มหากาพย์ ตระกูล L'Oréal ขายหุ้นให้ Nestlé ป้องกันการถูกฮุบกิจการ
มหากาพย์ ตระกูล L'Oréal ขายหุ้นให้ Nestlé ป้องกันการถูกฮุบกิจการ /โดย ลงทุนแมน
หลายครอบครัว ไม่ยอมนำธุรกิจที่ต้นตระกูลสร้างมา แบ่งขายหุ้นให้คนนอก หรือนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะอยากรักษาให้เป็นมรดกของครอบครัวต่อไป
หลายครอบครัว ไม่ยอมนำธุรกิจที่ต้นตระกูลสร้างมา แบ่งขายหุ้นให้คนนอก หรือนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะอยากรักษาให้เป็นมรดกของครอบครัวต่อไป
แต่ในอดีต L'Oréal ซึ่งเป็นธุรกิจเครื่องสำอางและความงามที่ใหญ่สุดในโลก เคยเกือบถูกฮุบกิจการโดยรัฐบาล
จึงต้องใช้วิธีป้องกันด้วยการยอมเฉือนหุ้นเกือบครึ่งหนึ่ง ให้กับคนนอกซึ่งก็คือ Nestlé เจ้าพ่ออาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่สุดในโลก เพื่อป้องกันการถูกฮุบกิจการ
การเอาคนนอกเข้ามา ช่วย L'Oréal ป้องกันการถูกฮุบกิจการ ได้อย่างไร
และทำไมต้องเป็น Nestlé ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ฝั่ง L'Oréal เริ่มต้นธุรกิจจากคุณ Eugène Schueller ในปี 1909 ด้วยสินค้าแรกอย่างน้ำยาย้อมสีผม ก่อนจะขยายธุรกิจ ไปเข้าซื้อกิจการเครื่องสำอางอื่น ๆ เข้ามาในเครือ
และทำไมต้องเป็น Nestlé ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ฝั่ง L'Oréal เริ่มต้นธุรกิจจากคุณ Eugène Schueller ในปี 1909 ด้วยสินค้าแรกอย่างน้ำยาย้อมสีผม ก่อนจะขยายธุรกิจ ไปเข้าซื้อกิจการเครื่องสำอางอื่น ๆ เข้ามาในเครือ
ส่วน Nestlé เกิดจากการควบรวมของสองบริษัทเข้าด้วยกันในปี 1905 เพื่อทำธุรกิจนมข้นหวาน อาหารสำหรับเด็ก ก่อนจะขยายไปผลิตสินค้าอื่น ๆ ที่ต่อยอดจากนม
พอดูประวัติคร่าว ๆ แล้ว อีกฝั่งขยายธุรกิจเครื่องสำอางและความงาม แต่อีกฝั่งเลือกทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
เรียกได้ว่า ทั้งคู่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดกันเลยในสายธุรกิจ ไม่ใช่ทั้งคู่แข่งที่จะมาแข่งขันกัน และไม่ใช่พันธมิตรทางธุรกิจที่จะร่วมมือกันได้
แต่เรื่องราวของทั้งคู่ ก็มาบรรจบกันจนได้ในปี 1974
หลังจากทำธุรกิจของตัวเองไปกว่า 60 ปีแล้ว..
หลังจากทำธุรกิจของตัวเองไปกว่า 60 ปีแล้ว..
ในปีนั้น คุณ Liliane Bettencourt ทายาทคนเดียวของผู้ก่อตั้ง L'Oréal รับมรดกหุ้นของกิจการจากคุณพ่อที่เสียชีวิตไป
ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันนี้ คุณ François Mitterrand ผู้สมัครประธานาธิบดีของฝรั่งเศส มีแนวคิดที่จะให้กิจการเอกชน
กลายมาเป็นของรัฐ ถ้าเขาชนะการเลือกตั้ง
คุณ Liliane เลยกลัวว่า L'Oréal จะตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลฝรั่งเศส แม้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงไหม แต่เธอก็ต้องหาทางปกป้องกิจการของพ่อเธอเสียก่อน
กลายมาเป็นของรัฐ ถ้าเขาชนะการเลือกตั้ง
คุณ Liliane เลยกลัวว่า L'Oréal จะตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลฝรั่งเศส แม้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงไหม แต่เธอก็ต้องหาทางปกป้องกิจการของพ่อเธอเสียก่อน
ตอนนั้นเอง ถ้าเธอและครอบครัว ยังถือหุ้นใหญ่ใน L'Oréal หากรัฐบาลฝรั่งเศสอยากฮุบกิจการ ก็น่าจะทำได้ไม่ยาก เพราะสมาชิกในครอบครัวซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเป็นคนฝรั่งเศสทั้งสิ้น
ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกฮุบกิจการไปเป็นของรัฐ
คุณ Liliane ก็ต้องหาพันธมิตรทางธุรกิจนอกประเทศ เข้ามาช่วยถือหุ้นบางส่วนใน L'Oréal
คุณ Liliane ก็ต้องหาพันธมิตรทางธุรกิจนอกประเทศ เข้ามาช่วยถือหุ้นบางส่วนใน L'Oréal
เธอจึงติดต่อไปที่ Nestlé ซึ่งตอนนั้นมีแผนขยายธุรกิจไปไกลกว่าอาหารและเครื่องดื่ม โดยเสนอว่า จะขายหุ้นกว่าครึ่งหนึ่งของตัวเองให้กับ Nestlé
ซึ่ง Nestlé ไม่ต้องจ่ายเป็นเงินสดเพื่อซื้อหุ้น แต่สามารถแลกกับหุ้นบางส่วนของ Nestlé ให้กับ L'Oréal ได้
หลังจากเจรจาสำเร็จ คุณ Liliane ก็ไม่ได้ให้ Nestlé
ถือหุ้นใหญ่ใน L'Oréal โดยตรง แต่ให้ถือผ่านบริษัท
โฮลดิงที่ชื่อว่า Gesparal
ถือหุ้นใหญ่ใน L'Oréal โดยตรง แต่ให้ถือผ่านบริษัท
โฮลดิงที่ชื่อว่า Gesparal
โดยบริษัทโฮลดิงนี้ ครอบครัว Bettencourt ของเธอ
จะถือหุ้น 51% ส่วนที่เหลืออีก 49% เป็นของ Nestlé
จะถือหุ้น 51% ส่วนที่เหลืออีก 49% เป็นของ Nestlé
ซึ่ง Gesparal ก็จะไปถือหุ้นใหญ่ 53.8% ใน L'Oréal
พร้อมอำนาจโหวตในบริษัทอีก 71.7% ของทั้งหมด
พร้อมอำนาจโหวตในบริษัทอีก 71.7% ของทั้งหมด
ด้วยโครงสร้างแบบนี้ ทำให้คุณ Liliane และตระกูล Bettencourt ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะสามารถเข้ามาฮุบกิจการได้ง่าย ๆ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณ François Mitterrand อดีตผู้สมัครประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ที่เคยเสนอแนวคิดยึดกิจการเอกชนมาเป็นของรัฐ ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง
โครงสร้างกุมอำนาจบริษัท ที่ L'Oréal ได้สร้างไว้เพื่อป้องกันการถูกฮุบกิจการโดยรัฐ ก็ไม่ได้จำเป็นอีกต่อไป
ทำให้กลุ่มครอบครัวเจ้าของ L'Oréal เริ่มกลับมาระแวงว่า Nestlé อาจจะเข้ามาฮุบกิจการได้ เพราะตอนนั้น Nestlé มีมูลค่ากิจการใหญ่กว่า L'Oréal มากถึง 2 เท่า
และทั้งครอบครัว Bettencourt และ Nestlé มีสัดส่วนหุ้นที่แตกต่างกันใน Gesparal เพียง 2% เท่านั้น
หาก Nestlé ได้หุ้นจากสมาชิกครอบครัว Bettencourt ไปอยู่ในมือเพียงเล็กน้อย ก็จะกลายเป็นเจ้าของสิทธิโหวตกว่า 71.7% ใน L'Oréal ที่ Gesparal ครอบครองอยู่ได้เลย
ในปี 2004 จึงมีการจัดโครงสร้างใหม่ด้วยการควบรวม Gesparal เข้ากับ L'Oréal ทำให้ครอบครัว Bettencourt และ Nestlé กลายเป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงใน L'Oréal ทันที
โดยตระกูล Bettencourt จะถือหุ้น 27.5%
ส่วน Nestlé ถือหุ้น 26.4%
ส่วน Nestlé ถือหุ้น 26.4%
สิทธิการโหวต 71.7% ใน L'Oréal ที่ Gesparal ครอบครองอยู่ ก็ถูกกระจายให้กับครอบครัว Bettencourt และ Nestlé ตามสัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่แทน
และเพื่อป้องกันไม่ให้ Nestlé ไล่ซื้อหุ้นของ L'Oréal
ตระกูล Bettencourt จึงทำสัญญากับ Nestlé ว่าห้ามเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นในช่วงเวลา 10 ปี
ตระกูล Bettencourt จึงทำสัญญากับ Nestlé ว่าห้ามเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นในช่วงเวลา 10 ปี
นอกจากนี้ ในสัญญายังระบุว่า Nestlé ไม่สามารถเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นได้ ในช่วงที่คุณ Liliane ยังมีชีวิตอยู่
แต่ถ้าคุณ Liliane เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 6 เดือน Nestlé สามารถเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นได้
พอเป็นแบบนี้ เรียกได้ว่า เป็นการปิดโอกาสให้ Nestlé
ไล่ซื้อหุ้นของ L'Oréal จนสามารถฮุบกิจการได้
ไล่ซื้อหุ้นของ L'Oréal จนสามารถฮุบกิจการได้
เวลาผ่านไปจนถึงปี 2014 ซึ่งเป็นปีที่สัญญาบอกว่า
ทั้งคู่สามารถเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นได้ (แต่ Nestlé เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นไม่ได้ เพราะคุณ Liliane ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเธอเสียชีวิตลงในปี 2017)
ทั้งคู่สามารถเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นได้ (แต่ Nestlé เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นไม่ได้ เพราะคุณ Liliane ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเธอเสียชีวิตลงในปี 2017)
Nestlé ได้ตัดสินใจลดหุ้นตัวเองเหลือเพียง 23.3% โดยขายหุ้นคืนให้ตระกูล Bettencourt ทำให้ตระกูลนี้
มีสัดส่วนหุ้นใน L'Oréal เพิ่มขึ้นเป็น 33.2%
มีสัดส่วนหุ้นใน L'Oréal เพิ่มขึ้นเป็น 33.2%
แลกกับการที่ L'Oréal ขายหุ้น 50% ใน Galderma
ธุรกิจความงามที่เคยถือหุ้นคนละครึ่งกับ Nestlé
ธุรกิจความงามที่เคยถือหุ้นคนละครึ่งกับ Nestlé
แต่ปัจจุบัน Nestlé ได้ขายธุรกิจ Galderma ให้กับกลุ่ม
นักลงทุนรายใหญ่ไปทั้งหมดแล้ว และลดสัดส่วนการถือหุ้นใน L'Oréal ลงอีก เหลือเพียง 20.1%
นักลงทุนรายใหญ่ไปทั้งหมดแล้ว และลดสัดส่วนการถือหุ้นใน L'Oréal ลงอีก เหลือเพียง 20.1%
ส่วนตระกูล Bettencourt ก็กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ L'Oréal ด้วยสัดส่วนกว่า 34.7% ของหุ้นทั้งหมด
แล้วที่ผ่านมา Nestlé ได้ผลตอบแทนจากการถือหุ้นใน L'Oréal มากแค่ไหน
ในปี 2014 Nestlé ขายหุ้นไปราว 318,300 ล้านบาท
หลังปรับเงินเฟ้อแล้ว
หลังปรับเงินเฟ้อแล้ว
ส่วนในปี 2021 Nestlé ขายหุ้นอีกครั้ง เป็นเงิน 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 343,000 ล้านบาท
เมื่อรวมกันแล้ว Nestlé ได้เงินมารวมกันถึง 661,300
ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งนี่ยังไม่รวมเงินปันผลที่ได้จากการถือหุ้นใน L'Oréal มาอย่างยาวนานกว่า 40 ปีอีกด้วย
ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งนี่ยังไม่รวมเงินปันผลที่ได้จากการถือหุ้นใน L'Oréal มาอย่างยาวนานกว่า 40 ปีอีกด้วย
ถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า Nestlé คิดถูกที่ตัดสินใจช่วยถือหุ้นใน L'Oréal แม้ต้องแลกกับหุ้นตัวเองไปเพียงเล็กน้อย
ซึ่งผลที่ได้มาก็กลับคุ้มค่า เพราะ L'Oréal กลายเป็นเครื่องจักรผลิตเงินสดให้ Nestlé ใช้ได้เรื่อย ๆ
แต่สำหรับ L'Oréal แล้ว แม้การให้ Nestlé เข้ามาถือหุ้น จะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการถูกฮุบกิจการได้
แต่อย่างไรก็ตาม โลกธุรกิจก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา มิตรที่ให้ความช่วยเหลือในวันนี้ อาจเปลี่ยนมาเป็นศัตรูที่อันตรายในอนาคตก็ได้
นั่นจึงกลายเป็นที่มาของสัญญาต่าง ๆ ที่ตระกูลของ L'Oréal ทำกับ Nestlé เพื่อบีบไม่ให้ไล่ซื้อหุ้นในช่วงที่ผ่านมา จนเสี่ยงต่อการถูกฮุบกิจการ
เรียกได้ว่า แม้จะจับมือช่วยเหลือกัน แต่คำว่าไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูที่ถาวร ก็ยังคงใช้ได้ดี ในโลกธุรกิจที่มีแต่ความไม่แน่นอน..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-A New Agreement Between The Majority Shareholders Of L’Oreal 2004
-https://www.economist.com/business/2009/01/22/in-pursuit-of-beauty
-https://en.wikipedia.org/wiki/Liliane_Bettencourt
-https://www.researchgate.net/figure/LOreals-ownership-structure-as-an-example-of-a-simple-pyramid-structure_fig4_288420085
-https://www.cosmeticsdesign-europe.com/Article/2004/02/05/L-Oreal-clarifies-shareholder-structure/
-https://www.britannica.com/topic/LOreal
-https://www.cascade.app/studies/loreal-strategy-study
-https://www.nestle.com/ask-nestle/our-company/answers/nature-of-nestles-relationship-with-loreal
-https://www.swissinfo.ch/eng/banking-fintech/deal-gives-nestl%C3%A9-direct-stake-in-l-or%C3%A9al/3751882
-https://www.nestle.com/media/pressreleases/allpressreleases/lor%C3%A9alrelationshipnewbasis-3feb03
-https://www.cnbc.com/2021/12/08/nestle-trims-loreal-stake-with-10-billion-sale.html
-https://www.reuters.com/article/world/bettencourt-death-stirs-speculation-about-loreal-ownership-idUSKCN1BX0NN/
-https://www.loreal-finance.com/eng/news-release/loreal-finalises-strategic-transaction-nestle
-https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/attention-shifts-to-nestl-233-s-29b-l-oreal-stake-after-sale-of-skin-health-unit-52918238
-https://www.loreal-finance.com/eng/news-release/loreal-groupe-acquires-10-stake-galderma-pure-play-dermatology-leader-and-one-worlds
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-A New Agreement Between The Majority Shareholders Of L’Oreal 2004
-https://www.economist.com/business/2009/01/22/in-pursuit-of-beauty
-https://en.wikipedia.org/wiki/Liliane_Bettencourt
-https://www.researchgate.net/figure/LOreals-ownership-structure-as-an-example-of-a-simple-pyramid-structure_fig4_288420085
-https://www.cosmeticsdesign-europe.com/Article/2004/02/05/L-Oreal-clarifies-shareholder-structure/
-https://www.britannica.com/topic/LOreal
-https://www.cascade.app/studies/loreal-strategy-study
-https://www.nestle.com/ask-nestle/our-company/answers/nature-of-nestles-relationship-with-loreal
-https://www.swissinfo.ch/eng/banking-fintech/deal-gives-nestl%C3%A9-direct-stake-in-l-or%C3%A9al/3751882
-https://www.nestle.com/media/pressreleases/allpressreleases/lor%C3%A9alrelationshipnewbasis-3feb03
-https://www.cnbc.com/2021/12/08/nestle-trims-loreal-stake-with-10-billion-sale.html
-https://www.reuters.com/article/world/bettencourt-death-stirs-speculation-about-loreal-ownership-idUSKCN1BX0NN/
-https://www.loreal-finance.com/eng/news-release/loreal-finalises-strategic-transaction-nestle
-https://www.spglobal.com/marketintelligence/en/news-insights/latest-news-headlines/attention-shifts-to-nestl-233-s-29b-l-oreal-stake-after-sale-of-skin-health-unit-52918238
-https://www.loreal-finance.com/eng/news-release/loreal-groupe-acquires-10-stake-galderma-pure-play-dermatology-leader-and-one-worlds