สรุปประวัติศาสตร์ Nvidia 30 ปี ฉบับสมบูรณ์ ที่ก่อตั้งโดย เจนเซน หวง ซึ่งเคยอยู่ไทยมาก่อน
สรุปประวัติศาสตร์ Nvidia 30 ปี ฉบับสมบูรณ์ ที่ก่อตั้งโดย เจนเซน หวง ซึ่งเคยอยู่ไทยมาก่อน /โดย ลงทุนแมน
Nvidia เป็นหนึ่งในหุ้นมหัศจรรย์พันเด้ง ปัจจุบัน มีมูลค่า 122 ล้านล้านบาท มากสุดเป็นอันดับ 2 ในโลก เป็นรองแค่ Apple
Nvidia เป็นหนึ่งในหุ้นมหัศจรรย์พันเด้ง ปัจจุบัน มีมูลค่า 122 ล้านล้านบาท มากสุดเป็นอันดับ 2 ในโลก เป็นรองแค่ Apple
ก่อนที่ Nvidia จะสำเร็จกับการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม AI ในวันนี้ บริษัทก็เคยล้มลุกคลุกคลานมาก่อน
เรามาดูกันว่าตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา
Nvidia เจอเหตุการณ์สำคัญ ๆ อะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรามาดูกันว่าตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา
Nvidia เจอเหตุการณ์สำคัญ ๆ อะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปตอนปี 1993 หรือ 31 ปีก่อน
Nvidia ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ เจนเซน หวง CEO คนปัจจุบัน กับผู้ก่อตั้งอีก 2 คน
ธุรกิจแรกสุดของบริษัท ก็คือ “พัฒนาชิปประมวลผลภาพสำหรับเกมและกราฟิก”
Nvidia ก่อตั้งขึ้นโดยคุณ เจนเซน หวง CEO คนปัจจุบัน กับผู้ก่อตั้งอีก 2 คน
ธุรกิจแรกสุดของบริษัท ก็คือ “พัฒนาชิปประมวลผลภาพสำหรับเกมและกราฟิก”
หลังจากก่อตั้งมาได้ 2 ปี บริษัทก็ได้เปิดตัวชิป ชื่อว่า NV1 ชิปสำหรับประมวลผลกราฟิก 3 มิติ
โดยมีบริษัทเกมญี่ปุ่น SEGA เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ ตกลงกันว่าเครื่องเกมรุ่นใหม่ จะใช้ชิป NV1 จาก Nvidia
โดยมีบริษัทเกมญี่ปุ่น SEGA เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ ตกลงกันว่าเครื่องเกมรุ่นใหม่ จะใช้ชิป NV1 จาก Nvidia
แต่ต่อมา SEGA ตัดสินใจเปลี่ยนสเป็กบางอย่าง เพื่อลดต้นทุนการผลิต สมรรถนะของ NV1 ที่ออกแบบมาสำหรับสเป็กในตอนแรก จึงตกต่ำลงไปมาก
ท้ายที่สุด Nvidia จึงขอถอนตัวออกจากโครงการ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของบริษัท
ท้ายที่สุด Nvidia จึงขอถอนตัวออกจากโครงการ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของบริษัท
ผลกระทบที่ตามมาก็คือบริษัท เสียลูกค้ารายใหญ่ จนขาดสภาพคล่องทางการเงิน Nvidia จึงต้องปลดพนักงานเกินครึ่งบริษัท และยังต้องขอเพิ่มทุนจาก VC เพื่อต่อชีวิตไม่ให้ล้มละลาย..
กรณีกับ SEGA ก็ได้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้บริษัท โฟกัสไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองเป็นหลัก มากกว่าการไปผลิตให้ผู้อื่น
จากเกือบหลับ แต่หลังจากนั้น Nvidia ก็กลับมาได้..
จากเกือบหลับ แต่หลังจากนั้น Nvidia ก็กลับมาได้..
บริษัทได้พัฒนาชิปกราฟิกตัวใหม่สำเร็จ ชื่อว่า Riva 128 เป็นชิปที่ประมวลผลได้เร็วกว่าที่ขายอยู่ในตลาดช่วงนั้นถึง 5 เท่า
นั่นก็เลยทำให้ชิปของ Nvidia กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
หนึ่งในบริษัทที่สนใจ เป็นยักษ์ใหญ่ตลาด PC อย่าง Dell ที่มาพร้อมยอดออร์เดอร์ถล่มทลาย
นั่นก็เลยทำให้ชิปของ Nvidia กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
หนึ่งในบริษัทที่สนใจ เป็นยักษ์ใหญ่ตลาด PC อย่าง Dell ที่มาพร้อมยอดออร์เดอร์ถล่มทลาย
เป้าของ Nvidia ไม่มีคำว่าผิดพลาด คือต้องส่งมอบให้สำเร็จเท่านั้น เพราะฐานะทางการเงินค่อนข้างย่ำแย่ แต่ด้วยคำสั่งซื้อก้อนโต ในชนิดที่บริษัทไม่เคยเจอมาก่อน ปัญหาด้านคุณภาพและมาตรฐานจึงเกิดขึ้น
Nvidia แก้ปัญหานี้ ด้วยการให้พนักงานทุกคน รวมถึงผู้ก่อตั้งอย่างคุณเจนเซน หวง ตรวจสอบคุณภาพชิปด้วยมือทีละชิ้น..
จนในที่สุด ก็ผ่านมาได้
จนในที่สุด ก็ผ่านมาได้
ต่อมา Nvidia ก็ประสบความสำเร็จกับชิปกราฟิกซีรีส์ใหม่ประสิทธิภาพสูง รุ่น GeForce
ตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ได้ถูกยกให้เป็นผู้นำตลาดชิปกราฟิกโลก
ตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ได้ถูกยกให้เป็นผู้นำตลาดชิปกราฟิกโลก
ระหว่างทาง Nvidia เติบโตควบคู่ ไปกับอุตสาหกรรมเกม และงานด้านกราฟิก แต่ปัจจุบัน Nvidia จะมาเติบโตแบบทวีคูณอีกครั้ง กับอุตสาหกรรม AI..
แล้ว Nvidia หันมาเข้าสู่โลกของ AI ได้อย่างไร ?
จุดเปลี่ยนของเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนปี 2006 ที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ค้นพบว่า จริง ๆ แล้วการ์ดจอ (GPU) ทำได้มากกว่าการประมวลผลภาพในคอมพิวเตอร์
จุดเด่นของ GPU คือการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ที่รวดเร็ว มันเลยถูกนำไปใช้ในการประมวลผลภาพที่มีความละเอียดของสีในระดับที่เล็กมาก เป็นพิกเซล
นั่นก็เลยทำให้มันเหมาะกับการนำมาใช้ประมวลผล AI ที่ต้องใช้การคิดคำนวณในระดับสูงไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรูปภาพ การรับคำสั่งเสียง ไปจนถึงการโต้ตอบ
นั่นก็เลยทำให้มันเหมาะกับการนำมาใช้ประมวลผล AI ที่ต้องใช้การคิดคำนวณในระดับสูงไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรูปภาพ การรับคำสั่งเสียง ไปจนถึงการโต้ตอบ
แต่ประเด็นก็คือปกติแล้ว GPU ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง เพราะมันต้องใช้ CPU ในการป้อนคำสั่งควบคู่ไปด้วย
เปรียบเทียบง่าย ๆ CPU ก็เหมือนกับหัวหน้าเชฟที่คอยดูภาพรวม ในขณะที่ GPU ก็เหมือนกับเชฟเฉพาะทาง
เปรียบเทียบง่าย ๆ CPU ก็เหมือนกับหัวหน้าเชฟที่คอยดูภาพรวม ในขณะที่ GPU ก็เหมือนกับเชฟเฉพาะทาง
ซึ่ง Nvidia ก็ได้มองเห็นเรื่องทั้งหมดนี้ตั้งแต่แรก เลยลงทุนอย่างหนักเพื่อสร้างแพลตฟอร์มในการพัฒนา AI ขึ้นมา และได้ให้กำเนิดเครื่องมือต่าง ๆ ในการพัฒนา AI แบบครบวงจร อย่างเช่น
- CUDA แพลตฟอร์มเขียนโคดสำเร็จรูปที่ประมวลผลผ่าน GPU
- Nvidia Blackwell ชิป AI ล่าสุดที่ประมวลผลได้เร็วกว่า และประหยัดไฟมากกว่า Hopper รุ่นก่อนหน้าถึง 25 เท่า
- CUDA แพลตฟอร์มเขียนโคดสำเร็จรูปที่ประมวลผลผ่าน GPU
- Nvidia Blackwell ชิป AI ล่าสุดที่ประมวลผลได้เร็วกว่า และประหยัดไฟมากกว่า Hopper รุ่นก่อนหน้าถึง 25 เท่า
โดย Blackwell ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้าน AI ของ Nvidia ที่มุ่งเน้นการพัฒนาฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์สำหรับ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานต่ำ เพื่อตอบสนองความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายอุตสาหกรรม
ชิปและแพลตฟอร์มพวกนี้ เป็นเครื่องมือเบื้องหลังของ บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Meta, Microsoft, Amazon, Tesla ไปจนถึง Google
- Sundar Pichai ซีอีโอ Google บอกไว้ว่า Google โชคดีที่มี Nvidia เป็นพาร์ตเนอร์ และจะนำตัวประมวลผลของ Nvidia มาพัฒนาบริการในอนาคต
- Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft บอกไว้ว่าชิป Blackwell จะถูกนำมาใช้ในศูนย์ Data Center ของ Microsoft ทั่วโลก
- Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta บอกเอาไว้ว่า ชิป Blackwell จะถูกนำมาใช้ในการฝึกฝน Llama และสร้าง Meta AI
ต่อไปเราลองมาดูรายได้และกำไร ของ Nvidia
(รอบบัญชีปิดงบเดือน ม.ค. ของทุกปี)
(รอบบัญชีปิดงบเดือน ม.ค. ของทุกปี)
- ปี 2022 รายได้ 920,900 ล้านบาท กำไร 333,700 ล้านบาท
- ปี 2023 รายได้ 922,900 ล้านบาท กำไร 149,500 ล้านบาท
- ปี 2024 รายได้ 2,084,500 ล้านบาท กำไร 1,018,300 ล้านบาท
- ปี 2023 รายได้ 922,900 ล้านบาท กำไร 149,500 ล้านบาท
- ปี 2024 รายได้ 2,084,500 ล้านบาท กำไร 1,018,300 ล้านบาท
โดย 12 เดือนล่าสุด (สิ้นสุดเดือน ต.ค. 2024)
บริษัทมีรายได้ 3,875,600 ล้านบาท กำไร 2,158,100 ล้านบาท
บริษัทมีรายได้ 3,875,600 ล้านบาท กำไร 2,158,100 ล้านบาท
ผลประกอบการที่โตระเบิดในช่วงที่ผ่านมา
สาเหตุหลักก็มาจากเรื่องของ AI ที่ต้องใช้การประมวลผลขั้นสูง ทำให้ความต้องการชิปของ Nvidia ที่เป็นผู้นำ สูงตามไปด้วยนั่นเอง
สาเหตุหลักก็มาจากเรื่องของ AI ที่ต้องใช้การประมวลผลขั้นสูง ทำให้ความต้องการชิปของ Nvidia ที่เป็นผู้นำ สูงตามไปด้วยนั่นเอง
ถ้าจะสรุปเรื่องนี้ทั้งหมด ก็ต้องบอกว่า Nvidia ก็ไม่ต่างจากบริษัทอื่น ๆ ที่เคยเจอปัญหา เคยเกือบล้มละลายมาก่อน
แต่บริษัท ก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้ไว รวมถึงมองเห็นโอกาส บวกกับกล้าตัดสินใจ ในวันที่ทุกอย่างยังไม่พร้อม
แต่บริษัท ก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้ไว รวมถึงมองเห็นโอกาส บวกกับกล้าตัดสินใจ ในวันที่ทุกอย่างยังไม่พร้อม
ปัจจุบัน เราคงเห็นกันแล้วว่า AI เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกำลังเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตเราในหลาย ๆ ด้าน
และผลตอบแทนสำหรับผู้ที่มองเห็น และกล้าตัดสินใจเป็นคนแรก ๆ ได้รับ อย่าง Nvidia ก็คือการเป็นหนึ่งในบริษัท ที่เติบโตได้แบบก้าวกระโดด และเป็นหนึ่งในหุ้นมหัศจรรย์พันเด้ง ในวันนี้..
และผลตอบแทนสำหรับผู้ที่มองเห็น และกล้าตัดสินใจเป็นคนแรก ๆ ได้รับ อย่าง Nvidia ก็คือการเป็นหนึ่งในบริษัท ที่เติบโตได้แบบก้าวกระโดด และเป็นหนึ่งในหุ้นมหัศจรรย์พันเด้ง ในวันนี้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า คุณเจนเซน หวง เป็นผู้อพยพชาวไต้หวัน ที่เคยใช้ชีวิตในไทย มาก่อน
รู้หรือไม่ว่า คุณเจนเซน หวง เป็นผู้อพยพชาวไต้หวัน ที่เคยใช้ชีวิตในไทย มาก่อน
โดยเขาเป็นชาวเมืองไถหนาน ของไต้หวัน เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1963 ปัจจุบันมีอายุ 61 ปี
แม้ว่ามีไต้หวันเป็นบ้านเกิด แต่เขาและครอบครัว ก็เคยอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ด้วยความที่ในขณะนั้น ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เต็มไปด้วยความวุ่นวายทางการเมือง และสงครามเวียดนามที่กำลังคุกรุ่น
ทำให้พ่อแม่ของเขา จำเป็นต้องตัดสินใจส่งคุณเจนเซน ในวัย 9 ขวบ พร้อมกับพี่น้องคนอื่น ๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งมีลุงและป้าของเขา อพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่นั่นก่อนหน้านั้น
ทำให้พ่อแม่ของเขา จำเป็นต้องตัดสินใจส่งคุณเจนเซน ในวัย 9 ขวบ พร้อมกับพี่น้องคนอื่น ๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งมีลุงและป้าของเขา อพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่นั่นก่อนหน้านั้น
ซึ่งหลังจากนั้น คุณเจนเซน ก็ได้เรียน ได้ทำงาน ใช้ชีวิต ไปจนถึงสร้างธุรกิจอยู่ที่สหรัฐฯ
- เขาจบมหาวิทยาลัยที่ Oregon State University ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า
- เริ่มทำงานที่แรก ที่ AMD บริษัทผู้ผลิตชิปเซตชื่อดัง ในตำแหน่งวิศวกรออกแบบ Microprocessor
- ย้ายงานไปอยู่กับ LSI Logic บริษัทออกแบบเซมิคอนดักเตอร์
- ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนก่อตั้งบริษัท Nvidia ขึ้นมา โดยใช้เงินลงทุนก้อนแรก 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.4 ล้านบาท
- เขาจบมหาวิทยาลัยที่ Oregon State University ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า
- เริ่มทำงานที่แรก ที่ AMD บริษัทผู้ผลิตชิปเซตชื่อดัง ในตำแหน่งวิศวกรออกแบบ Microprocessor
- ย้ายงานไปอยู่กับ LSI Logic บริษัทออกแบบเซมิคอนดักเตอร์
- ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนก่อตั้งบริษัท Nvidia ขึ้นมา โดยใช้เงินลงทุนก้อนแรก 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.4 ล้านบาท
ตัดภาพมาที่วันนี้
คุณเจนเซน ได้ปั้น Nvidia จนยิ่งใหญ่ และตัวเขาเอง ก็กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และทรงอิทธิพลของโลก
คุณเจนเซน ได้ปั้น Nvidia จนยิ่งใหญ่ และตัวเขาเอง ก็กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และทรงอิทธิพลของโลก
ซึ่งล่าสุด เขาก็ได้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง ประเทศที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง
เพื่อมาแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องของ AI และความสำคัญของ AI ต่อประเทศไทย..
————————-
เครดิตภาพจาก DroidSans
เครดิตภาพจาก DroidSans