กรณีศึกษา ฟองสบู่หุ้นรถไฟ ที่เคยเกิดขึ้นหลัง ปฏิวัติอุตสาหกรรม
กรณีศึกษา ฟองสบู่หุ้นรถไฟ ที่เคยเกิดขึ้นหลัง ปฏิวัติอุตสาหกรรม /โดย ลงทุนแมน
เมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในประเทศอังกฤษ ได้มีการคิดค้นสิ่งที่เรียกว่าเครื่องจักร เพื่อเอามาใช้ในกระบวนการผลิตแทนแรงงานมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่เรียกว่า “การปฏิวัติอุตสาหกรรม”
หลังจากนั้น เครื่องจักร ก็ถูกใช้แพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม รวมไปถึงระบบขนส่ง ที่มีการพัฒนาหัวรถจักรไอน้ำ ก่อนจะพัฒนากลายมาเป็น “รถไฟ” ในเวลาต่อมา
การเดินทางรูปแบบใหม่นี้ สร้างความตื่นเต้นให้กับคนอังกฤษในยุคนั้นมาก ถึงขนาดที่ทำให้เกิดการเก็งกำไร “หุ้นบริษัทรถไฟ” อย่างร้อนแรง จนฟองสบู่แตกในที่สุด
เรื่องราวเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะย้อนอดีตให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เส้นทางรถไฟสาธารณะเชิงพาณิชย์สายแรกของโลก เริ่มให้บริการเมื่อปี 1830 หรือ 191 ปีที่แล้ว โดยเชื่อมระหว่างเมือง แมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูล ในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีระยะทางยาว 56 กิโลเมตร
ลงทุนแมนจะย้อนอดีตให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เส้นทางรถไฟสาธารณะเชิงพาณิชย์สายแรกของโลก เริ่มให้บริการเมื่อปี 1830 หรือ 191 ปีที่แล้ว โดยเชื่อมระหว่างเมือง แมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูล ในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีระยะทางยาว 56 กิโลเมตร
นับตั้งแต่นั้นมา คนอังกฤษก็สามารถเดินทางและขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การใช้บริการรถไฟ ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมรถไฟ จึงอยู่ในช่วงเวลาที่เฟื่องฟูมาก
โดยในปี 1845 มีบริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับรถไฟ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ถึง 259 บริษัท
โดยในปี 1845 มีบริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับรถไฟ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ถึง 259 บริษัท
สาเหตุเนื่องจาก รัฐบาลอังกฤษมีนโยบายเปิดเสรี ให้บริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์ หรือเพิ่งก่อตั้งใหม่ สามารถยื่นเสนอแผนก่อสร้างเส้นทางเดินรถไฟต่อรัฐสภาได้ รวมทั้งยังไม่ค่อยมีการตรวจสอบฐานะทางการเงินที่เข้มงวดมากด้วย
ซึ่งต่อมา รัฐสภาอังกฤษ มีการเห็นชอบแผนก่อสร้างเส้นทางรถไฟ รวมระยะทาง 15,300 กิโลเมตร
ทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลมายังอุตสาหกรรมรถไฟในอังกฤษ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 7% ของมูลค่า GDP ประเทศอังกฤษ ในขณะนั้นเลยทีเดียว
ทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลมายังอุตสาหกรรมรถไฟในอังกฤษ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 7% ของมูลค่า GDP ประเทศอังกฤษ ในขณะนั้นเลยทีเดียว
ถึงตรงนี้ เราคงจะพอรู้กันแล้วว่า มีผู้ประกอบการสนใจทำธุรกิจรถไฟเต็มไปหมด
ทีนี้มาลองดูในฝั่งของนักลงทุนกันบ้าง
ทีนี้มาลองดูในฝั่งของนักลงทุนกันบ้าง
หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม คนอังกฤษมีฐานะร่ำรวยขึ้นและมีเงินเก็บออม
ประกอบกับในช่วงต้นทศวรรษ 1840s ธนาคารกลางอังกฤษ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เงินทุน เริ่มไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง หุ้น
ประกอบกับในช่วงต้นทศวรรษ 1840s ธนาคารกลางอังกฤษ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เงินทุน เริ่มไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง หุ้น
และกลุ่มธุรกิจที่ตกเป็นเป้าหมายหลักของนักลงทุน ก็หนีไม่พ้น “หุ้นรถไฟ” ที่กำลังเติบโตดี และผลตอบแทนสูง
ต้องบอกว่า ในช่วงดังกล่าว สื่อหนังสือพิมพ์ มีอิทธิพลต่อการรับรู้ข่าวสารเป็นอย่างมาก และสำนักข่าวต่าง ๆ มีการเขียนถึงธุรกิจรถไฟแทบทุกวัน ซึ่งยิ่งทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังสูงต่อผลประกอบการในอนาคต
นอกจากนั้น กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อหุ้นรถไฟได้ โดยจ่ายเงินเพียง 10% ของมูลค่าทั้งหมดก่อน แล้วค่อยชำระส่วนที่เหลือเมื่อบริษัทเริ่มก่อสร้างโครงการ
เท่ากับว่า นักลงทุนบางรายอาจใช้เงินลงทุนเกินตัวได้ คล้ายกับการซื้อขายหุ้นแบบใช้มาร์จินในปัจจุบัน
นอกจากนั้น กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อหุ้นรถไฟได้ โดยจ่ายเงินเพียง 10% ของมูลค่าทั้งหมดก่อน แล้วค่อยชำระส่วนที่เหลือเมื่อบริษัทเริ่มก่อสร้างโครงการ
เท่ากับว่า นักลงทุนบางรายอาจใช้เงินลงทุนเกินตัวได้ คล้ายกับการซื้อขายหุ้นแบบใช้มาร์จินในปัจจุบัน
เมื่อปัจจัยที่เกี่ยวข้องเป็นเช่นนี้ ฟองสบู่ของการเก็งกำไร จึงก่อตัวขึ้น..
ในปี 1843 ถือเป็นจุดเริ่มต้น ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง
หลายคนที่เริ่มมีเงินเก็บเงินออมเมื่อได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าราคาหุ้นกลุ่มรถไฟเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ ก็เริ่มทยอยเอาเงินเก็บมาลงทุนในหุ้นรถไฟ
บางคนทุ่มเงินเก็บทั้งหมดซื้อหุ้นรถไฟ บางคนถึงกับไปกู้เงินมาซื้อหุ้น เพราะต่างก็หวังว่าราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ แล้วตัวเองก็จะได้กำไรก้อนโต
ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ทำจุดสูงสุดในเดือนสิงหาคม ปี 1845 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 100% ภายใน 2 ปีครึ่ง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักลงทุนกลับพบความจริงว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทเหล่านั้น ไม่เป็นไปตามคาดหวังสักเท่าไรนัก..
เพราะโครงการเส้นทางรถไฟ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง และใช้เวลาก่อสร้างนาน ทำให้กำไรของบริษัทโตไม่ทันตามนักลงทุนคาด และบริษัทก็จ่ายเงินปันผลได้น้อยลง
เพราะโครงการเส้นทางรถไฟ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง และใช้เวลาก่อสร้างนาน ทำให้กำไรของบริษัทโตไม่ทันตามนักลงทุนคาด และบริษัทก็จ่ายเงินปันผลได้น้อยลง
นักลงทุนหลายคนที่เริ่มหมดหวังและเห็นท่าไม่ดี ก็เริ่มเทขายหุ้นรถไฟออกมา
และสุดท้าย หุ้นรถไฟ จึงเริ่มถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง
และสุดท้าย หุ้นรถไฟ จึงเริ่มถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง
ในปี 1850 ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟ ปรับตัวลดลงต่ำสุดกว่า 67% เทียบกับจุดสูงสุดเมื่อ 5 ปีก่อนหน้า และต่ำกว่าตอนก่อนเกิดการเก็งกำไรถึง 33%
วิกฤติฟองสบู่ในครั้งนั้น ได้ส่งผลให้นักลงทุนขาดทุนหนัก บางคนที่ไปกู้มาหรือใช้มาร์จินซื้อหุ้นก็เสียหายหนัก จนบางรายสูญเสียเงินเก็บไปหมด ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม หรือกระทั่งล้มละลาย
และเมื่อนักลงทุนไม่สามารถชำระเงินระดมทุนได้ตามสัญญา ก็ทำให้บริษัทรถไฟหลายแห่ง ต้องปิดตัวลงไป หรือยอมขายกิจการให้กับผู้เล่นรายใหญ่ ในราคาที่ถูกมาก
ไม่เว้นแม้แต่ บริษัทของคุณ George Hudson ซึ่งมีฉายาว่า “ราชาแห่งรถไฟ (The Railway King)” เนื่องจากเขาเป็นผู้บริหารเส้นทางรถไฟที่มีความยาวกว่า 1,600 กิโลเมตร
ในภายหลัง เขากลับถูกเปิดโปงว่า บริษัทมีการตกแต่งบัญชี และจ่ายปันผลจากเงินของนักลงทุนรายใหม่ ในลักษณะเดียวกับแชร์ลูกโซ่
โดยในปี 1850 มีบริษัทรถไฟ หลงเหลืออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เพียง 87 บริษัท จากก่อนหน้านี้ที่มีอยู่มากกว่า 250 บริษัท
นอกจากนั้น เส้นทางรถไฟจากเดิมที่ตามแผนต้องสร้างให้เสร็จรวม 15,300 กิโลเมตร ก็ถูกสร้างเสร็จราว 10,000 กิโลเมตร หรือแค่ 2 ใน 3 ของระยะทางที่รัฐสภาเคยอนุมัติและตั้งเป้า
อย่างไรก็ตาม หลายปีหลังจากนั้น อุตสาหกรรมรถไฟ ก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว และไม่เกิดเหตุการณ์เก็งกำไรอย่างร้อนแรงซ้ำอีก เพราะภาครัฐมีบทเรียนในอดีต และเข้ามากำกับดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น
สรุปข้อคิดที่ได้จากวิกฤติฟองสบู่ทุกครั้งคือ
เมื่อมนุษย์ได้รู้จักกับของสิ่งใหม่ ย่อมเกิดความสนใจเป็นพิเศษ
แต่ถ้าความตื่นตาตื่นใจที่มากเกินไป จนกลายเป็นความคลั่ง รวมตัวเข้ากับ “ความโลภ”
มันก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์เก็งกำไรในลักษณะนี้ อยู่เรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Railway_Mania
-https://www.focus-economics.com/blog/railway-mania-the-largest-speculative-bubble-you-never-heard-of
-https://mpra.ub.uni-muenchen.de/21820/1/MPRA_paper_21820.pdf
เมื่อมนุษย์ได้รู้จักกับของสิ่งใหม่ ย่อมเกิดความสนใจเป็นพิเศษ
แต่ถ้าความตื่นตาตื่นใจที่มากเกินไป จนกลายเป็นความคลั่ง รวมตัวเข้ากับ “ความโลภ”
มันก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์เก็งกำไรในลักษณะนี้ อยู่เรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Railway_Mania
-https://www.focus-economics.com/blog/railway-mania-the-largest-speculative-bubble-you-never-heard-of
-https://mpra.ub.uni-muenchen.de/21820/1/MPRA_paper_21820.pdf