
กรณีศึกษา FUJIFILM กับการปรับตัวอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อก้าวไปสู่อนาคตแห่งความยั่งยืน
กรณีศึกษา FUJIFILM กับการปรับตัวอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อก้าวไปสู่อนาคตแห่งความยั่งยืน
FUJIFILM X ลงทุนแมน
FUJIFILM X ลงทุนแมน
หากพูดถึงบริษัทระดับโลกที่ผ่านการ Disruption ในยุคแรก ๆ
จนกลายเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งมาถึงทุกวันนี้
หนึ่งในนั้นก็น่าจะมีบริษัท FUJIFILM
จนกลายเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งมาถึงทุกวันนี้
หนึ่งในนั้นก็น่าจะมีบริษัท FUJIFILM
ในอดีตรายได้หลักของ FUJIFILM มาจากธุรกิจฟิล์มถ่ายภาพ
แต่เมื่อโลกของการถ่ายภาพเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัล โดยไม่ต้องพึ่งพาฟิล์ม
แต่เมื่อโลกของการถ่ายภาพเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัล โดยไม่ต้องพึ่งพาฟิล์ม
FUJIFILM จึงต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ
ซึ่งหนึ่งธุรกิจที่คนทั่วไปรู้จักกันดีก็คือ กล้องดิจิทัล
แน่นอนว่าปัจจุบันนี้ FUJIFILM ยืนอยู่ระดับแถวหน้าในตลาดกล้องดิจิทัลระดับโลก
ด้วยจุดขายกล้องมิลเลอร์เลสขนาดเล็กกะทัดรัด ดีไซน์คลาสสิก
และ image quality ที่ถือเป็นอันดับหนึ่งในวงการถ่ายภาพ
ซึ่งหนึ่งธุรกิจที่คนทั่วไปรู้จักกันดีก็คือ กล้องดิจิทัล
แน่นอนว่าปัจจุบันนี้ FUJIFILM ยืนอยู่ระดับแถวหน้าในตลาดกล้องดิจิทัลระดับโลก
ด้วยจุดขายกล้องมิลเลอร์เลสขนาดเล็กกะทัดรัด ดีไซน์คลาสสิก
และ image quality ที่ถือเป็นอันดับหนึ่งในวงการถ่ายภาพ
หลายคนอาจคิดว่า ธุรกิจด้านการถ่ายภาพ น่าจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มากที่สุด
แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เมื่อปัจจุบันธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้แก่บริษัทคือ
ธุรกิจนวัตกรรมสิ่งพิมพ์เพื่อธุรกิจ ซึ่งทำรายได้ถึง 35% ของผลประกอบทั้งหมด และ ธุรกิจทางการแพทย์ ที่มีรายได้ถึง 26% ของผลประกอบการทั้งหมด
โดยหากคิดรวมกันจะอยู่ที่ 61% ของผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณการเงิน ปี 2021
ธุรกิจนวัตกรรมสิ่งพิมพ์เพื่อธุรกิจ ซึ่งทำรายได้ถึง 35% ของผลประกอบทั้งหมด และ ธุรกิจทางการแพทย์ ที่มีรายได้ถึง 26% ของผลประกอบการทั้งหมด
โดยหากคิดรวมกันจะอยู่ที่ 61% ของผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณการเงิน ปี 2021
ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ในปี 2021 FUJIFILM ประกาศผ่านแคมเปญ NEVER STOP ให้ทั่วโลก
รู้ว่าตัวเองจะไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมใน 2 กลุ่มธุรกิจดังกล่าว
ภายใต้คอนเซปท์ NEVER STOP IMPROVING THE FUTURE
รู้ว่าตัวเองจะไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมใน 2 กลุ่มธุรกิจดังกล่าว
ภายใต้คอนเซปท์ NEVER STOP IMPROVING THE FUTURE
แคมเปญ NEVER STOP ในปี 2021 ของ FUJIFILM
แล้วแนวคิด NEVER STOP จะสร้างโอกาสเติบโตให้แก่ FUJIFILM มากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เริ่มต้นกันด้วย.. ธุรกิจนวัตกรรมสิ่งพิมพ์เพื่อธุรกิจ
ลงทุนแมนเชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับ Fuji Xerox ที่เป็นบริษัทแถวหน้าของธุรกิจเครื่องพิมพ์อเนกประสงค์สำหรับสำนักงาน
โดยในปี 2019 ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อ FUJIFILM ตัดสินใจ
ควบรวมกิจการทั้งหมด พร้อมเปลี่ยนชื่อจาก Fuji Xerox
มาเป็น FUJIFILM Business Innovation
ทำให้ความแข็งแกร่งในการขยายผลิตภัณฑ์ในพอร์ตทั่วถึง
ควบรวมกิจการทั้งหมด พร้อมเปลี่ยนชื่อจาก Fuji Xerox
มาเป็น FUJIFILM Business Innovation
ทำให้ความแข็งแกร่งในการขยายผลิตภัณฑ์ในพอร์ตทั่วถึง
โดยการควบรวมกิจการครั้งนี้ก็ส่งผลให้ FUJIFILM มีการขยายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและบริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น สร้างความแข็งแกร่งของ Portfolio ของตัวเองในธุรกิจนวัตกรรมสิ่งพิมพ์เพื่อธุรกิจ
จนยกระดับให้ FUJIFILM เป็น Total Printing Solutions ที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดในทันที
จนยกระดับให้ FUJIFILM เป็น Total Printing Solutions ที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดในทันที
ขณะเดียวกันก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้ายุค Digital Transformation ด้วย
บริการ All-in-One Workplace Platform ที่ช่วยให้ผู้บริหารอนุมัติเอกสารได้ทุกที่ ทุกเวลา
แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันที่อยู่ใน Cloud
บริการ All-in-One Workplace Platform ที่ช่วยให้ผู้บริหารอนุมัติเอกสารได้ทุกที่ ทุกเวลา
แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันที่อยู่ใน Cloud
ทางด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ Graphic Arts เพื่อบรรจุภัณฑ์
FUJIFILM ได้พัฒนานวัตกรรมเครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัลหลากหลายรุ่น ที่นอกจากจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและครอบคลุมทุกคุณสมบัติที่ถือเป็นหัวใจของงานพิมพ์
ทั้งเรื่องคุณภาพงานพิมพ์ระดับพรีเมี่ยม ประสิทธิภาพการพิมพ์ความเร็วสูง
และยังสามารถพิมพ์บนวัสดุได้หลากหลาย เช่น กระดาษ, พลาสติก, แผ่นโลหะ และ กระดาษลูกฟูก
FUJIFILM ได้พัฒนานวัตกรรมเครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัลหลากหลายรุ่น ที่นอกจากจะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและครอบคลุมทุกคุณสมบัติที่ถือเป็นหัวใจของงานพิมพ์
ทั้งเรื่องคุณภาพงานพิมพ์ระดับพรีเมี่ยม ประสิทธิภาพการพิมพ์ความเร็วสูง
และยังสามารถพิมพ์บนวัสดุได้หลากหลาย เช่น กระดาษ, พลาสติก, แผ่นโลหะ และ กระดาษลูกฟูก

นอกจาก FUJIFILM จะให้ความสำคัญของเทคโนโลยีสิ่งพิมพ์ไปที่การตอบโจทย์ของลูกค้าในเรื่องต้นทุนและประสิทธิภาพต่างๆแล้ว
เรื่องสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจที่สำคัญเช่นกัน
เรื่องสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจที่สำคัญเช่นกัน
รู้หรือไม่ว่า FUJIFILM มีแผนการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน ปี 2030 หรือ Sustainable Value Plan 2030 (SVP2030) ซึ่งตั้งเป้าหมายในการลดคาร์บอนไดออกไซด์
ลงถึง 65% หากเทียบกับปี 2013 นั่นแปลว่าผลิตภัณฑ์และบริการในทุก ๆ ธุรกิจของ FUJIFILM
ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงมือลูกค้าจะอยู่ภายใต้แนวคิดเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
ลงถึง 65% หากเทียบกับปี 2013 นั่นแปลว่าผลิตภัณฑ์และบริการในทุก ๆ ธุรกิจของ FUJIFILM
ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงมือลูกค้าจะอยู่ภายใต้แนวคิดเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

ทีนี้หลายคนอาจไม่รู้ว่า FUJIFILM ถือเป็นบริษัทแถวหน้าของโลกในการผลิตฟิล์ม X-Ray
โดยใช้องค์ความรู้จากธุรกิจถ่ายภาพมาต่อยอดธุรกิจ
โดยใช้องค์ความรู้จากธุรกิจถ่ายภาพมาต่อยอดธุรกิจ
จากความสำเร็จตรงนี้ ทำให้บริษัทคิดต่อว่าแล้วต้องทำอย่างไร จึงจะโดดเด่นในธุรกิจนี้
เพราะธุรกิจเครื่องมือแพทย์และสุขภาพคือเมกะเทรนด์ของโลก
เพราะธุรกิจเครื่องมือแพทย์และสุขภาพคือเมกะเทรนด์ของโลก
เมื่อรู้เป้าหมายที่จะก้าวไป FUJIFILM เองก็ศึกษาและรวบรวมองค์ความรู้ทั้งหมด
มาพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์
ซึ่งก็ต้องบอกว่า FUJIFILM ทำได้ดีเลยทีเดียว
มาพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์
ซึ่งก็ต้องบอกว่า FUJIFILM ทำได้ดีเลยทีเดียว

เพราะใครจะคิดว่า จากบริษัทผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพในอดีต
เวลานี้จะสามารถผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางการแพทย์
อย่าง เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลเคลื่อนที่ เครื่องอัลตราซาวนด์ เครื่องแมมโมแกรมตรวจเอกซเรย์เต้านม และเครื่องส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร โดยนำ “REiLI” เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ขั้นสูงเข้ามาช่วยยกระดับการตรวจวินิจฉัยโรค โดย AI จะจับสิ่งปกติหรือรอยโรคและแสดงผลที่หน้าจอมอนิเตอร์แบบ real-time ช่วยให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์สามารถวิเคราะห์โรคได้แม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เวลานี้จะสามารถผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางการแพทย์
อย่าง เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลเคลื่อนที่ เครื่องอัลตราซาวนด์ เครื่องแมมโมแกรมตรวจเอกซเรย์เต้านม และเครื่องส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร โดยนำ “REiLI” เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ขั้นสูงเข้ามาช่วยยกระดับการตรวจวินิจฉัยโรค โดย AI จะจับสิ่งปกติหรือรอยโรคและแสดงผลที่หน้าจอมอนิเตอร์แบบ real-time ช่วยให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์สามารถวิเคราะห์โรคได้แม่นยำและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งการต่อยอดที่นำความรู้ด้านเทคโนโลยีถ่ายภาพมาใช้
ก็คือการพัฒนาระบบสารสนเทศทางการแพทย์ (Healthcare IT) ในชื่อ “Synapse” ซึ่งเป็นระบบจัดเก็บข้อมูลและภาพถ่าย ตลอดจนโซลูชันที่สามารถช่วยแพทย์ในการการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์แบบ 3D ด้วย Synapse 3D โปรแกรมสร้างภาพแบบสามมิติ
ทำให้เวลานี้ในหลายโรงพยาบาลทั่วโลก รวมถึงในเมืองไทย
ต่างใช้เครื่องมือทางการแพทย์ของ FUJIFILM ซึ่งส่งผลดีต่อตัวเรา
ก็คือ เวลาเราป่วย แพทย์ก็จะวินิจฉัยอาการป่วยได้แม่นยำและรวดเร็ว
ก็คือการพัฒนาระบบสารสนเทศทางการแพทย์ (Healthcare IT) ในชื่อ “Synapse” ซึ่งเป็นระบบจัดเก็บข้อมูลและภาพถ่าย ตลอดจนโซลูชันที่สามารถช่วยแพทย์ในการการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์แบบ 3D ด้วย Synapse 3D โปรแกรมสร้างภาพแบบสามมิติ
ทำให้เวลานี้ในหลายโรงพยาบาลทั่วโลก รวมถึงในเมืองไทย
ต่างใช้เครื่องมือทางการแพทย์ของ FUJIFILM ซึ่งส่งผลดีต่อตัวเรา
ก็คือ เวลาเราป่วย แพทย์ก็จะวินิจฉัยอาการป่วยได้แม่นยำและรวดเร็ว
อีกหนึ่งก้าวสำคัญทางธุรกิจของ FUJIFILM ก็คือ การที่บริษัทแม่ของ FUJIFILM ในประเทศญี่ปุ่น
ได้ประกาศเข้าควบรวมกิจการกับบริษัท Hitachi Healthcare
และเปลี่ยนชื่อมาเป็น Fujifilm Healthcare Corporation
ได้ประกาศเข้าควบรวมกิจการกับบริษัท Hitachi Healthcare
และเปลี่ยนชื่อมาเป็น Fujifilm Healthcare Corporation
การควบรวมกิจการครั้งนี้ เสมือนการติดอาวุธทางการตลาดในธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์
โดยเฉพาะเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางการแพทย์ ด้วยการนำความเชี่ยวชาญด้าน MRI
และ CT Scan มาเสริมทัพเพื่อยกระดับธุรกิจทางการแพทย์ของ FUJIFILM ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ยกระดับเป็น “No.1 Total Medical Imaging Solutions” ทิ้งห่างคู่แข่งไปอีกขั้น
โดยเฉพาะเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางการแพทย์ ด้วยการนำความเชี่ยวชาญด้าน MRI
และ CT Scan มาเสริมทัพเพื่อยกระดับธุรกิจทางการแพทย์ของ FUJIFILM ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ยกระดับเป็น “No.1 Total Medical Imaging Solutions” ทิ้งห่างคู่แข่งไปอีกขั้น
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คงพอจะเข้าใจว่าทำไม FUJIFILM จึงขับเคลื่อนธุรกิจ
ภายใต้แนวคิด NEVER STOP ที่จะไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม ดูแลคุณภาพชีวิต เพื่อความยั่งยืนและสุขภาวะของโลกที่ดีขึ้น
ภายใต้แนวคิด NEVER STOP ที่จะไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม ดูแลคุณภาพชีวิต เพื่อความยั่งยืนและสุขภาวะของโลกที่ดีขึ้น
เพราะในอดีต FUJIFILM เองได้ปรับตัวเปลี่ยนจากผู้นำในโลกธุรกิจฟิล์มถ่ายภาพ
มาเป็น ผู้นำในโลกธุรกิจเครื่องมือแพทย์และธุรกิจ Printing Solution
มาเป็น ผู้นำในโลกธุรกิจเครื่องมือแพทย์และธุรกิจ Printing Solution
พอเปลี่ยนน้ำหนักทางธุรกิจแล้ว ก็ต้องพัฒนาธุรกิจตัวเองอยู่ตลอดเวลา
เพราะวันนี้การเกิด Disruption ในโลกธุรกิจได้กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
เพราะวันนี้การเกิด Disruption ในโลกธุรกิจได้กลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
โดยทาง FUJIFILM ก็รู้ดีว่า หากคิดจะเติบโตต่อเนื่องไปในอนาคต
ก็ต้องปรับตัวไปสู่การต่อยอดธุรกิจใหม่ ๆ ได้อย่างยั่งยืน
พร้อมกับไม่หยุดยั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ให้สมกับพันธกิจที่ให้ไว้ในสโลแกนขององค์กรที่ว่า “Value from innovation” หรือ “นวัตนกรรมอันทรงคุณค่า”
ก็ต้องปรับตัวไปสู่การต่อยอดธุรกิจใหม่ ๆ ได้อย่างยั่งยืน
พร้อมกับไม่หยุดยั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ให้สมกับพันธกิจที่ให้ไว้ในสโลแกนขององค์กรที่ว่า “Value from innovation” หรือ “นวัตนกรรมอันทรงคุณค่า”
ด้วยแนวคิดนี้เองที่ทำให้ FUJIFILM สามารถอยู่ในตำแหน่งบริษัทชั้นนำระดับโลก
ที่ไม่ว่าจะเกิดการ Disruption ในโลกธุรกิจอีกสักกี่ครั้งก็ตาม
ที่ไม่ว่าจะเกิดการ Disruption ในโลกธุรกิจอีกสักกี่ครั้งก็ตาม
FUJIFILM NEVER STOP IMPROVING THE FUTURE