี
แต่อย่าลืมว่า มูลค่าของเงินในอนาคตน้อยลงเรื่อย ๆ หรือพูดอีกอย่างคือ เงิน 1,660,000 บาท ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต จะมีมูลค่าน้อยกว่าเงินจำนวน 1,660,000 บาท ในวันนี้ เพราะมีเรื่องของเงินเฟ้อมาเกี่ยวข้อง
อีกทั้งยังมีเรื่องของ “ค่าเสียโอกาส” ที่ถ้าเราเอาเงินไปลงทุนทำอย่างอื่น เช่น ฝากประจำ, ซื้อตราสารหนี้, ทองคำ, หุ้น หรือทำธุรกิจที่ต่างออกไป
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การทำสวนทุเรียน จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าทรัพย์สินอื่น ๆ หรือคุ้มค่าที่จะทำหรือไม่ ? ก็เป็นคำถามที่ต้องตอบให้ได้
ดังนั้นเพื่อจะหาผลตอบแทนของการลงทุนสวนทุเรียน เอาไว้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ
เราจึงต้องใช้ NPV และ IRR เข้ามาคำนวณ
แล้ว NPV กับ IRR คืออะไร ?
NPV หรือ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ ของผลตอบแทนรูปตัวเงิน ที่เราคาดว่าจะได้รับจากการลงทุน
ซึ่งถ้าได้ค่าออกมาเป็นบวก หมายความว่า ธุรกิจตรงนี้น่าลงทุน
อย่างที่บอกไปว่า เงินในอนาคต จะน้อยกว่าในอดีตเสมอ
ดังนั้นเราจึงต้องแปลงผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต กลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ด้วย “อัตราคิดลด”
ซึ่งอัตราคิดลด ก็คือตัวเลขต้นทุนค่าเสียโอกาส ที่เราจะได้มาในอนาคต หากเอาเงินไปทำอย่างอื่น แทนที่จะมาลงทุนกับสิ่งที่เราเลือกทำ
ส่วน IRR คือ อัตราผลตอบแทนที่เราได้จากการลงทุนตรงนี้
ถ้าตัวเลข IRR ยิ่งสูงกว่าอัตราคิดลด หรือต้นทุนของเงินทุน
ธุรกิจตรงนี้ก็ยิ่งคุ้มค่ากับการลงทุนมากขึ้น
และ IRR ยังสามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างโครงการ หรือทรัพย์สินต่าง ๆ เพื่อประเมินว่า การลงทุนไหนให้ผลตอบแทนดีที่สุด
คราวนี้กลับมาดูเคสสวนทุเรียนในภาพยนตร์เรื่องวิมานหนามกันอีกรอบ
เพื่อคำนวณ NPV และ IRR แบบให้เข้าใจง่ายที่สุด
เราจะกำหนดเงื่อนไขเป็นแบบนี้
- เงินลงทุนทั้งหมด 2,000,000 บาท
แบ่งเป็นปีที่ 0 ที่เริ่มลงทุนเบื้องต้น 1,000,000 บาท ปีที่ 1-4 มีค่าดูแลทุเรียนปีละ 250,000 บาท
และมาเก็บผลผลิตได้ในปีที่ 5
- ผลผลิตทุเรียนทำได้ 12,000 กิโลกรัมทุกปี ตั้งแต่ปีที่ 5
- ราคาขายทุเรียน 160 บาทต่อกิโลกรัม และต้นทุนที่ 28 บาทต่อกิโลกรัมในทุกปี ไม่เปลี่ยนแปลง
- สวนทุเรียน ให้ผลผลิตถึงปีที่ 30
และเราจะใช้อัตราคิดลด 10% ซึ่งเป็นผลตอบแทนคาดหวัง ที่จะเอาไปลงทุนอย่างอื่นแทน เช่น ตลาดหุ้น ที่ระยะยาวให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว ๆ 10% ต่อปี
เมื่อเงื่อนไขทั้งหมดเป็นแบบนี้ เท่ากับว่า กระแสเงินสดแต่ละปี ที่มีการคิดลดกลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ก็จะเท่ากับ
- ปีที่ 0 กระแสเงินสด -1,000,000 บาท
- ปีที่ 1 กระแสเงินสด -227,273 บาท
- ปีที่ 2 กระแสเงินสด -206,612 บาท
- ปีที่ 3 กระแสเงินสด -187,829 บาท
- ปีที่ 4 กระแสเงินสด -170,753 บาท
- ปีที่ 5 กระแสเงินสด +1,031,425 บาท
.
.
- จนถึงปีที่ 30 กระแสเงินสด +95,196 บาท
ซึ่งเมื่อนำกระแสเงินสดที่คิดลดแล้วมารวมกัน
จะได้ NPV ที่ +8,601,243 บาท
แปลได้ว่า สวนทุเรียนของเสกกับทองคำ เป็นอะไรที่น่าลงทุน เพราะ NPV มีค่าเป็นบวกนั่นเอง
ทีนี้เรามาดูอัตราผลตอบแทน หรือ IRR กันบ้าง โดยวิธีคำนวณ IRR คือ การหาอัตราคิดลดที่ทำให้ NPV มีค่าเท่ากับ 0
ทำไมต้องทำให้ NPV เท่ากับ 0 ก็เพราะว่าเป็นจุดที่ทำให้โครงการคุ้มทุนพอดี ไม่มีกำไรหรือขาดทุน
สรุปง่าย ๆ ว่า IRR จะบอกว่าโครงการหรือการลงทุนนั้น
ให้ผลตอบแทนเท่าไร เมื่อเทียบกับเงินลงทุน
หาก IRR มีค่าสูงกว่าต้นทุนของเงินทุน (Cost of Capital) แสดงว่าธุรกิจหรือโครงการนั้นน่าลงทุน
และจะยิ่งน่าลงทุนมากขึ้นอีก ถ้ามีค่า IRR สูงกว่าธุรกิจหรือโครงการอื่น ๆ
กลับกัน ถ้า IRR มีค่าน้อยกว่าต้นทุนของเงินทุน ก็จะหมายถึงไม่น่าลงทุน นั่นเอง
ซึ่งในเคสสวนทุเรียนนี้ อัตราคิดลดหรือต้นทุนเงินลงทุน ที่ทำให้ NPV มีค่าเป็น 0 จะอยู่ที่ 22%
พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ถ้าเรา
มีต้นทุนเงินลงทุน หรือต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน มากกว่า 22%
สวนทุเรียนนี้ ก็ไม่น่าลงทุนอีกต่อไป..
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่า นี่เป็นการประเมินความน่าลงทุนแบบง่าย ๆ ซึ่งผลตอบแทนอาจลดลงหรือมากกว่านี้ได้
ขึ้นอยู่กับราคาที่ขายได้ ความผันผวนของดิน ฟ้า อากาศ ศัตรูพืช หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ หรือไม่คาดคิด ด้วยเช่นกัน
ถึงตรงนี้ ถ้าลองดูในมุมความน่าลงทุน ก็คงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมในภาพยนตร์เรื่องวิมานหนาม ถึงแย่งสวนทุเรียนกันดุเดือด เพราะผลตอบแทนที่ได้มา คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างมาก
ทำให้แม่ของเสก รวมไปถึงลูกเลี้ยงของแม่เสก ต่างอยากได้สวนทุเรียน แม้ตัวเอง ไม่เคยลงเงินหรือลงแรง กับสวนทุเรียนเลยก็ตาม..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
Reference
- https://www.oae.go.th/view

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon