ปัจจุบันโลกการลงทุนเต็มไปด้วยความผันผวน ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบจากสงคราม ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือสงครามการค้า ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดการลงทุนทั่วโลก ความไม่แน่นอนเหล่านี้ทำให้นักลงทุนต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่มากขึ้น

ตลอดปีที่ผ่านมา มีสินทรัพย์ทางการเงินหลายประเภทที่สร้างผลตอบแทนได้ดีจนทำสถิติสูงสุดใหม่ เช่น หุ้นสหรัฐอเมริกา และทองคำ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสินทรัพย์อีกหลายประเภทที่ให้ผลตอบแทนติดลบ

โลกการลงทุน และธุรกิจในปี 2025 จะมีแนวโน้มอย่างไร โอกาสสร้างผลตอบแทน ของตลาดหุ้นทั่วโลก จะอยู่ที่ประเทศไหน สหรัฐฯ จะยังเป็นดาวรุ่ง หรือมีประเทศอื่น มาแซงได้ ?

ในยุคปัจจุบัน เรากำลังอยู่ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารที่ไหลมาจากทุกทิศทาง ทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ผู้เชี่ยวชาญนับร้อยนับพันคน ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งแต่ละฝ่ายก็มีมุมมองที่แตกต่างกัน แล้วนักลงทุนอย่างเรา จะเลือกเชื่อ วิเคราะห์ และตัดสินใจจากข้อมูลเหล่านี้อย่างไร ?

การเข้าถึงข้อมูลการลงทุนได้ง่าย และมีต้นทุนต่ำลง คือข้อได้เปรียบ ของนักลงทุนในยุคนี้ แต่ในทางกลับกัน ข้อมูลมหาศาลเหล่านี้ ก็สามารถสร้างความสับสน ระหว่างข้อเท็จจริง และข้อมูลที่เข้ามารบกวนการตัดสินใจ

ภาษี คือหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อกระเป๋าเงินของทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจตอนนี้ก็คือ Negative Income Tax หรือการนำเงินจากคนรวยมาช่วยเหลือคนจน ซึ่งมีหลายประเทศที่พัฒนาแล้วได้นำโมเดลนี้ไปใช้ แต่คำถามสำคัญก็คือ นโยบายเช่นนี้จะเหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่ ?

ในช่วงที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย กำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในทุก ๆ ปี นอกจากการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ในตลาดทุนแล้ว การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด (Private Asset) จึงถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ

ตลาดหุ้นไทย Sideway แบบนี้ลงทุนอะไรดี ? ทาง บล.กสิกรไทย นำเสนอผลิตภัณฑ์ หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง Bull Note และ KIKO มาให้แล้ว

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงที่ผ่านมา อินเดียและเวียดนาม ถือเป็น 2 ประเทศที่นักลงทุนไทยจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด

“เวียดนาม และอินเดีย” เติบโตแบบติดจรวด ทั้งฟากของเศรษฐกิจ และตลาดทุน โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2024 หุ้นอินเดียโต 11% ขณะที่หุ้นเวียดนามโต 16% สวนทางตลาดหุ้นอื่น ๆ ในเอเชีย