รู้จัก JAI by ONESIAM อีกหนึ่งกลยุทธ์ ตอกย้ำ “สยามพิวรรธน์” ในการเป็นผู้นำอันดับ 1 Luxury Retail ในเมืองไทย

สยามพิวรรธน์ X ลงทุนแมน

ถ้าถามนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือแม้แต่คนไทยด้วยกัน
หากอยากจะช็อปปิง Luxury Brand จะนึกถึงศูนย์การค้าอะไรบ้าง?

ชื่อของ ไอคอนสยาม, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่, สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ จะอยู่ในลิสต์จุดหมายปลายทางในการช็อปปิง

ที่น่าสนใจคือศูนย์การค้า Luxury เหล่านี้มีเจ้าของบริษัทเดียวกัน
นั่นก็คือ “สยามพิวรรธน์” ผู้นำอันดับ 1 Luxury Retail ในเมืองไทย ด้วยการที่ศูนย์การค้าในเครือมีฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงสุดในประเทศไทยมายาวนาน

ทำให้พอพูดถึง “สยามพิวรรธน์” จึงเปรียบเสมือน Iconic ศูนย์การค้า Luxury ในความรู้สึกของนักท่องเที่ยวทั่วโลกหรือแม้แต่คนไทย

และเพื่อตอกย้ำ “จุดยืน” จากที่แข็งแกร่งอยู่แล้วให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก ทำให้ล่าสุด “สยามพิวรรธน์” ได้สร้าง New Project ที่ชื่อว่า JAI by ONESIAM ที่เป็นการเชื่อมโยงคนที่ชื่นชอบสินค้า Premium และ Luxury ทั่วโลกให้อยู่ในคอมมูนิตี้เดียวกัน

JAI by ONESIAM จะตอบโจทย์การสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้ากำลังซื้อสูง ด้วยวิธีไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

หากใครเป็นแฟนคลับของ “สยามพิวรรธน์” จะต้องมีแอปฯ ที่ชื่อ ONESIAM SuperApp ที่เปรียบเสมือนศูนย์การค้าในสมาร์ตโฟน โดยจะมีสินค้าและสิทธิพิเศษจนถึงบริการต่าง ๆ จากศูนย์การค้าทั้งหมดในเครือ

พอลองหา Insight ข้อมูลเชิงลึกจะพบว่า กว่า 30% ของผู้ใช้งานแอปฯ จะเป็นกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง หรือ High Net Worth จากจำนวนฐานลูกค้าทั้งหมด แถมลูกค้ากลุ่มนี้ก็ยังเติบโตขึ้นทุก ๆ ปี

เมื่อเป็นแบบนี้เลยทำให้ “สยามพิวรรธน์” ใช้เทคโนโลยี Data-Driven CRM ศึกษาพฤติกรรมลูกค้า จนเข้าใจว่าลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงต้องการอะไร ก็สร้างสิ่งที่เหนือความคาดหมายผ่านบริการ, อิเวนต์ และสินค้าต่าง ๆ

จึงเป็นที่มาของ JAI by ONESIAM คลับลักซ์ซูรี่ไลฟ์สไตล์ระดับโลก ที่จะมาสร้างประสบการณ์ไม่เหมือนใครให้แก่ลูกค้าผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร

แล้วประสบการณ์ที่สร้างความแตกต่างและเหนือความคาดหมาย มีอะไรบ้าง ?

เรื่องนี้แบ่งเป็น 3 ปรากฏการณ์สุด Wow ที่ลูกค้าของศูนย์การค้าในเครือ “สยามพิวรรธน์” จะได้สัมผัส

1. คอมมูนิตี้ที่เต็มไปด้วยกูรูในหลากหลายอุตสาหกรรม

โดยจัดกิจกรรมแบบเอกซ์คลูซิฟทุกเดือน และแต่ละเดือนก็จะมีธีมแตกต่างกันออกไป

เป้าหมายเพื่อให้สมาชิกที่มีความสนใจเรื่องเดียวกัน มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ที่ชื่นชอบเรื่องเดียวกัน อีกทั้งมีผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำมาให้ความรู้

ยกตัวอย่างงานอิเวนต์ที่จัดขึ้นมาแล้วในฮ่องกง อย่าง JAI Hong Kong Art Basel Week หรืองาน Blaq Lyte และ PLEASURES แบรนด์สตรีตแฟชั่นจากลอสแอนเจลิส งานล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยากับ Hashed ที่ได้รวมผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วโลกมาที่ประเทศไทย

2. บุกเบิกสู่โลก Luxury ยุคใหม่ที่แตกต่างกว่าใคร

“หน้าที่ของผู้นำตลาดที่ดี คือ การเป็นผู้ขับเคลื่อนตลาดด้วยไอเดียใหม่ ๆ”

ตรงนี้เองที่เป็นจุดแข็งที่ทำให้ “สยามพิวรรธน์” ทิ้งห่างคู่แข่งศูนย์การค้าอื่น ๆ

โปรเจกต์ JAI by ONESIAM ก็เช่นกัน ที่ลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษจากพันธมิตรระดับโลก ร่วมกันสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เช่น งานอิเวนต์ Exclusive ที่จะจัดขึ้น 2-3 ครั้งทุกเดือน, บริการผู้ช่วยส่วนตัว, บริการต้อนรับที่สนามบิน, รถลีมูซีน, ห้องรับรองพิเศษ VIP Lounges ผ่านศูนย์การค้าในเครือทั้งหมด จนถึงบริการจองร้านอาหาร และ Concierge Service

จะเห็นว่า สยามพิวรรธน์ กล้าที่จะให้สิ่งที่เหนือความคาดหมายแบบ “จัดเต็ม” มากกว่า Luxury Retail รายอื่น ๆ

3. สร้างความร่วมมือระดับโลกเพื่อสร้างประโยชน์ร่วมกัน

“สยามพิวรรธน์” ได้ร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกมากมายเพื่อสร้างสังคม Global Citizen ผ่านหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี การเงิน บริการ แฟชั่น และศิลปะ

จนถึงกิจกรรมแบบเอกซ์คลูซิฟที่จัดขึ้นในเมืองสำคัญ ๆ โดยปัจจุบันมีสมาชิกที่เข้าร่วมหลายประเทศ เช่น แคนาดา ฝรั่งเศส ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และไทย

ด้วยสถานะการเป็น Luxury Retail เบอร์หนึ่งในประเทศไทย ทำให้โปรเจกต์ JAI by ONESIAM สามารถรวบรวมพันธมิตรที่อยู่ในระดับโลกมากมาย เพื่อมาสร้างประสบการณ์ใช้ชีวิตสุดหรูที่ลูกค้าหาไม่ได้จากศูนย์การค้าอื่น ๆ

ซึ่งการร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกต่าง ๆ ในโปรเจกต์ JAI by ONESIAM นั้น คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือ ลูกค้า นั่นเอง..

ตัวอย่างเช่น การร่วมมือกับ DayAway แพลตฟอร์มออนไลน์ท่องเที่ยวสุดหรู ให้สิทธิ์การเป็นสมาชิก Complimentary Access ที่ลูกค้าจะได้สิทธิพิเศษจากโรงแรม อัตราค่าที่พักราคาพิเศษในโรงแรมหรูกว่า 4,500 แห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหารและสถานที่อื่น ๆ

หรือจะเป็นการร่วมมือกับ The Standard Hotels ผู้นำโรงแรมบูทีกระดับโลก ด้วยการมอบส่วนลดพิเศษ ห้องพัก ร้านอาหารชั้นนำ บริการสปา เพื่อสร้างประสบการณ์เดินทางใหม่ ๆ และความคุ้มค่าให้แก่ฐานลูกค้ากำลังซื้อสูง

อีกทั้งยังร่วมมือกับ Yona Beach Club บีชคลับลอยน้ำแห่งแรกในโลก ในจังหวัดภูเก็ต โดยจะมีบริการ Onboarding และบริการ Early Event Access ฟรี สำหรับสมาชิก JAI

ยังมี Blue by Alain Ducasse ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งจากฝรั่งเศส มอบส่วนลดพิเศษและเค้กวันเกิดฟรี หรือเปิดประสบการณ์อาหารกับ Hungry in Bali แล้วมาเลือกพักผ่อน Wellness Retreat ในสถานที่ล้ำๆ กับ Awethentic Journeys และบริการ Exclusive อีกเพียบ ผ่านการร่วมมือกับ Luxury Brand ระดับโลกอีกมากมาย

โดยเราสามารถติดตามข้อมูลอื่น ๆ และข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ JAI by ONESIAM ผ่านทางอินสตาแกรม @jaibyonesiam หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.jaibyonesiam.com

ต้องบอกว่า การจะร่วมมือกับ Luxury Brand ระดับโลกมากมาย ไม่ใช่ศูนย์การค้าไหน อยากจะทำและจะประสบความสำเร็จเหมือนอย่าง “สยามพิวรรธน์”

เพราะหากคุณไม่ใช่ตัวจริงเป็นเบอร์หนึ่งในแวดวง Luxury Retail เมืองไทย ที่มีทั้งฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงเหล่าแบรนด์ระดับโลกต่างเชื่อมั่นในศักยภาพศูนย์การค้าในเครือ

ความแข็งแกร่งเหล่านี้เองที่ทำให้ อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
“สยามพิวรรธน์” ยังคงจะเป็นผู้นำอันดับ 1 Luxury Retail ในเมืองไทย และเป็นจุดหมายปลายทางการช็อปปิง Luxury ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในความรู้สึกของคนทั่วโลก

Reference
-ข่าวประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์