กรณีศึกษา ท่ามกลางวิกฤติที่สร้างโอกาสให้ MINT ฟื้นตัวแรง และเร็ว
กรณีศึกษา ท่ามกลางวิกฤติที่สร้างโอกาสให้ MINT ฟื้นตัวแรง และเร็ว
MINT X ลงทุนแมน
MINT X ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า ธุรกิจอะไรที่ในเวลานี้ฟื้นตัวได้แรงและเร็ว
คำตอบแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคือ “ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร”
คำตอบแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคือ “ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร”
เมื่อต้องยอมรับว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การระบาดของโควิด 19 ได้สะกดผู้คนให้หยุดเคลื่อนไหว
แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดคลี่คลายลง เสมือนเป็นการปลดล็อกความอัดอั้นของผู้คนทั่วโลก
จนกลับมาเคลื่อนไหวโดยการเดินทางท่องเที่ยว และแวะชิมร้านอาหารอร่อย ๆ กันอย่างคึกคัก
แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดคลี่คลายลง เสมือนเป็นการปลดล็อกความอัดอั้นของผู้คนทั่วโลก
จนกลับมาเคลื่อนไหวโดยการเดินทางท่องเที่ยว และแวะชิมร้านอาหารอร่อย ๆ กันอย่างคึกคัก
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT
พลิกฟื้นธุรกิจกลับมาแข็งแกร่งได้อย่างเหลือเชื่อ
จากบริษัทที่เคยขาดทุนหนักหน่วงในช่วงโควิด 19 เวลานี้ MINT กลับมามีกำไร
พลิกฟื้นธุรกิจกลับมาแข็งแกร่งได้อย่างเหลือเชื่อ
จากบริษัทที่เคยขาดทุนหนักหน่วงในช่วงโควิด 19 เวลานี้ MINT กลับมามีกำไร
สะท้อนจากผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีนี้ MINT มีกำไร 1,561.50 ล้านบาท
โดยหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน บริษัทขาดทุน 3,923.91 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของโควิด 19
โดยหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน บริษัทขาดทุน 3,923.91 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของโควิด 19
การพลิกฟื้นเกมธุรกิจครั้งนี้ ถูกตั้งคำถามว่า MINT ทำได้อย่างไร ?
เมื่อต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงขาลง
เมื่อต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงขาลง
จนถึงประเด็นร้อน เมื่อราคาพลังงานในทวีปยุโรปถีบตัวสูงขึ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ลงทุนแมนจะสรุปประเด็นให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
ลงทุนแมนจะสรุปประเด็นให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
โครงสร้างรายได้ของ MINT ในช่วงปี 2563 ซึ่งเป็นปีก่อนการระบาดของโควิด 19
ที่น่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงของธุรกิจในเวลานี้มากที่สุด โดยแบ่งออกเป็น
ที่น่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงของธุรกิจในเวลานี้มากที่สุด โดยแบ่งออกเป็น
ธุรกิจโรงแรม 70%
ธุรกิจร้านอาหาร 25%
และธุรกิจไลฟ์สไตล์ 5%
ธุรกิจร้านอาหาร 25%
และธุรกิจไลฟ์สไตล์ 5%
จะเห็นว่า ธุรกิจโรงแรมคือ เส้นเลือดใหญ่ของ MINT ถือว่าอยู่แถวหน้าของโลกในธุรกิจนี้
ด้วยการมีโรงแรมที่ลงทุนเอง และร่วมลงทุนอยู่ในมือ 367 แห่ง
รวมทั้งธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมอีก 159 แห่ง
ด้วยการมีโรงแรมที่ลงทุนเอง และร่วมลงทุนอยู่ในมือ 367 แห่ง
รวมทั้งธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมอีก 159 แห่ง
โดยรวมแล้ว MINT มีห้องพักภายใต้การบริหารอยู่ 75,707 ห้อง ใน 56 ประเทศทั่วโลก
และทำให้รายได้ในธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ มีสัดส่วนสูงถึง 93% จากรายได้ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมทั้งหมดของบริษัท
และทำให้รายได้ในธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ มีสัดส่วนสูงถึง 93% จากรายได้ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมทั้งหมดของบริษัท
โดยหนึ่งในทำเลที่ MINT ปักหมุดสาขาโรงแรมต่าง ๆ ไว้มากเป็นอันดับต้น ๆ คือ ทวีปยุโรป
ทีนี้ พอเกิดวิกฤติด้านราคาพลังงานในหลายประเทศในทวีปยุโรป
ที่ถีบตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จากสาเหตุของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ก็เลยเกิดคำถามว่า MINT จะมีวิธีการรับมือกับเรื่องนี้ด้วยวิธีไหน..
ที่ถีบตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จากสาเหตุของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ก็เลยเกิดคำถามว่า MINT จะมีวิธีการรับมือกับเรื่องนี้ด้วยวิธีไหน..
หากเราเป็นนักธุรกิจ เมื่อรู้ว่า ราคาวัตถุดิบจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
สิ่งที่ต้องคิดเป็นอันดับแรกคือ “การสะกดราคาให้คงที่” ด้วยวิธีไหน
สิ่งที่ต้องคิดเป็นอันดับแรกคือ “การสะกดราคาให้คงที่” ด้วยวิธีไหน
MINT เองก็ทำเช่นนั้น ด้วยการเจรจากับผู้ประกอบการโรงงานผลิตไฟฟ้าหลายแห่งในทวีปยุโรป เพื่อล็อกราคาพลังงาน
โดยทำสำเร็จไปแล้ว 65% จากจำนวนพลังงานไฟฟ้าที่จะใช้ในธุรกิจ
และคาดว่าจะทำสำเร็จเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
โดยทำสำเร็จไปแล้ว 65% จากจำนวนพลังงานไฟฟ้าที่จะใช้ในธุรกิจ
และคาดว่าจะทำสำเร็จเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อีกทั้ง ราคาพลังงานทั้งหมดของ MINT ที่ใช้ในปี 2565 นี้
มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงไว้ที่ราคาของปี 2564
ขณะเดียวกัน ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ คิดเป็นสัดส่วนแค่ 4% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
ทำให้ราคาพลังงานที่สูงในยุโรป แทบจะไม่สร้างผลกระทบใด ๆ แก่ MINT
มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงไว้ที่ราคาของปี 2564
ขณะเดียวกัน ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ คิดเป็นสัดส่วนแค่ 4% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
ทำให้ราคาพลังงานที่สูงในยุโรป แทบจะไม่สร้างผลกระทบใด ๆ แก่ MINT
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ค่าเงินยูโร และเงินปอนด์สเตอร์ลิง อ่อนค่าลง
สาเหตุหลักมาจาก ธนาคารกลางของสหรัฐ หรือ เฟด ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง
เพื่อหวังสู้ค่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ
สาเหตุหลักมาจาก ธนาคารกลางของสหรัฐ หรือ เฟด ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง
เพื่อหวังสู้ค่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ
แม้หลายคนมองว่า นี่เป็นสัญญาณเตือนการเข้าสู่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก
แต่อีกมุมหนึ่ง ก็สร้างประโยชน์ให้แก่การท่องเที่ยวในยุโรป อย่างคาดไม่ถึง..
แต่อีกมุมหนึ่ง ก็สร้างประโยชน์ให้แก่การท่องเที่ยวในยุโรป อย่างคาดไม่ถึง..
เพราะแม้ภาพรวมค่าเงินหลายสกุลทั่วโลก จะอ่อนค่าลง
แต่ในมุมกลับกัน ก็มีบางสกุลเงิน เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรในช่วงนี้
กลับแข็งค่าขึ้นกว่าในอดีต แน่นอนที่เห็นชัด ๆ ก็คือ ดอลลาร์สหรัฐ
แต่ในมุมกลับกัน ก็มีบางสกุลเงิน เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรในช่วงนี้
กลับแข็งค่าขึ้นกว่าในอดีต แน่นอนที่เห็นชัด ๆ ก็คือ ดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง บวกกับการปลดล็อกผู้คนให้เดินทางท่องเที่ยวได้
ทำให้ผู้คนทั่วโลกเดินทางไปท่องเที่ยว และช็อปปิงแบรนด์หรูในทวีปยุโรปกันอย่างคึกคัก
ทำให้ผู้คนทั่วโลกเดินทางไปท่องเที่ยว และช็อปปิงแบรนด์หรูในทวีปยุโรปกันอย่างคึกคัก
ปรากฏการณ์นี้ จึงเข้าทาง MINT พอดี..
เมื่อโรงแรมต่าง ๆ ของ MINT ส่วนใหญ่ปักหมุดอยู่ใจกลางเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ ในหลายประเทศในทวีปยุโรป แถม ลูกค้าหลัก ของโรงแรม จะเป็นกลุ่ม High-end ที่มีกำลังซื้อสูง จนทำให้ ผลประกอบการธุรกิจโรงแรมในทวีปยุโรปโตระเบิด
เมื่อโรงแรมต่าง ๆ ของ MINT ส่วนใหญ่ปักหมุดอยู่ใจกลางเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ ในหลายประเทศในทวีปยุโรป แถม ลูกค้าหลัก ของโรงแรม จะเป็นกลุ่ม High-end ที่มีกำลังซื้อสูง จนทำให้ ผลประกอบการธุรกิจโรงแรมในทวีปยุโรปโตระเบิด
รู้หรือไม่ว่า แม้โรงแรมในเครือ MINT จะปรับราคาที่พักขึ้น จนมีค่าเฉลี่ย 130 ยูโรต่อคืน
โดยเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19
โดยเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19
แต่ยังมีอัตราเข้าพักตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม คิดเป็น 70% จากจำนวนห้องพักทั้งหมด
และเมื่อเข้าสู่ช่วง High Season คือช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ในปีหน้า อัตราเข้าพัก ก็น่าจะสูงขึ้นกว่านี้อีก
พอจะเห็นภาพว่า เมื่อ MINT ควบคุมต้นทุนทางธุรกิจได้ดี และแนวโน้มการเข้าพักในโรงแรมต่าง ๆ ทั้งในต่างประเทศและในเมืองไทย มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ก็น่าจะทำให้นักลงทุน ทั้งรายย่อย และรายใหญ่ มั่นใจได้ว่า ปีนี้ MINT น่าจะกลับมามีกำไรอีกครั้ง และไม่ใช่แค่ในปีนี้ แต่ยังหมายถึงปีต่อไป อีกด้วย
ส่วนในฝั่งธุรกิจร้านอาหาร ที่คิดเป็น 25% จากรายได้ทั้งหมด ก็กลับมาเติบโตอย่างน่าสนใจ
โดยปัจจุบันบริษัทมี 10 แบรนด์ และมีสาขารวมกัน 2,459 สาขา
แบ่งเป็นในประเทศ 74% และต่างประเทศ 26%
โดยเฉพาะร้านอาหารในเมืองไทย ที่เป็นรายได้หลัก เติบโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โดยปัจจุบันบริษัทมี 10 แบรนด์ และมีสาขารวมกัน 2,459 สาขา
แบ่งเป็นในประเทศ 74% และต่างประเทศ 26%
โดยเฉพาะร้านอาหารในเมืองไทย ที่เป็นรายได้หลัก เติบโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
เมื่อธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร ที่คิดเป็น 95% ของรายได้ทั้งหมดของ MINT ได้ฟื้นตัว พร้อมสร้างกระแสเงินสดไหลเข้าบริษัท
โดยเงินส่วนหนึ่ง บริษัทจะนำไปทยอยจ่ายหนี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
โดยเงินส่วนหนึ่ง บริษัทจะนำไปทยอยจ่ายหนี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
ซึ่งก็ต้องบอกว่า MINT จัดการเรื่องนี้ได้ดี เลยทีเดียว..
เมื่อเวลานี้ นอกจากบริษัทจะมีเงินสดอยู่ในมือกว่า 26,000 ล้านบาท
เพื่อใช้ในการหมุนเวียนธุรกิจแล้วนั้น ก็ยังมีการวางแผนที่จะชำระหนี้เพิ่มเติมต่อเนื่อง
เหตุผลเพราะ MINT คาดการณ์ว่า ทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต จะมีแนวโน้มสูงขึ้น
เพื่อใช้ในการหมุนเวียนธุรกิจแล้วนั้น ก็ยังมีการวางแผนที่จะชำระหนี้เพิ่มเติมต่อเนื่อง
เหตุผลเพราะ MINT คาดการณ์ว่า ทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต จะมีแนวโน้มสูงขึ้น
โดย MINT สามารถเพิ่มสัดส่วนของหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่
จากน้อยกว่า 50% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เป็นเกือบ 60% เมื่อสิ้นไตรมาส 3 ปี 2565
ผ่านการชำระคืนหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวก่อนกำหนด
และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Hedging)
จากน้อยกว่า 50% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เป็นเกือบ 60% เมื่อสิ้นไตรมาส 3 ปี 2565
ผ่านการชำระคืนหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวก่อนกำหนด
และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Hedging)
ถึงตรงนี้.. การกลับมาฟื้นตัวทางธุรกิจของ MINT สอนอะไรให้แก่เรา
คงเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อธุรกิจเข้าสู่โหมดเส้นกราฟกำลังทะยานขึ้น
คงเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อธุรกิจเข้าสู่โหมดเส้นกราฟกำลังทะยานขึ้น
สิ่งที่มักตามมาด้วยคือ อุปสรรคปัญหา ที่คอยขัดขวางการทะยานขึ้นของเส้นกราฟ
แต่หากเราบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำลายอุปสรรคระหว่างทางได้สิ้นซาก
เส้นกราฟธุรกิจก็จะทะยานขึ้นต่อไปอย่างราบรื่น
เส้นกราฟธุรกิจก็จะทะยานขึ้นต่อไปอย่างราบรื่น
เหมือนอย่าง การฟื้นตัวทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ ของ MINT นั่นเอง..
References
-ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาสที่ 2
-ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาสที่ 2