กรณีศึกษา สมใจ x BNK48
กรณีศึกษา สมใจ x BNK48 / โดย ลงทุนแมน
เร็วๆนี้เราจะได้เห็นเครื่องเขียน ที่น่ารักที่สุด
สมใจเป็นใคร ทำไมมาเกี่ยวข้องกับ BNK48
บางท่านคงทราบว่าสมใจเป็นเจ้าของร้านเครื่องเขียนหลายสาขา
เรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา
เร็วๆนี้เราจะได้เห็นเครื่องเขียน ที่น่ารักที่สุด
สมใจเป็นใคร ทำไมมาเกี่ยวข้องกับ BNK48
บางท่านคงทราบว่าสมใจเป็นเจ้าของร้านเครื่องเขียนหลายสาขา
เรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา
เพราะใครจะไปคิดว่าปากการาคาไม่กี่บาท
ถ้าเอารูปน้องๆใน BNK48 มาแปะที่ปากกาจะขายได้ราคาเท่าไร?
ต่อไปเราอาจจะได้เห็นปากกาที่ซื้อมาแล้วไม่กล้าใช้
ต่อไปเราอาจจะเห็นปากกา SSR แท่งละเป็นหมื่น
นี่คือตัวอย่างของการปรับตัว และ หาช่องทาง
ถ้าดูจากประวัติที่ลงทุนแมนเคยเขียน ก็คงไม่แปลกใจ เพราะผู้บริหารเป็นคนรุ่นที่ 3 ที่สามารถปรับตัวรับมือกับยุคแห่งเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าร้านเครื่องเขียนร้านอื่น
แล้วธุรกิจของเราบริหารด้วยคนรุ่นไหนอยู่?
ทำไมสมใจถึงมีวันนี้ วันที่สมใจ ร่วมมือกับ BNK48
ลองมาดูกัน
ร้านสมใจ เป็นร้านเครื่องเขียนเก่าแก่
รู้ไหมว่าร้านนี้มีอายุยาวนานกว่า 63 ปีแล้ว
และที่สำคัญมีรายได้เป็นหลักร้อยล้านบาท
ที่มาของเรื่องนี้เป็นยังไง ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง
ร้านสมใจเปิดให้บริการครั้งแรกในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2498
แต่ในช่วงนั้น ก่อนที่จะมาขายอุปกรณ์เครื่องเขียนอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ทางร้านได้ขายหนังสือวรรณกรรมอย่าง อิเหนา สามก๊ก
เจ้าของร้านชื่อ คุณตานิยม และคุณยายสมใจ เคยทำงานอยู่ร้านหนังสือใหญ่แห่งหนึ่ง มาก่อน จึงมาเปิดร้านขายหนังสือของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากร้านสมใจอยู่ในย่านที่มีร้านหนังสือจำนวนมาก ทำให้ทั้งสองคนขายหนังสือได้ไม่ดีนัก
แต่จากการที่ร้านตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนสวนกุหลาบ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากการขายหนังสือ มาขายเครื่องเขียนในราคาย่อมเยาแทน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี
โดยกลุ่มลูกค้าประจำสมัยนั้นคือ นักเรียนและนักศึกษา ทำให้ต่อมาทางร้านจึงตัดสินใจขยายสาขาเพิ่มเป็น 4 สาขา
ต่อมาในรุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ของผู้บริหารในปัจจุบัน ได้เริ่มนำระบบไอทีเข้ามาช่วยให้การบริหาร พร้อมทั้งขยายไปทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัดเพิ่ม
รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว บริหารโดย
คุณ ภวานี วิทยานนท์
คุณ นพนารี พัวรัตนอรุณกร
และ คุณวิธวินทร์ วิทยานนท์
ทั้งสามคนเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ ทำให้เริ่มการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้เหมาะสมกับโลกปัจจุบันให้มากขึ้น
ตลาดเครื่องเขียนของไทยปัจจุบัน มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท มีผู้เล่นรายใหญ่หลายราย
แต่สมใจก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ในปัจจุบัน โดยตอนนี้ร้านสมใจมีสินค้ามากกว่า 60,000 รายการ มีทั้งอุปกรณ์เครื่องเขียน กระดาษ เครื่องมือในการทำงานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
รายได้และกำไรของ บริษัท สมใจค้าหนังสือเครื่องเขียน จำกัด
ปี 2557 รายได้ 195 ล้านบาท กำไร 7.9 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 193 ล้านบาท กำไร 6.7 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 222 ล้านบาท กำไร 8.7 ล้านบาท
ลงทุนแมนเคยสงสัยเหมือนกันว่า โลโก้ร้านสมใจ ดูไม่เหมือนคนอื่น และร้านกล้าทำให้แตกต่าง โลโก้นี้มีที่มาที่ไปยังไง
ซึ่งหลังจากไปค้นมาก็พบว่า โลโก้ร้านสมใจมาจากลายมือของยายสมใจผู้ก่อตั้งนั่นเอง
เรื่องนี้ทำให้เราคิดได้ว่า แต่ละรุ่นจะมีพัฒนาการในการทำธุรกิจที่ต่างกัน
ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก ที่ต้องเริ่มจากการลองผิดลองถูก
ก่อนที่จะเข้าสู่รุ่นที่สอง ที่เป็นช่วงของการขยายสาขา พร้อมทั้งเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
ในขณะที่รุ่นที่สาม เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่ต้องนำพาธุรกิจให้ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในรุ่นไหน สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าทุกรุ่นต้องเจอก็คือ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในช่วงนั้นๆ
ซึ่งถ้าใครทำได้ก็จะประสบความสำเร็จจนสมใจได้ไม่ยาก เหมือนร้านสมใจนั่นเอง..
--------------------------
ติดตามบทความลงทุนแมน ได้ที่
-หนังสือลงทุนแมน 3.0 หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
-บล็อกดิท blockdit.com/app
-อินสตาแกรม instagram.com/longtunman
-ทวิตเตอร์ twitter.com/longtunman