ส่องผลประกอบการ Microsoft ไตรมาสล่าสุด ทำไมหุ้นร่วง -3%
ส่องผลประกอบการ Microsoft ไตรมาสล่าสุด ทำไมหุ้นร่วง -3%
วันนี้ Microsoft ได้ประกาศงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2025 (ก.ค. - ก.ย. 2024)
โดยมีรายได้และกำไร ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้
วันนี้ Microsoft ได้ประกาศงบการเงินไตรมาส 1 ปี 2025 (ก.ค. - ก.ย. 2024)
โดยมีรายได้และกำไร ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้
ไตรมาสนี้บริษัทมี
- รายได้ 2,214,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%
- กำไร 833,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%
- คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 38%
- รายได้ 2,214,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%
- กำไร 833,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%
- คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 38%
มาเจาะในแต่ละธุรกิจของ Microsoft
1) ธุรกิจ Productivity and Business Processes มีรายได้ 956,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
1) ธุรกิจ Productivity and Business Processes มีรายได้ 956,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของผลิตภัณฑ์ Microsoft 365 ที่ลูกค้ากลุ่มองค์กร เติบโต 13% และลูกค้าทั่วไป เติบโต 5%
รวมถึงผลิตภัณฑ์ Dynamics ที่เติบโต 14% และรายได้จาก LinkedIn เติบโต 10%
2) ธุรกิจ Intelligent Cloud มีรายได้ 813,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20%
ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีตั้งแต่ Azure, SQL Server, Windows Server, Nuance, GitHub และบริการระดับองค์กร
โดยรายได้จากผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์และบริการคลาวด์ เพิ่มขึ้น 23%
ซึ่งการเติบโตของ Azure อยู่ที่ 33% โดย 12% ของการเติบโตนี้มาจากบริการด้าน AI
ซึ่งการเติบโตของ Azure อยู่ที่ 33% โดย 12% ของการเติบโตนี้มาจากบริการด้าน AI
3) ธุรกิจ More Personal Computing มีรายได้ 444,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%
โดยมีรายได้จาก Windows เพิ่มขึ้น 2%
รายได้จากการค้นหาและโฆษณาบน Bing เพิ่มขึ้น 18%
รายได้จาก Xbox เพิ่มขึ้น 61% ซึ่งส่วนนี้ได้ปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard
รายได้จากการค้นหาและโฆษณาบน Bing เพิ่มขึ้น 18%
รายได้จาก Xbox เพิ่มขึ้น 61% ซึ่งส่วนนี้ได้ปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard
และไตรมาสนี้ Microsoft ประกาศซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผล เป็นจำนวน 303,900 ล้านบาท
ซึ่ง Microsoft ยังคงลงทุนอย่างหนักในด้าน AI อย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและชิป เพื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตในอนาคต
โดยไตรมาสนี้ บริษัทได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไป 503,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อน
โดยไตรมาสนี้ บริษัทได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไป 503,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อน
และ Microsoft ยังเป็นผู้ลงทุนหลักใน OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ในรอบการระดมทุนล่าสุด
ซึ่งปัจจุบัน OpenAI มีมูลค่าสูงถึง 5,301,600 ล้านบาท โดยมี Microsoft เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด
ซึ่งปัจจุบัน OpenAI มีมูลค่าสูงถึง 5,301,600 ล้านบาท โดยมี Microsoft เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด
Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft กล่าวว่า
“การเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังเปลี่ยนแปลงงาน ผลงาน และกระบวนการทำงานในทุกบทบาท ทุกหน้าที่ และทุกกระบวนการทางธุรกิจ
เรากำลังขยายโอกาสและชนะใจลูกค้าใหม่ โดยช่วยให้พวกเขานำแพลตฟอร์มและเครื่องมือ AI ของเรา ไปใช้เพื่อสร้างการเติบโต และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน”
“การเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังเปลี่ยนแปลงงาน ผลงาน และกระบวนการทำงานในทุกบทบาท ทุกหน้าที่ และทุกกระบวนการทางธุรกิจ
เรากำลังขยายโอกาสและชนะใจลูกค้าใหม่ โดยช่วยให้พวกเขานำแพลตฟอร์มและเครื่องมือ AI ของเรา ไปใช้เพื่อสร้างการเติบโต และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน”
อย่างไรก็ดี แม้ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด จะออกมาเติบโตดีกว่าที่ตลาดมองไว้
แต่ Microsoft คาดการณ์ว่า ในไตรมาสถัดไป (Guidance)
บริษัทจะมีรายได้อยู่ในช่วง 2,299,600 ล้านบาท ถึง 2,333,400 ล้านบาท
แต่ Microsoft คาดการณ์ว่า ในไตรมาสถัดไป (Guidance)
บริษัทจะมีรายได้อยู่ในช่วง 2,299,600 ล้านบาท ถึง 2,333,400 ล้านบาท
ในขณะที่นักวิเคราะห์เคยประเมินไว้ว่า จะมีรายได้อยู่ที่ 2,358,000 ล้านบาท
หรือก็คือ เติบโตน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหวังไว้..
หรือก็คือ เติบโตน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหวังไว้..
ซึ่งส่วนหนึ่งก็อาจเป็นเพราะความเสี่ยงที่ Microsoft ต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ปัญหาการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน Data Center ที่ซัปพลายเออร์ภายนอกส่งมอบได้ล่าช้า ทำให้บริษัทไม่สามารถตอบสนองความต้องการในตลาดได้
การแข่งขันที่รุนแรงในทุกตลาด โดยเฉพาะบริการด้านคลาวด์และ AI
ความเสี่ยงจากการมุ่งเน้นบริการคลาวด์และ AI มากเกินไป
และการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่อาจไม่ให้ผลตอบแทนตามที่คาด (อย่างในตอนนี้ Microsoft ก็แบกรับผลขาดทุนที่เกิดจากผลการดำเนินงานของ OpenAI ไว้อยู่)
ความเสี่ยงจากการมุ่งเน้นบริการคลาวด์และ AI มากเกินไป
และการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่อาจไม่ให้ผลตอบแทนตามที่คาด (อย่างในตอนนี้ Microsoft ก็แบกรับผลขาดทุนที่เกิดจากผลการดำเนินงานของ OpenAI ไว้อยู่)
รวมถึงข้อจำกัดจากกฎหมายการแข่งขันทางการค้า และการกำกับดูแลจากหน่วยงานรัฐ
สรุปแล้ว Microsoft ยังคงมีผลประกอบการเติบโตดี แต่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ที่อาจกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท
และทำให้บริษัทมองการเติบโตในไตรมาสต่อไป ว่าจะเติบโตน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ นักลงทุน คาดหวังไว้
สรุปแล้ว Microsoft ยังคงมีผลประกอบการเติบโตดี แต่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ที่อาจกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท
และทำให้บริษัทมองการเติบโตในไตรมาสต่อไป ว่าจะเติบโตน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ นักลงทุน คาดหวังไว้
ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ ราคาหุ้นของ Microsoft ปรับตัวลง -3.7% ในช่วงซื้อขายหลังตลาดปิด นั่นเอง..
References
-https://www.microsoft.com/en-us/Investor/earnings/FY-2025-Q1/press-release-webcast
-https://www.cnbc.com/2024/10/30/microsoft-msft-q1-earnings-report-2025.html
References
-https://www.microsoft.com/en-us/Investor/earnings/FY-2025-Q1/press-release-webcast
-https://www.cnbc.com/2024/10/30/microsoft-msft-q1-earnings-report-2025.html