รู้จัก The Standard เชนโรงแรมที่แสนสิริ ขายหุ้นให้ Hyatt ในราคา 10,000 ล้าน
รู้จัก The Standard เชนโรงแรงที่แสนสิริ ขายหุ้นให้ Hyatt ในราคา 10,000 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
เช้านี้มีข่าวใหญ่ในวงการธุรกิจ โดยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการขายหุ้น Standard International Holdings ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 71%
เช้านี้มีข่าวใหญ่ในวงการธุรกิจ โดยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการขายหุ้น Standard International Holdings ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 71%
ให้กับกลุ่ม Hyatt เชนโรงแรมยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ
ด้วยมูลค่าดีลรวมไม่เกิน 355 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12,100 ล้านบาท
ด้วยมูลค่าดีลรวมไม่เกิน 355 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12,100 ล้านบาท
ซึ่งแบ่งเป็น
-ค่าตอบแทนเริ่มแรก (Upfront) 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะชำระเมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์
-ค่าตอบแทนเริ่มแรก (Upfront) 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะชำระเมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์
-ค่าตอบแทนตามผลการดำเนินงาน (Earnout) ไม่เกิน 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโรงแรมและโครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่ ภายใต้แบรนด์ของ SIM และ Bunkhouse ซึ่งจะชำระเมื่อโครงการใหม่ ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด
-ค่าตอบแทนพิเศษตามผลการดำเนินงาน (Earnout Bonus) ไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
-ค่าตอบแทนการใช้แบรนด์ของ SIM และ Bunkhouse
และคาดว่า ดีลนี้จะเสร็จสมบูรณ์ ในเดือนกันยายน 2567
โดยหลังจากประกาศขายธุรกิจ The Standard ออกไป และรับทรัพย์กว่าหมื่นล้านบาท
วันนี้ ราคาหุ้นของ SIRI ก็ปรับตัวขึ้นทันที 4.3%
วันนี้ ราคาหุ้นของ SIRI ก็ปรับตัวขึ้นทันที 4.3%
ทีนี้ บางคนน่าจะสงสัยว่า โรงแรม The Standard คือใคร
เมื่อเห็นชื่อ The Standard หลายคนอาจจะคิดว่า เครือโรงแรมแห่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกับสำนักข่าวออนไลน์ในไทยที่ชื่อเดียวกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
เมื่อเห็นชื่อ The Standard หลายคนอาจจะคิดว่า เครือโรงแรมแห่งนี้ มีความเกี่ยวข้องกับสำนักข่าวออนไลน์ในไทยที่ชื่อเดียวกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
เพราะแบรนด์โลโกกลับหัว The Standard ที่จะเล่าถึงในวันนี้ เป็นเครือโรงแรมสไตล์บูทีกจากสหรัฐอเมริกา ที่เคยมีคุณลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ เป็นผู้ร่วมลงทุน
และมีผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย อย่าง แสนสิริ
และมีผู้ถือหุ้นใหญ่ เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย อย่าง แสนสิริ
โรงแรม The Standard มีความเป็นมาอย่างไร
แล้วทำไมโลโกของโรงแรมแห่งนี้ถึงกลับหัว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
แล้วทำไมโลโกของโรงแรมแห่งนี้ถึงกลับหัว ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของโรงแรม The Standard นั้น แรกเริ่มเดิมที เป็นโรงแรมที่ชื่อว่า “Thunderbird” ที่ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 1962 หรือราว 62 ปีก่อน
โดยโรงแรมแห่งนี้ มีความโดดเด่นด้านการออกแบบรูปทรงอาคารที่ทันสมัย รวมถึงการออกแบบผนังอาคารให้โค้ง ลักษณะเป็นคลื่นที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
และในช่วงกลางทศวรรษ 1970 ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Golden Crest แถมยังถูกปรับเปลี่ยนการให้บริการ กลายไปเป็นบ้านพักสำหรับคนวัยเกษียณ
กระทั่งปี 1999 คุณ Andre Balazs นักธุรกิจชาวอเมริกัน ได้ตัดสินใจเข้าซื้อโรงแรมนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเข้าซื้อด้วยเงินส่วนตัวแล้ว เขาก็ยังมีผู้ร่วมลงทุนเป็นดาราฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง คุณลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ และคุณคาเมรอน ดิแอซ รวมถึงศิลปินในวงการอีกหลายคนอีกด้วย
จนในที่สุด ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “The Standard” อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
พร้อมกับโลโกกลับหัว ซึ่งเป็นที่สงสัยของใครหลายคน
พร้อมกับโลโกกลับหัว ซึ่งเป็นที่สงสัยของใครหลายคน
ทีนี้ เรามาดูกันว่าโลโกกลับหัว มีที่มาจากอะไร ?
แม้ว่าโรงแรมแห่งนี้จะมีชื่อว่า The Standard ที่แปลว่ามาตรฐาน
แต่โลโกที่ถูกออกแบบโดยคุณ Tibor Kalman นี้ กลับเป็นไปตามแนวคิดที่ว่า “Anything but Standard”
ซึ่งหมายความว่า “อะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มาตรฐาน”
แต่โลโกที่ถูกออกแบบโดยคุณ Tibor Kalman นี้ กลับเป็นไปตามแนวคิดที่ว่า “Anything but Standard”
ซึ่งหมายความว่า “อะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มาตรฐาน”
นั่นก็เพราะคุณ Balazs ที่เป็นเจ้าของ มองว่าโดยปกติแล้ว ธุรกิจโรงแรมจะดำเนินธุรกิจโดยใช้มาตรฐานเป็นที่ตั้ง แต่สำหรับ The Standard นั้น อยากจะทำสิ่งที่แตกต่างออกไปสักหน่อย
โดยความแตกต่างที่ว่านั้น ก็เช่น
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความคิดที่จะให้ล็อบบี้ ไปอยู่บนชั้นดาดฟ้า เหมือนห้องเพนต์เฮาส์ หรือแม้แต่การนำล็อบบี้เช็กอินไปไว้ในลิฟต์ แต่ท้ายที่สุดความคิดสุดแปลกนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ครั้งหนึ่งเขาเคยมีความคิดที่จะให้ล็อบบี้ ไปอยู่บนชั้นดาดฟ้า เหมือนห้องเพนต์เฮาส์ หรือแม้แต่การนำล็อบบี้เช็กอินไปไว้ในลิฟต์ แต่ท้ายที่สุดความคิดสุดแปลกนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ด้วยความที่ The Standard เริ่มต้นจากความคิดที่ว่าจะให้ความสำคัญอย่างมากกับงานดิไซน์
คุณ Balazs จึงคิดต่อไปอีกว่า แล้วทำไมถึงไม่นำร้านอาหาร รวมถึงไนต์คลับเจ๋ง ๆ มาไว้ในโรงแรมด้วยเลย
คุณ Balazs จึงคิดต่อไปอีกว่า แล้วทำไมถึงไม่นำร้านอาหาร รวมถึงไนต์คลับเจ๋ง ๆ มาไว้ในโรงแรมด้วยเลย
แนวคิดเหล่านี้ จึงได้ถูกสะท้อนออกมาเป็นเชนโรงแรมสไตล์บูทีก ที่จะมาพร้อมกับสระว่ายน้ำสีฟ้าอ่อน ห่วงยางสีชมพู มีเก้าอี้ และเตียงสระน้ำสีขาว ตัดกับพื้นหญ้าเทียมสีน้ำเงินสดรอบสระว่ายน้ำ อันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้
ซึ่ง The Standard ก็ยังได้คุณ Shawn Hausman นักออกแบบฉากภาพยนตร์ มาช่วยตกแต่งพื้นที่ภายในของโรงแรมอีกด้วย
นอกจากนั้น ยังมีร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีไนต์คลับ และวงดนตรีตลอดทุกวัน
จนทำให้ The Standard กลายมาเป็นหนึ่งในแหล่งพบปะของเหล่าคนดัง และคนที่รักในกิจกรรมยามค่ำคืนทันที
จนทำให้ The Standard กลายมาเป็นหนึ่งในแหล่งพบปะของเหล่าคนดัง และคนที่รักในกิจกรรมยามค่ำคืนทันที
หลังจากนั้น The Standard ก็ได้เปิดตัวในที่อื่น ๆ ตามมา โดยรูปแบบธุรกิจจะเป็นการเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์เก่า และนำมารีโนเวตด้วยดิไซน์เฉพาะตัว
- The Standard แห่งแรกใน Hollywood เป็นบ้านพักสำหรับคนวัยเกษียณมาก่อน
- The Standard, Downtown LA เป็นอาคารสำนักงานเก่าของบริษัทน้ำมันชื่อ Superior Oil
และได้เปลี่ยนอาคาร 12 ชั้นที่ประดับด้วยหินอ่อน ให้มีสระว่ายน้ำอยู่บนชั้นดาดฟ้า พร้อมลานเบียร์และบูทดีเจสำหรับปาร์ตี
- The Standard Miami ก็เป็นชุมชนอะพาร์ตเมนต์ สำหรับคนวัยเกษียณอีกเช่นกัน แถมยังอยู่ในทำเลที่ไม่มีใครคิดจะสร้างโรงแรมด้วยซ้ำ
- The Standard East Village ก็เกิดจากการควบรวมกับโรงแรม Cooper Square ในแมนแฮตตัน นครนิวยอร์ก
- The Standard, Downtown LA เป็นอาคารสำนักงานเก่าของบริษัทน้ำมันชื่อ Superior Oil
และได้เปลี่ยนอาคาร 12 ชั้นที่ประดับด้วยหินอ่อน ให้มีสระว่ายน้ำอยู่บนชั้นดาดฟ้า พร้อมลานเบียร์และบูทดีเจสำหรับปาร์ตี
- The Standard Miami ก็เป็นชุมชนอะพาร์ตเมนต์ สำหรับคนวัยเกษียณอีกเช่นกัน แถมยังอยู่ในทำเลที่ไม่มีใครคิดจะสร้างโรงแรมด้วยซ้ำ
- The Standard East Village ก็เกิดจากการควบรวมกับโรงแรม Cooper Square ในแมนแฮตตัน นครนิวยอร์ก
โดย The Standard ทุกแห่งจะมีการดิไซน์และตกแต่งด้วยสีสันสดใส ประกอบไปด้วยไนต์คลับ ร้านอาหาร และบาร์เครื่องดื่ม จึงเป็นโรงแรมบูทีกที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน รวมถึงเป็นที่จัดปาร์ตีริมสระว่ายน้ำสำหรับบางแห่งอีกด้วย
สำหรับแห่งที่ห้าในชื่อ The Standard High Line ก็ตั้งอยู่ในแมนแฮตตันเช่นกัน
ซึ่งที่นี่เป็น The Standard แห่งแรกที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ ที่ซื้อมารีโนเวต
แต่ก็ยังคงความโดดเด่นในด้านการออกแบบเช่นเคย
สำหรับแห่งที่ห้าในชื่อ The Standard High Line ก็ตั้งอยู่ในแมนแฮตตันเช่นกัน
ซึ่งที่นี่เป็น The Standard แห่งแรกที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่เหมือนกับที่อื่น ๆ ที่ซื้อมารีโนเวต
แต่ก็ยังคงความโดดเด่นในด้านการออกแบบเช่นเคย
ด้วยเอกลักษณ์ของโรงแรมและการมีหุ้นส่วนจากวงการฮอลลีวูด ทำให้ The Standard ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในฉากรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง เช่น Sex and the City, Ocean’s Twelve, Gossip Girl และอีกหลาย ๆ เรื่อง
ต่อมาในปี 2013 คุณ Balazs ขายหุ้น 80% ของบริษัท ให้กับ Standard International นำไปบริหารต่อและได้ขยายสาขาเพิ่มเติม
ก่อนที่ในปี 2017 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยอย่าง แสนสิริ จะเข้าซื้อบริษัทแห่งนี้ด้วยมูลค่า 2,000 ล้านบาท แลกกับหุ้น 35%
หมายความว่า ตอนนั้น แสนสิริ ประเมินมูลค่าธุรกิจ The Standard ไว้ราว 5,700 ล้านบาท
หมายความว่า ตอนนั้น แสนสิริ ประเมินมูลค่าธุรกิจ The Standard ไว้ราว 5,700 ล้านบาท
ซึ่งหลังจากนั้น แสนสิริ ก็ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็น 71%
และมาวันนี้ แสนสิริ ได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ถือ ออกไปให้กับกลุ่ม Hyatt จากสหรัฐฯ
โดยบริษัทแจ้งเหตุผลที่ขายว่า ดีลนี้สร้างประโยชน์ให้กับบริษัท เพราะจะช่วยเสริมสร้างสถานะทางการเงิน ด้วยมูลค่าดีลที่น่าพอใจ และบริษัทสามารถนำเงินทุนไปใช้เพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ที่น่าสนใจอื่น ๆ ตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของบริษัทได้
โดยบริษัทแจ้งเหตุผลที่ขายว่า ดีลนี้สร้างประโยชน์ให้กับบริษัท เพราะจะช่วยเสริมสร้างสถานะทางการเงิน ด้วยมูลค่าดีลที่น่าพอใจ และบริษัทสามารถนำเงินทุนไปใช้เพื่อการพัฒนาโครงการใหม่ที่น่าสนใจอื่น ๆ ตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ของบริษัทได้
ทั้งนี้ โรงแรม 2 แห่งแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเป็น The Standard นั้น จำเป็นต้องปิดตัวลงไป
โดยแห่งแรกคือ The Standard Hollywood ปิดตัวไปในปี 2021 เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเช่าที่ ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้
โดยแห่งแรกคือ The Standard Hollywood ปิดตัวไปในปี 2021 เนื่องจากไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเช่าที่ ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้
ส่วนแห่งที่สองคือ The Standard, Downtown LA ปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 และปิดถาวรไปเมื่อต้นปี 2022 ที่ผ่านมา
ทำให้จนถึงปัจจุบัน The Standard มีอยู่ทั้งหมด 8 แห่ง ในนิวยอร์ก, ไมแอมี, ลอนดอน, มัลดีฟส์ รวมถึงที่อิบิซา เกาะของประเทศสเปน ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เป็นสวรรค์ของนักปาร์ตี และอีก 2 แห่งในประเทศไทย
สำหรับ The Standard ในประเทศไทย เปิดตัวแห่งแรกที่หัวหิน เมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา และแห่งที่สองคือที่ตึก คิง เพาเวอร์ มหานคร ในปี 2022
ซึ่ง Standard International นอกจากจะมีเครือโรงแรม “The Standard” แล้ว
ก็ยังมีเครือโรงแรมประเภท Motel และร้านกาแฟในชื่อว่า “Bunkhouse”
รวมถึงมีแอปพลิเคชันสำหรับจองโรงแรม ในชื่อว่า “One Night”
ก็ยังมีเครือโรงแรมประเภท Motel และร้านกาแฟในชื่อว่า “Bunkhouse”
รวมถึงมีแอปพลิเคชันสำหรับจองโรงแรม ในชื่อว่า “One Night”
แม้ว่าในตอนเริ่มต้นของ The Standard จะมีดาราฮอลลีวูดและศิลปินในวงการบันเทิง เป็นหุ้นส่วนร่วมลงทุน ทำให้โรงแรมแห่งนี้ กลายมาเป็นที่รู้จักได้โดยง่าย
แต่ด้วยเอกลักษณ์ ตัวตน และการฉีกกฎเกณฑ์ของมาตรฐานโรงแรมแบบเดิม ๆ
ก็ได้ทำให้ The Standard เป็นโรงแรมบูทีกของคนรักสีสัน จนขยายสาขาไปทั่วโลก
ดังเช่นแนวคิดที่ว่า Anything but Standard หรือ อะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มาตรฐาน นั่นเอง..
ก็ได้ทำให้ The Standard เป็นโรงแรมบูทีกของคนรักสีสัน จนขยายสาขาไปทั่วโลก
ดังเช่นแนวคิดที่ว่า Anything but Standard หรือ อะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มาตรฐาน นั่นเอง..