กรณีศึกษา โรงแรมบีทู จากธุรกิจครอบครัว สู่บัดเจทโฮเทล ใหญ่สุดในไทย
กรณีศึกษา โรงแรมบีทู จากธุรกิจครอบครัว สู่บัดเจทโฮเทล ใหญ่สุดในไทย
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่ 12 ปีก่อน
พี่น้องครอบครัวจาวลา คือ คุณพิชัย คุณวสันต์ และ ดร.นิรันดร์ จาวลาที่แต่เดิมทำธุรกิจขายผ้า และเป็นนักลงทุนรายเล็กในอสังหาริมทรัพย์ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดไอเดียที่จะก่อตั้งธุรกิจโรงแรม
หากเราพูดถึงการก่อตั้งธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยสมัยนั้น หลายคนก็อาจจะบอกว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเราก็คือ ชาวต่างชาติ เนื่องจากประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
นั่นจึงทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แบรนด์โรงแรมยักษ์ใหญ่ทั้งจากประเทศไทย และต่างประเทศได้นำเสนอแบรนด์โรงแรมที่มีราคาระดับปานกลาง สูง ถึงสูงมาก
โดยโรงแรมแต่ละแห่งก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุม ห้องจัดสัมนา เพื่อที่จะรองรับได้ทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว และลูกค้าเชิงธุรกิจภายในสถานที่เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวจาวลามีมุมมองในธุรกิจโรงแรมที่แตกต่าง
แล้วมุมมองนี้แตกต่างอย่างไร วันนี้ลงทุนแมนได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ ดร.นิรันดร์ จาวลา ผู้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมชื่อ บีทู ที่จากธุรกิจครอบครัว กลายเป็นเชนบัดเจทโฮเทลที่ใหญ่สุดในประเทศไทยเวลานี้
แล้วมุมมองนี้แตกต่างอย่างไร วันนี้ลงทุนแมนได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ ดร.นิรันดร์ จาวลา ผู้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมชื่อ บีทู ที่จากธุรกิจครอบครัว กลายเป็นเชนบัดเจทโฮเทลที่ใหญ่สุดในประเทศไทยเวลานี้
ดร.นิรันดร์ จาวลา มองว่าแทนที่จะทำธุรกิจโรงแรมเหมือนคนอื่นเขากลับมองเห็น “ช่องว่าง” ในธุรกิจโรงแรม ที่ยังไม่มีใครเริ่มทำ
ซึ่งช่องว่างในที่นี้ก็คือ โรงแรมที่มีดีไซน์ในราคาประหยัดสำหรับนักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวชาวไทย
โดยไอเดียดังกล่าวก็ได้กลายมาเป็นการก่อตั้งแบรนด์โรงแรม B2 อ่านว่า บีทู ซึ่งก็ได้ย่อมาจากคำว่า Boutique & Budget
โดยตัวธุรกิจนั้น ก็เป็นไปตามชื่อแบรนด์ อธิบายง่าย ๆ ก็คือ บีทู เป็นเชนโรงแรมที่มีกิมมิกเฉพาะตัว มีเอกลักษณ์การออกแบบแตกต่างออกไปตามแต่ละสถานที่ แต่ละจังหวัด
ซึ่งตรงนี้ก็จะต่างกับเชนโรงแรมขนาดใหญ่ที่มักจะมีแพทเทิร์นแบบเดียวกันทั้งหมด
นอกจากนี้ บีทูก็ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
เรื่องนี้เป็นหัวใจสำคัญในการควบคุมต้นทุน ทำให้ที่พักสามารถมีราคาที่ถูก
แล้ว ดร.นิรันดร์ วางแนวคิดในการทำธุรกิจโรงแรมอย่างไร?
ดร.นิรันดร์ บอกว่าหัวใจของเครือโรงแรมบีทูก็คือ “ให้มากมาก”
ในที่นี้ก็คือการมอบประสบการณ์ห้องพัก และบรรยากาศการเข้าพักที่ไม่ต่างจากโรงแรมระดับ 3 ถึง 4 ดาวในราคาระดับหอพักรายวัน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าในการที่จะมาพักกับบีทู
นอกจากนี้ แนวทางการสร้างแบรนด์ และการตลาดสมัยใหม่ในยุคนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทีละมาก ๆ เช่นการจัดกิจกรรมห้องพักราคา 2 บาท
แนวทางการทำธุรกิจเหล่านี้จึงกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แบรนด์บีทู เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และติดตลาดชาวไทยอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้บีทูเติบโตอย่างรวดเร็วคือ การจัดการเนื้องานที่เหมาะกับความถนัดของแต่ละคน โดยคุณพิชัย และคุณวสันต์ จาวลา ที่นอกจากจะเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว ก็มีตำแหน่งเป็น Business Development ดูแล สรรหาและพัฒนาอาคารโรงแรมให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ในขณะที่ ดร.นิรันดร์ จาวลา ผู้ถือหุ้นอีกหนึ่งคน และเป็นน้องชายคนสุดท้อง มีตำแหน่งเป็น CEO รับผิดชอบในการบริหารธุรกิจโรงแรมในเครือทั้งหมด
การบริหารที่ลงตัว จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว
การบริหารที่ลงตัว จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว
ตรงนี้ ดร.นิรันดร์ บอกว่า สมัยนั้น เชนโรงแรมราคาถูก หรือบัดเจทโฮเทลที่เน้นจับตลาดโดเมสติกถือเป็นธุรกิจใหม่ในประเทศไทย ไม่มีใครคิดจะทำจึงไม่มีผู้เล่นในตลาด
หากเราบุกเบิกเป็นเจ้าแรก มีตลาดรองรับ และสร้างแบรนด์ได้ดี
เราก็จะสามารถเติบโต และสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างรวดเร็ว
เราก็จะสามารถเติบโต และสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างรวดเร็ว
แล้วเมื่อเราต้องทำของราคาถูก เราต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?
ดร.นิรันดร์ ได้เล่าว่าสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นพิเศษสำหรับโมเดลธุรกิจแบบนี้ก็คือ ความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุน
เรื่องแรกก็คือ บุคลากร เนื่องจากการโรงแรมหรือธุรกิจบริการ หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ที่ต้องมีบุคลกรจำนวนมาก ประกอบกับการทำงานที่เฉพาะด้านจึงต้องมีการฝึกอบรมอยู่สม่ำเสมอ
ซึ่งสิ่งที่ท้าทายก็คือ การทำให้บุคลากรที่ดี อยู่กับเรานาน
ซึ่งสิ่งที่ท้าทายก็คือ การทำให้บุคลากรที่ดี อยู่กับเรานาน
ในส่วนนี้ ดร.นิรันดร์ ก็ได้จัดตั้งโรงเรียนการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยวขึ้น ที่ได้ขึ้นตรงต่อกระทรวงศึกษาธิการสำหรับฝึกฝนบุคคลากรโรงแรมโดยเฉพาะ เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพการบริการได้ในระยะยาว
และปัจจุบันได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาควบคู่กับสถาบันเพื่อพัฒนานิสิตนักศึกษาให้มีความรู้ความสามารถ
และปัจจุบันได้พัฒนาหลักสูตรการศึกษาควบคู่กับสถาบันเพื่อพัฒนานิสิตนักศึกษาให้มีความรู้ความสามารถ
ตั้งแต่ก่อนที่จะจบมหาวิทยาลัย เมื่อจบออกนิสิตนักศึกษาเล่านี้จะกลายเป็นบุคลการที่มีคุณภาพและพร้อมทำงานได้ในทั้นที
อีกส่วนสำคัญก็คือเรื่องของ เทคโนโลยี
ส่วนนี้ ดร.นิรันดร์ ที่มีพื้นฐานจบการศึกษาปริญญาตรี โท ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และปริญญาเอกด้านบริการธุรกิจ จากสหรัฐอเมริกา รวมถึงได้มีโอกาสศึกษาดูงานจากเชนโรงแรมที่ต่างประเทศ
จึงได้นำประสบการณ์เหล่านี้มาประยุกต์เพื่อวางโครงสร้างระบบการบริการและการตลาดพร้อมระบบฐานข้อมูลมาให้เหมาะสมกับธุรกิจของต้นใช้เพื่อลดต้นทุนการจัดการ และเพื่อการวางช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยโมเดลธุรกิจทั้งหมดนี้ถูกจดทะเบียน
จัดตั้งเป็นธุรกิจภายใต้ บริษัทบีทู โฮเทล จำกัด
จัดตั้งเป็นธุรกิจภายใต้ บริษัทบีทู โฮเทล จำกัด
ปี 2561 รายได้ 372 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 444 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 444 ล้านบาท
คิดเป็นการเติบโต 19%
ปัจจุบัน บีทู มีโรงแรมภายใต้การบริหาร 44 แห่ง
แบ่งออกเป็นที่เป็นเจ้าของเอง 37 แห่ง และที่รับบริหารจัดการอีก 7 แห่ง
แบ่งออกเป็นที่เป็นเจ้าของเอง 37 แห่ง และที่รับบริหารจัดการอีก 7 แห่ง
แล้ววิกฤติโควิด 19 ในปีนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดไหน?
ดร.นิรันดร์ ก็ได้เล่าว่าด้วยความเป็นธุรกิจโรงแรมแน่นอนว่าเครือโรงแรมบีทูนั้นได้รับผลกระทบตั้งแต่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เคอร์ฟิว และจำกัดการเดินทาง
แต่หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ยอดการเข้าพักของบีทูก็ได้กลับมาสู่ระดับที่น่าพอใจอย่างรวดเร็ว เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย และแบรนด์บีทูก็มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว
แต่แม้ว่ายอดเข้าพักจะกลับสู่ระดับที่น่าพอใจ แต่รายได้รวมที่บริษัททำได้กลับทำได้น้อยลง
นั่นก็เพราะว่าเชนโรงแรมที่เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ จำเป็นที่จะต้องหั่นราคาโรงแรม
ลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เพื่อที่จะรักษาสภาพคล่องของบริษัทเอาไว้
นั่นก็เพราะว่าเชนโรงแรมที่เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ จำเป็นที่จะต้องหั่นราคาโรงแรม
ลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เพื่อที่จะรักษาสภาพคล่องของบริษัทเอาไว้
ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาห้องพักของบีทูที่ต่ำอยู่แล้วถูกกดันให้ลดลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ดร.นิรันดร์ก็ได้มองว่าวิกฤติโรคระบาดในปีนี้ เป็นผลกระทบระยะสั้นประมาณ 1 ถึง 2 ปี และถือเป็นบทเรียนต่อผู้ประกอบการทุกราย ที่จะต้องหันมาให้ความสำคัญต่อเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท
แล้วจากเรื่องราวของโรงแรมบีทู เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง?
เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการต่อยอดมาทำบัดเจทโฮเทลเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ก็ถือเป็นหนึ่งในแนวคิดที่แปลกใหม่ ที่แน่นอนว่าวันแรกไม่มีใครรู้ว่าสำเร็จ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลองทำให้มันเกิดขึ้นจริง
อีกเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่สำคัญ แต่สำคัญก็คือ การสร้างแบรนด์ที่ชัดให้กับธุรกิจของเรา
เพราะในวันที่ตัวตนของเราชัด และเราสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี
ในวันหนึ่งข้างหน้า ลูกค้าก็อาจจะนึกถึงแบรนด์ของเราเป็นอันดับแรก
ในวันหนึ่งข้างหน้า ลูกค้าก็อาจจะนึกถึงแบรนด์ของเราเป็นอันดับแรก
อย่าง บีทู ที่ชัดเจนในความเป็นแบรนด์โรงแรมบูติก ราคาถูก ตั้งแต่วันแรก
จนวันนี้กลายมาเป็นแบรนด์โรงแรมบัดเจทโฮเทล ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
จนวันนี้กลายมาเป็นแบรนด์โรงแรมบัดเจทโฮเทล ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ดร.นิรันดร์ กล่าวปิดท้ายว่า ถ้าในวันนี้มีเจ้าของเชนโรงแรมรายใหญ่ มาขอซื้อหุ้น บีทู เขาก็จะปฏิเสธข้อเสนอทันที เพราะเขาเชื่อว่าธุรกิจบีทูจะเติบโตได้มากกว่านี้อีกหลายเท่า..