กรณีศึกษา Fuku Matcha แบรนด์ไทยสไตล์ญี่ปุ่น ที่เราคุ้นเคยมาสิบปี

กรณีศึกษา Fuku Matcha แบรนด์ไทยสไตล์ญี่ปุ่น ที่เราคุ้นเคยมาสิบปี

กรณีศึกษา Fuku Matcha แบรนด์ไทยสไตล์ญี่ปุ่น ที่เราคุ้นเคยมาสิบปี
Fuku Matcha x ลงทุนแมน
อากาศร้อน ๆ หากได้เครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้ว คงช่วยชีวิตตอนบ่าย ๆ ได้ดีทีเดียว
รู้หรือไม่ หนึ่งแบรนด์เครื่องดื่มและซอฟต์ไอศกรีมของคนไทย ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แม้จะไม่ใช่นักลงทุนเจ้าใหญ่ในตลาดก็ตาม
และยังเป็นหนึ่งในแบรนด์คนไทยแท้ ๆ ที่เราคุ้นเคยมากว่าสิบปี
นั่นก็คือ Fuku Matcha แบรนด์เครื่องดื่มและซอฟต์ไอศกรีมสไตล์ญี่ปุ่น สัญชาติไทย
ภายใต้ บริษัท มาย ฟุกุ มัทชะ จำกัด ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2555
ล่าสุด Fuku Matcha แบรนด์ชาที่มียอดขายมากกว่า 300 ล้านบาท กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 12
แล้ว คุณฐาน์ศศิริ์ ธรรมานุสาร (คุณปุ๋ย) CEO & Co-founder ของ Fuku Matcha
มีกลยุทธ์บริหารแบรนด์ให้ยืนหยัดอยู่คู่คนไทยมากว่า 12 ปี มีพนักงานกว่า 400 คนอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของธุรกิจ ในช่วงเวลานั้น คุณปุ๋ยมีโอกาสไปเที่ยว และไปทำงานที่ญี่ปุ่น
จึงกลับมาสังเกตเห็นว่า ตลาดในประเทศไทยยังไม่มีชาหลากหลายแบบเหมือนในญี่ปุ่น
แถมชาเขียวคุณภาพดี ๆ ก็มักจะตามมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง
นั่นจึงกลายเป็นโจทย์ตั้งต้นของธุรกิจ Fuku Matcha
ที่ต้องการให้คนไทยได้มีเครื่องดื่มชาเขียวคุณภาพดี ในราคาที่เข้าถึงได้
Fuku ที่หมายถึง โชคลาภและความสุข
Matcha ที่หมายถึง มัทฉะ สินค้าหลักของแบรนด์
เมื่อรวมกัน จึงกลายมาเป็นชื่อแบรนด์ Fuku Matcha
ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2555 และดำเนินธุรกิจเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
แล้วสงสัยไหมว่า Fuku Matcha ทำอย่างไร ?
จึงกลายเป็นแบรนด์ติดตลาด สร้างรายได้มากกว่า 300 ล้านบาท
และยังบริหารจัดการพนักงานกว่า 400 คน
จริง ๆ แล้วหัวใจสำคัญก็คือ ความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงได้
Fuku Matcha ตีโจทย์ความคุ้มค่า ด้วยการเป็นสินค้ารสชาติอร่อย คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล
ที่ผ่านการศึกษาตลาดอย่างจริงจัง และหา Supply Chain ที่ตอบโจทย์ ทั้งในด้านต้นทุนวัตถุดิบ คุณภาพ
โดยใช้เวลาพัฒนาสูตรอยู่นาน จนได้สูตรที่ลงตัวในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับ “การวิจัยและพัฒนาสินค้า” เป็นหลัก
ภายใต้การบริหารแบบบริษัทเล็ก การตัดสินใจรวดเร็ว มีการสำรวจความต้องการของลูกค้า
ที่สำคัญต้องออกสินค้าได้ทันกระแส
ขณะเดียวกัน ยังใช้หลักการบริหารเช่นเดียวกับบริษัทใหญ่ ๆ อย่างการบริหารจัดการพนักงาน
โดย Fuku Matcha มองว่า พนักงาน คือหัวใจหลักในการขับเคลื่อนแบรนด์ให้เติบโตไปข้างหน้า
สิ่งสำคัญที่แบรนด์ใส่ใจเป็นอันดับ 1 คือ การทำให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข รู้สึกถึงคุณค่าในงานของตนเอง
ส่วนบริษัทเองก็ไม่เคยลืมการปรับสวัสดิการพนักงานอย่างเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องต่อความต้องการของพนักงานแต่ละคน
และก็พร้อมส่งเสริมพนักงานในการพัฒนาทักษะและความสามารถของตนเองด้วย
มากไปกว่านั้น ผู้บริหารของ Fuku Matcha ยังรับฟังความคิดเห็นของพนักงานทุกคนเสมอ
เพื่อนำมาปรับใช้ในด้านการกำหนดทิศทาง และนโยบายของบริษัท
ทั้งหมดนี้ จึงกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Fuku Matcha ก้าวมาถึงปีที่ 12 ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่หลายคนไม่รู้
คือ Fuku Matcha ยังมีบริษัทในเครือที่ชื่อว่า บริษัท บีพีเอ็ม 59 จำกัด
เพื่อนำเข้าใบชาเขียวแท้ ๆ จากประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
ซึ่ง Fuku Matcha เปิดเผยว่า ในปี 2566 หากรวมรายได้ของบีพีเอ็ม 59 และมาย ฟุกุ มัทชะ เข้าด้วยกัน
จะทำให้ภาพรวมธุรกิจมีรายได้รวมสูงแตะ 350 ล้านบาท เลยทีเดียว
ที่สำคัญ บีพีเอ็ม 59 ยังช่วยดูแลแบรนด์มินิซอฟต์ครีมแอนด์บิงซู ที่มีทั้งขนมหวาน ซอฟต์ไอศกรีม และเครื่องดื่มคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้
Fuku Matcha จึงกลายเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่มีเครื่องดื่มขายอย่างหลากหลาย
ที่โดดเด่นเลยก็คือ เมนูเครื่องดื่มที่มาพร้อมซอฟต์ไอศกรีม ที่สร้างความแตกต่างในตลาด Red Ocean
จนใคร ๆ ก็จดจำแบรนด์ Fuku Matcha ได้
ตัวอย่างเมนูเอกลักษณ์ และได้รับความนิยมอันดับ 1 ของ Fuku Matcha
ต้องยกให้ มัทฉะนมสด ท็อปปิงด้วยซอฟต์ไอศกรีมมัทฉะและถั่วแดง แบบจัดเต็ม
แม้ Fuku Matcha จะได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ตลาดเครื่องดื่มชาในบ้านเรา มักเกิดกระแสใหม่ ๆ อยู่เสมอ
นับตั้งแต่ ชาเขียว, ชานมไข่มุก, ชาไทย จนมาถึงชาชีส ในตอนนี้
Fuku Matcha จึงต้องปรับตัวตามให้ทันต่อความต้องการของลูกค้ายุคนี้
สินค้าล่าสุดก็เช่น ชาครีมชีสผลไม้ ไม่ว่าจะเป็น ชาครีมชีสมะม่วงพีช, ชาครีมชีสสตรอว์เบอร์รี, ชาครีมชีสส้มสับปะรด
ด้วยคุณภาพของชีสอย่าง ฟิลาเดลเฟียครีมชีส ที่ให้ความละมุน เข้มข้น
ยิ่งได้ทานคู่กับชาผลไม้แล้ว ลงตัวแบบสุด ๆ
ทั้งหมดนี้ ทำให้แบรนด์ Fuku Matcha สามารถยืนหยัดมาได้ตลอดสิบปี และยังรักษาตัวเลขรายได้หลักร้อยล้านบาทต่อปีไว้ได้
โดยล่าสุดในปี 2566 Fuku Matcha เปิดเผยว่ามีรายได้รวม 319 ล้านบาท เติบโตกว่า 67% จากปี 2565 ที่มีรายได้ 194 ล้านบาท
และมีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท
เบื้องหลังการเติบโตครั้งนี้ มาจากการพัฒนาสินค้าของ Fuku Matcha ทั้งการวิจัยและพัฒนาสินค้า, สำรวจความต้องการของลูกค้าต่าง ๆ ทำให้ยอดขายรายสาขาเติบโต
รวมถึงการออกสินค้าใหม่ ๆ ให้ทันกระแส และตอบโจทย์ลูกค้าอย่างตรงจุด
และยังไม่ลืมที่จะทำราคาได้คุ้มค่า สมเหตุสมผล ควบคู่ไปกับความอร่อยที่มีคุณภาพ
ถึงตรงนี้ ถ้าถามว่า Fuku Matcha วางอนาคตต่อไปไว้อย่างไร
Fuku Matcha กำลังตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 400 ล้านบาทต่อปี และขยายสาขาเติบโต 25%
มากไปกว่านั้นคือ การปรับตัวอย่างไม่มีวันหยุด เพื่อตามเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภคอย่าง Gen Z นั่นเอง..
Reference
- ข้อมูลเปิดเผยจาก Fuku Matcha

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon