Tesla ไตรมาสล่าสุด กำไรต่ำคาด แต่หุ้นขึ้น 5% เพราะอีลอน จะยุ่งกับทรัมป์น้อยลง /โดย ลงทุนแมน
Tesla เจ้าพ่อยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ประกาศผลประกอบการ Q1/2025 (ม.ค. - มี.ค. 2025)

ซึ่งทั้งรายได้และกำไร ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทั้งหมด

- รายได้ 647,142 ล้านบาท ลดลง 9% จากปีก่อนหน้า
- กำไร 31,261 ล้านบาท ลดลง 39% จากปีก่อนหน้า

โดยถ้าหากแยกรายได้ออกเป็น Segment

- ธุรกิจรถยนต์
รายได้ 467,475 ล้านบาท ลดลง 20%

โดยรายได้ส่วนนี้มาจากการจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Tesla ทั้งหมด

- ธุรกิจพลังงาน
รายได้ 91,373 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67%

รายได้ส่วนนี้ มาจากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและกักเก็บพลังงานอย่างเช่น Solar Roof ไปจนถึงแบตเตอรี่ Powerwall และ Megapack

- ธุรกิจบริการและอื่น ๆ
รายได้ 88,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%

รายได้ส่วนนี้ มาจากการขายรถมือสอง หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ เช่น ค่าบริการซ่อมรถที่ไม่ได้อยู่ในประกัน ค่าอะไหล่ รายได้จากการใช้ Supercharging แบบมีค่าใช้จ่าย รายได้จากบริการประกันภัย และการขายสินค้าปลีก

Tesla บอกว่า รายได้ในขารถยนต์ที่ลดลง มาจากการส่งมอบรถยนต์ที่ลดลง จากการปรับไลน์การผลิตใหม่ใน 4 โรงงาน เพื่อรองรับการผลิต Tesla Model Y Juniper

รวมถึงการลดราคา และการจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขาย

โดยในจีน Tesla ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งมากมาย โดยเฉพาะจากค่าย BYD นอกจากนี้เจ้าพ่อแบรนด์สินค้าไอทีอย่าง Xiaomi ก็เริ่มลงมาเล่นในตลาดรถยนต์อย่างจริงจังแล้ว

ขณะที่ฝั่ง Robotaxi หรือรถแท็กซี่ไร้คนขับนั้น Tesla ก็ยังคงตามหลังคู่แข่งอย่าง Waymo ของ Alphabet อยู่

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา Tesla เผชิญกับแรงกดดัน จากการที่อีลอน มัสก์ CEO ของบริษัท เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารงานของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

ซึ่งก็ดึงทั้งเวลาและความสนใจของเขา ออกไปจาก Tesla พอสมควร

อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์ ได้กล่าวว่า เขาจะลดบทบาทในทำเนียบขาวลง ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป

ทำให้แม้ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของ Tesla จะออกมาไม่สวยงาม แต่ราคาหุ้นของ Tesla ก็ดีดขึ้น 5.4% ในช่วงซื้อขายหลังตลาดปิด (After Hours)