กรณีศึกษา Haidilao กำไรโตระเบิด แต่มูลค่าบริษัทลดลง -80% /โดย ลงทุนแมน
ปี 2021 Haidilao International Holding เจ้าของร้านหม่าล่าหม้อไฟจีน เคยมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 2 ล้านล้านบาท

แต่มาวันนี้ กลับเหลือเพียง 0.4 ล้านล้านบาท
หรือหายไป 80% ในเวลาเพียง 3 ปี

ทั้งที่กำไรในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เติบโตเฉลี่ย 144%

ทำไม Haidilao ถึงมูลค่าลดลง 80% ทั้งที่กำไรโตระเบิด ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในปี 1994 Haidilao หรือ ไหตี่เลา ของคุณ Zhang Yong เริ่มต้นจากร้านหม้อไฟเล็ก ๆ ในจีน ก่อนที่จะขยายสาขาไปทั่วประเทศ

ต่อมา Haidilao ก็เริ่มขยายสาขาไปต่างประเทศ โดยเริ่มจากสิงคโปร์ ตามมาด้วยประเทศอื่น ๆ รวมถึงไทยด้วย

มาวันนี้ Haidilao มีมากกว่า 1,500 สาขา ใน 14 ประเทศทั่วโลก

แต่อย่างที่บอกไปว่า มูลค่าบริษัทของ Haidilao International Holding หายไป 80% ในเวลาเพียง 3 ปี

ซึ่งถ้าเราลองดูผลประกอบการของ Haidilao International Holding ในช่วงที่ผ่านมา

ปี 2020
รายได้ 135,000 ล้านบาท กำไร 1,460 ล้านบาท

ปี 2021
รายได้ 184,500 ล้านบาท ขาดทุน 19,650 ล้านบาท

ปี 2022
รายได้ 146,500 ล้านบาท กำไร 6,480 ล้านบาท

ปี 2023
รายได้ 195,600 ล้านบาท กำไร 21,200 ล้านบาท

จะเห็นว่า
- รายได้เติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี
- กำไรเติบโตเฉลี่ย 144% ต่อปี

ต้องบอกก่อนว่า Haidilao มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ทั้งหมด 3 บริษัท ได้แก่

- Haidilao International Holding มูลค่าบริษัท 420,000 ล้านบาท
ดูแลและบริหารงานร้านหม้อไฟ Haidilao ในจีน มาเก๊า ฮ่องกง และไต้หวัน ทั้งหมด 1,374 สาขา

- Super Hi International Holding มูลค่าบริษัท 40,100 ล้านบาท
ดูแลและบริหารงานร้านหม้อไฟ Haidilao ในประเทศอื่นที่เหลือ เช่น สิงคโปร์ ไทย อเมริกา ทั้งหมด 115 สาขา

- Yihai International Holding มูลค่าบริษัท 70,600 ล้านบาท
ซัปพลายเออร์เครื่องปรุงหม้อไฟของ Haidilao รวมถึงผลิตสินค้าอื่น เช่น น้ำซุปและน้ำจิ้มสำเร็จรูป

ซึ่งบริษัทที่เรากำลังพูดถึงคือ Haidilao International Holding ที่มีธุรกิจอยู่ในจีน

งั้นคำถามก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับ Haidilao ในจีน ?

ย้อนกลับไปในช่วงปี 2018 ร้านหม้อไฟ Haidilao ได้รับความนิยมอย่างมากที่จีน ทำให้บริษัทตัดสินใจขยายสาขาอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับลูกค้าได้มากขึ้น

จาก 466 สาขา ในปี 2018
สู่ 1,298 สาขา ในปี 2020

แต่เส้นทางที่กำลังเต็มไปด้วยความหวัง กลับไม่เป็นใจอย่างที่คิด เพราะวิกฤติล็อกดาวน์ช่วงปี 2020 ทำให้คนไม่สามารถกินอาหารนอกบ้านได้

และอย่างที่รู้กันว่าในจีน การล็อกดาวน์ยืดเยื้อนานมาก ซึ่ง Haidilao ได้รับผลกระทบตรงนี้ไปเต็ม ๆ

จนทำให้บริษัทขาดทุนอย่างหนักในปี 2021 เช่นเดียวกับมูลค่าบริษัทที่ลดลงเรื่อย ๆ

แม้บริษัทจะพลิกสถานการณ์จากขาดทุนมาเป็นกำไรได้ในปี 2022 ภายใต้ CEO คนใหม่คือ คุณ Yang Lijuan

รวมถึงผลประกอบการที่โตต่อเนื่องในปี 2023
แต่มูลค่าบริษัทก็ยังไม่กลับมา..

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนมุมมองใหม่ โดยมองว่า ราคาที่ซื้อขายกันของ Haidilao นั้นแพงเกินไป จากการมองโลกในแง่ดี

ซึ่งช่วงปี 2019-2022 ตลาดให้ค่า P/E ราว ๆ 60-80 เท่า แถมเคยขึ้นไปพีกสุดที่ P/E 818 เท่า..

แต่ตอนนี้ P/E ของ Haidilao ลดลงมาอยู่ที่ 17.8 เท่า ซึ่งสมเหตุสมผลมากขึ้น

สาเหตุที่นักลงทุนกังวล จนส่งผลกระทบต่อตัวคูณ หรือ P/E ที่ตลาดไม่สามารถให้สูงแบบพรีเมียม ได้อย่างเช่นเคย

เป็นเพราะว่าตอนนี้ การแข่งขันในกลุ่มร้านหม้อไฟในจีน สูงมาก โดยมีมากกว่า 650,000 ร้านในจีน ทั้งเชนใหญ่ และร้านเล็ก ๆ ที่เปิดกันเอง

แม้ Haidilao มีภาพลักษณ์ในเรื่องของการบริการที่ดีมาก เช่น บริการทำเล็บระหว่างรอคิว แต่เจ้าอื่นก็มีจุดเด่นไม่แพ้กัน เช่น

- Xiabu Xiabu ราคาไม่แพง และกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้
- Coucou Hotpot ราคาแพง แต่มีความอินเทรนด์
- Da Long Yi Hotpot มีการตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์

ซึ่งการแข่งขันที่รุนแรงนี้ ไม่ได้ส่งผลต่อแค่ส่วนแบ่งตลาด และความไม่แน่นอนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความสามารถในการขึ้นราคาของ Haidilao ด้วย

ยิ่งบวกกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ชาวจีนรัดเข็มขัด ยิ่งทำให้ Haidilao ขึ้นราคาได้ยาก ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว

โดยเมื่อต้นปี 2020 Haidilao เคยพยายามขึ้นราคาสินค้าในจีนมาแล้วรอบหนึ่ง แต่โดนวิจารณ์หนัก เลยต้องกลับมาขายในราคาเดิม

ส่วนในปี 2023 ที่ผ่านมา ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น หลัก ๆ มาจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

แต่ถ้าเราไปดูยอดใช้จ่ายต่อหัวของลูกค้าอยู่ที่ 502 บาท ลดลงจาก 532 บาท ในปีก่อนหน้า

จากสถานการณ์ทั้งหมด ทำให้จากเดิมที่นักลงทุนมอง Haidilao อย่างสดใส และให้ค่า P/E ที่สูง

แต่พอนักลงทุนกลับมามองความจริงมากขึ้น
มองว่าภาพในอนาคตของ Haidilao อาจไม่โดดเด่นเหมือนเดิม
จึงลดความคาดหวังลง และนำมาสู่ค่า P/E ที่ลดลงด้วยเช่นกัน

เมื่อ P/E ถูกหั่นลง จึงทำให้มูลค่าบริษัทโดยรวมร่วงลงตาม แม้บริษัทมีกำไรมากขึ้น นั่นเอง

ซึ่งก็เป็นความท้าทายของ Haidilao ว่าจะเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน กลับคืนมาได้หรือไม่

แต่อีกหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจคือ
ถ้าลองเทียบกับ Haidilao ในต่างประเทศ
ซึ่งมียอดใช้จ่ายต่อหัวของลูกค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 909 บาท หรือมากกว่าเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว

ก็เป็นไปได้ว่า ความหวังของ Haidilao อาจจะไม่ได้อยู่ที่ประเทศจีนอีกต่อไปแล้ว แต่น่าจะเป็นสาขาในต่างประเทศ ที่ยังมีโอกาสขยายสาขาได้อีก..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman