ผ่อนดาวน์ คืออะไร ?
[ประเด็นสำคัญ] ผ่อนดาวน์ คือการผ่อนชำระเงินจำนวนหนึ่งที่เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์เรียกเก็บกับเรา เพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันการจองซื้อกับทางโครงการ
เมื่อถึงกำหนดส่งมอบบ้าน หรือ คอนโดฯ เจ้าของโครงการจะนำเงินดาวน์ที่เราชำระแล้วมาหักออกจากราคาขายของบ้าน หรือ คอนโดฯ นั้น
การจองซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ในโครงการที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ
ทางเจ้าของโครงการอาจมีการเรียกเก็บ “เงินดาวน์”
หรือก็คือเงินต้นส่วนหนึ่งที่จ่ายล่วงหน้าสำหรับค้ำประกันการจองซื้อที่อยู่อาศัย
ซึ่งเงินดาวน์อาจมีมูลค่าตั้งแต่ 5-20% ของราคาที่อยู่อาศัยนั้น ๆ
ทางเจ้าของโครงการอาจมีการเรียกเก็บ “เงินดาวน์”
หรือก็คือเงินต้นส่วนหนึ่งที่จ่ายล่วงหน้าสำหรับค้ำประกันการจองซื้อที่อยู่อาศัย
ซึ่งเงินดาวน์อาจมีมูลค่าตั้งแต่ 5-20% ของราคาที่อยู่อาศัยนั้น ๆ
แต่ถ้าหากว่าราคาของบ้านที่เรากำลังซื้อ มีราคาสูง ก็จะทำให้เงินดาวน์ที่ต้องจ่ายก็จะสูงตามไปด้วย
ซึ่งถือเป็นเงินก้อนใหญ่ สำหรับใครหลาย ๆ คน
ซึ่งถือเป็นเงินก้อนใหญ่ สำหรับใครหลาย ๆ คน
ทางเจ้าของโครงการก็จะเสนอทางเลือกให้แก่เราคือการ “ผ่อนดาวน์”
ซึ่งทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องรับภาระหนักจนเกินไป และทยอยผ่อนเงินดาวน์จนกว่าจะสามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยได้
ซึ่งทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องรับภาระหนักจนเกินไป และทยอยผ่อนเงินดาวน์จนกว่าจะสามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยได้
โดยการผ่อนดาวน์สามารถเลือกได้ทั้งการผ่อนแบบปกติเท่ากันทุกงวด
หรือผ่อนแบบบอลลูน ซึ่งจะมีบางงวดที่จะต้องจ่ายเยอะกว่างวดอื่น ๆ
หรือผ่อนแบบบอลลูน ซึ่งจะมีบางงวดที่จะต้องจ่ายเยอะกว่างวดอื่น ๆ
ในส่วนของเงินดาวน์ที่เราจ่าย จะเป็นการจ่ายหรือผ่อนกับเจ้าของโครงการโดยตรง และจะถูกหักออกจากราคาของหลักทรัพย์เมื่อเราทำการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน
ยกตัวอย่างเช่น
หากเราจองซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในช่วง Pre-Sale หรือช่วงเปิดขายก่อนการก่อสร้างและมีกำหนดส่งมอบในอีก 3 ปี โดยมีข้อกำหนดให้มีการผ่อนดาวน์ 10% ของราคาหลักทรัพย์ หรือก็คือ 5 แสนบาท
หากเราจองซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในช่วง Pre-Sale หรือช่วงเปิดขายก่อนการก่อสร้างและมีกำหนดส่งมอบในอีก 3 ปี โดยมีข้อกำหนดให้มีการผ่อนดาวน์ 10% ของราคาหลักทรัพย์ หรือก็คือ 5 แสนบาท
จากตัวอย่างนี้ จึงทำให้ระหว่างที่รอการก่อสร้างบ้านของโครงการแล้วเสร็จนั้น เราจะต้องจ่ายค่าเงินดาวน์ จำนวน 5 แสนบาท ซึ่งเราสามารถที่จะจ่ายหมดทั้งก้อน หรือผ่อนชำระตามเงื่อนไขของโครงการ
และเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น เราจึงสามารถยื่นเรื่องขอกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งราคาของบ้านที่เรายื่นขอสินเชื่อกับธนาคารจะเหลือเพียง 4.5 ล้านบาท เพราะมีการหักเงินดาวน์ที่เราได้ชำระไปจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
ทั้งนี้ก่อนดำเนินการจองหรือเริ่มการผ่อนดาวน์ เราต้องตรวจสอบเงื่อนไขหรือข้อผูกมัดที่กำหนดใน “สัญญาจะซื้อจะขาย” ซึ่งเป็นสัญญาการจองให้ถี่ถ้วน
เนื่องจากเมื่อเราผ่อนชำระเงินดาวน์ไปจำนวนหนึ่ง แล้วเกิดเปลี่ยนใจและต้องการที่จะยกเลิกการจองที่อยู่อาศัยดังกล่าว แต่สุดท้ายแล้วเราอาจจะไม่ได้รับเงินดาวน์ที่เราผ่อนชำระไปแล้วกลับคืนมา
เพราะโดยปกติแล้วในสัญญาการจองซื้อจะอนุญาตให้เจ้าของโครงการสามารถยึดเงินดาวน์ที่เราผ่อนชำระไปแล้วได้ หากผู้จองซื้อทำผิดเงื่อนไขที่กำหนด และจะคืนเงินให้เฉพาะกรณีที่สถาบันการเงินไม่อนุมัติสินเชื่อให้แก่เราเท่านั้น
Tag: ผ่อนดาวน์