กรณีศึกษา Lotus's ปรับตัว ฉีกกฎตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต
Lotus’s X ลงทุนแมน

ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นค้าปลีกรายใหญ่ของไทยอย่างโลตัส มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Lotus’s SMART App ใช้ระบบสมาชิกใหม่อย่าง My Lotus’s ที่มาแทนคลับการ์ด เชื่อมต่อการช็อปปิงออนไลน์และการสะสมคะแนนสมาชิก ที่ง่ายและตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบครัน

ส่วนล่าสุดที่ใคร ๆ เห็นต้อง Wow ก็คือ สาขาใหม่ ที่มีรูปแบบดิไซน์แปลกตา ทันสมัย เพราะใครจะคิดว่า Lotus’s ได้ฉีกข้อจำกัดเดิม ๆ ในตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต ด้วยการสร้างสาขารูปแบบใหม่ ๆ ให้กลายเป็นกระแส

เช่น Lotus’s นอร์ธ ราชพฤกษ์ ที่เปลี่ยนโฉมโลตัสไฮเปอร์มาร์เก็ตแบบเก่าไปอย่างสิ้นเชิง
Lotus’s Privé ที่อยู่ตรงข้าม ICONSIAM, แบรนด์ใหม่ของโลตัสที่พรีเมียมขึ้น เป็นต้น

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนเมนู “ออร์เดิฟวร์” เรียกความสนใจจากผู้บริโภค เมื่อ Lotus's ประกาศว่าต่อไปนี้ ตัวเองไม่ใช่ ไฮเปอร์มาร์เก็ต เหมือนในอดีต แต่คือ SMART Community Center หรือ ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ตของคนในชุมชน

และการจะก้าวไปถึงจุดนั้น Lotus's ต้องเดินหน้าอย่างมีกลยุทธ์ ทั้งการเปิดสาขารูปแบบใหม่ การขยายพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาเดิม และการรีโนเวตปรับปรุงสาขา

ทำไม Lotus's ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง มากขนาดนั้น ?
ลงทุนแมน จะวิเคราะห์ให้ฟัง

หากยังจำกันได้ในช่วงต้นปี 2021 Tesco Lotus ได้รีแบรนด์ครั้งใหญ่ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น Lotus's โดยมี S อยู่ด้านหลัง ซึ่งนั่นเป็นตัวย่อของคำว่า “SMART” นั่นเอง

เป็นสัญญาณบอกว่าต่อจากนี้ Lotus's พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิงที่ดี ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคนี้และในอนาคต

สรุปก็คือ Lotus's กำลังเปลี่ยนแปลงทรานส์ฟอร์มเพื่อสร้างการเติบโตแบบ Transformational Growth

และทางที่ Lotus's เลือกจะเดินก็คือ การสร้าง SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ตของทุกคนในชุมชน

ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ เพราะในแต่ละชุมชน หรือในแต่ละโลเคชันที่ Lotus's ปักหมุดสาขา พฤติกรรม, ฐานรายได้, กำลังซื้อ และรสนิยมของลูกค้าแตกต่างกัน

ทีนี้ หากอยากจะทำให้แต่ละสาขา ตอบโจทย์ผู้บริโภคในแต่ละทำเล และชุมชนนั้น ๆ จึงจำเป็นที่จะต้องสร้าง Lotus's ให้มีหลายรูปแบบ นั่นเอง

ปัจจุบัน Lotus's มีสาขารวม 2,300 สาขา บริการลูกค้ากว่า 11 ล้านออร์เดอร์ต่อสัปดาห์

โดยแบ่งรูปแบบและขนาดแตกต่างกันออกไป เช่น สาขาขนาดใหญ่อย่าง ไฮเปอร์มาร์เก็ต และซูเปอร์มาร์เก็ต, สาขาขนาดเล็กอย่าง มินิซูเปอร์มาร์เก็ต

โดย Lotus's มองว่า แนวคิดเดิมนี้อาจไม่เพียงพอที่จะตอบโจทย์กับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ Lotus's ตัดสินใจที่นำเสนอสาขารูปแบบใหม่ และขยายพื้นที่สาขาเดิมให้ใหญ่และรองรับร้านค้าที่ครบครัน มีพื้นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้าในชุมชนมากขึ้น

โดยตั้งเป้าขยายพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาเดิม 31 แห่ง โดยแต่ละรูปแบบสาขาก็จะอิงตามพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละทำเลที่แตกต่างกันออกไป

เบื้องต้น Lotus's เปิดเผยข้อมูลสำหรับสาขาใหม่ ๆ ที่เป็นไฮไลต์ ดังนี้

เตรียมเปิดตัว โลตัส สาขา ยะลา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567

นอกจากแผนการเปิดสาขาใหม่ โลตัส จะเดินหน้าปรับปรุงสาขาเดิม ให้มีดิไซน์ทันสมัย สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ และขยายพื้นที่ให้รองรับร้านค้าที่หลากหลาย ครบครันทุกความต้องการ และมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัว

โดยมีแผนขยายพื้นที่ศูนย์การค้าในสาขาเดิม 31 แห่งทั่วประเทศ โดยมี 4 สาขาไฮไลต์ คือ

- สาขาเอกมัย-รามอินทรา

- สาขาพัฒนาการ

- สาขาปากช่อง

- สาขาอุดรธานี

การปรับตัวครั้งนี้ นอกจากเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจ ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์ที่สมาร์ตขึ้นแล้วนั้น แนวคิดนี้จึงน่าจะทำให้ Traffic ในศูนย์การค้า Lotus's แต่ละสาขาเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน Lotus's ก็ยังมีการจัดแคมเปญการตลาด ร่วมกับแบรนด์ร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่ในสาขาต่าง ๆ ที่ส่วนหนึ่งนั้นก็เป็นธุรกิจ SME ของคนในชุมชน เป้าหมายก็เพื่อช่วยให้ธุรกิจชุมชนเติบโตไปพร้อม ๆ กับทาง Lotus's

สรุปแล้วการปรับตัวครั้งใหม่ของ Lotus's ถือเป็นการฉีกกฎตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตในอดีต ที่มักจะเน้นเรื่องของ “สงครามราคา” เพื่อแย่งชิงลูกค้ากันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร

จนมาวันหนึ่ง “ราคา” อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย..

เมื่อความต้องการของลูกค้ามีมากกว่านั้น โดยเฉพาะประสบการณ์ด้านการช็อปปิง ทั้งรสนิยมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

การปรับตัวเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจครั้งนี้ ก็เพื่อให้ Lotus's เติบโตได้อย่างยั่งยืน นั่นเอง..

References
-https://www.marketingoops.com/news/biz-news/lotuss/
-ข่าวประชาสัมพันธ์ โลตัส
-https://corporate.lotuss.com/about/