สรุปงบ TSMC ไตรมาสล่าสุด โตกว่าที่นักวิเคราะห์คาด แต่ให้จับตา ผลกระทบภาษีทรัมป์ /โดย ลงทุนแมน
TSMC ผู้ผลิตชิปเบอร์ 1 ของโลก ได้รายงานงบ Q1 ปี 2025 ที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ทั้งรายได้และกำไร เพราะความต้องการชิป AI ยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง

- รายได้ 859,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42%
- กำไร 370,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60%

โดยรายได้กว่า 73% มาจากการผลิตชิปที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ระดับ 7 นาโนเมตร หรือต่ำกว่า แบ่งเป็น
- 22% มาจากชิปขนาด 3 นาโนเมตร
- 36% มาจากชิปขนาด 5 นาโนเมตร
- 15% มาจากชิปขนาด 7 นาโนเมตร

TSMC เผยว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ ได้รับผลกระทบจากธุรกิจสมาร์ตโฟน แต่ยังมีแรงหนุนจากความต้องการชิป AI อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลประกอบการเติบโต ซึ่ง TSMC เป็นผู้ผลิตชิปขั้นสูงให้กับหลายบริษัท เช่น Nvidia

อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากนโยบายการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้ตั้งกำแพงภาษีต่อไต้หวัน และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
รวมถึงควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น กับบริษัทลูกค้าของ TSMC อย่าง Nvidia และ AMD

โดย TSMC มองว่าไตรมาส 2 ของปีนี้ ความต้องการเทคโนโลยีชิป 3 นาโนเมตร และ 5 นาโนเมตร จะยังแข็งแกร่ง แต่ต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบพฤติกรรมลูกค้า และอุปสงค์ในตลาดปลายทาง

TSMC ให้แนวโน้มรายได้ในไตรมาสหน้าว่า อาจอยู่ระหว่าง 945,500 ล้านบาท - 972,200 ล้านบาท

ปัจจุบัน สินค้าจากไต้หวัน เผชิญกับภาษีนำเข้า 10% จากสหรัฐฯ และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 32% หลังสิ้นสุดช่วงระงับภาษี 90 วัน หากไต้หวันยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ เกิดขึ้นกับรัฐบาลสหรัฐฯ

และเพื่อกระจายความเสี่ยงด้านซัปพลายเชน TSMC ได้ลงทุนจำนวนมาก ในโรงงานต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น, เยอรมนี และสหรัฐฯ แต่โรงงานหลักยังคงอยู่ที่ไต้หวัน

เมื่อเดือนที่ผ่านมา TSMC ได้ประกาศแผนลงทุนเพิ่มอีก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,329,000 ล้านบาท) ในสหรัฐฯ เพิ่มจากเดิมที่เคยประกาศลงทุนไว้ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,164,000 ล้านบาท) สำหรับโรงงาน 3 แห่ง

ซึ่ง AMD ประกาศว่า จะเริ่มผลิตชิปประมวลผลที่โรงงาน TSMC แห่งใหม่ในรัฐแอริโซนา ถือเป็นครั้งแรกที่ AMD จะผลิตชิปในสหรัฐฯ

และ Nvidia ก็เผยว่า เริ่มผลิตชิป Blackwell ที่โรงงานในแอริโซนาแล้ว และมีแผนจะสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่าสูงถึงครึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสหรัฐฯ ผ่านความร่วมมือกับ TSMC และพาร์ตเนอร์รายอื่น ๆ ภายใน 4 ปีข้างหน้าด้วย..