Hermès ยังขายดีทั่วโลก ไตรมาสล่าสุด รายได้โต 11%
Hermès ยังขายดีทั่วโลก ไตรมาสล่าสุด รายได้โต 11%
Hermès เจ้าแห่งสินค้าแบรนด์หรู ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2024
ซึ่งรายได้ยังสามารถเติบโตได้ดี ท่ามกลางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง
Hermès เจ้าแห่งสินค้าแบรนด์หรู ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2024
ซึ่งรายได้ยังสามารถเติบโตได้ดี ท่ามกลางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง
-ไตรมาส 3 ปี 2024
บริษัทมีรายได้ 134,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3%
บริษัทมีรายได้ 134,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3%
-9 เดือนแรกปี 2024
บริษัทมีรายได้ 408,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8%
บริษัทมีรายได้ 408,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8%
ถ้าเจาะรายได้ของ Hermès ในไตรมาสล่าสุด แยกตามภูมิภาค จะพบว่ามีการเติบโตในทุกตลาด
-เอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) มีรายได้ 57,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0%
-ญี่ปุ่น มีรายได้ 13,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8%
-ยุโรป (ยกเว้นฝรั่งเศส) มีรายได้ 21,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3%
-ฝรั่งเศส มีรายได้ 13,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1%
-อเมริกา มีรายได้ 24,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4%
-ตะวันออกกลาง มีรายได้ 5,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.4%
-ญี่ปุ่น มีรายได้ 13,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8%
-ยุโรป (ยกเว้นฝรั่งเศส) มีรายได้ 21,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3%
-ฝรั่งเศส มีรายได้ 13,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1%
-อเมริกา มีรายได้ 24,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4%
-ตะวันออกกลาง มีรายได้ 5,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.4%
โดยตลาดที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นก็คือ ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น กับประเทศในยุโรป และตามด้วยอเมริกา
ในขณะที่เอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) มีการเติบโตเพียงเล็กน้อย เนื่องจากฐานค่อนข้างสูง
ซึ่งประเทศที่หนุนยอดขายคือ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และไทย
ส่วนยอดขายในจีน มีการชะลอตัวลง
ซึ่งประเทศที่หนุนยอดขายคือ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และไทย
ส่วนยอดขายในจีน มีการชะลอตัวลง
แต่ถ้ามาดูสัดส่วนรายได้ตามประเภทของสินค้าของ Hermès จะมาจาก
-เครื่องหนังและอานม้า มีรายได้ 57,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0%
-เสื้อผ้าสำเร็จรูปและ Accessories มีรายได้ 41,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5%
-ผ้าไหมและสิ่งทอ มีรายได้ 7,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0%
-จิวเวลรีและผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน มีรายได้ 16,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6%
-น้ำหอมและเครื่องสำอาง มีรายได้ 4,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
-นาฬิกา มีรายได้ 4,700 ล้านบาท ลดลง 18.2%
-อื่น ๆ มีรายได้ 2,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6%
-เครื่องหนังและอานม้า มีรายได้ 57,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.0%
-เสื้อผ้าสำเร็จรูปและ Accessories มีรายได้ 41,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5%
-ผ้าไหมและสิ่งทอ มีรายได้ 7,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0%
-จิวเวลรีและผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน มีรายได้ 16,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6%
-น้ำหอมและเครื่องสำอาง มีรายได้ 4,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
-นาฬิกา มีรายได้ 4,700 ล้านบาท ลดลง 18.2%
-อื่น ๆ มีรายได้ 2,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6%
สรุปแล้ว ในไตรมาสล่าสุด Hermès ยังคงขายดีเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเครื่องหนัง เช่น กระเป๋า, เสื้อผ้าและ Accessories รวมไปถึง จิวเวลรีและผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน
ยกเว้น นาฬิกา ที่มีรายได้ลดลง โดยบริษัทให้เหตุผลว่า เป็นเพราะปีก่อนหน้า ยอดขายนาฬิกามีฐานที่สูงมากกว่าปกติ จากการทำ Exclusive Event
รายได้จึงลดลงในเชิงเปรียบเปรียบ แต่คอลเลกชันนาฬิกาของแบรนด์ ยังคงได้รับความนิยมอยู่
รายได้จึงลดลงในเชิงเปรียบเปรียบ แต่คอลเลกชันนาฬิกาของแบรนด์ ยังคงได้รับความนิยมอยู่
สำหรับราคาหุ้นของ Hermès หลังจากผลประกอบการได้ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น
วันนี้ปรับตัวขึ้น +2%..
วันนี้ปรับตัวขึ้น +2%..