กรณีศึกษา น้ำพริกเผา ฉั่วฮะเส็ง
กรณีศึกษา น้ำพริกเผา ฉั่วฮะเส็ง / โดย เพจลงทุนแมน
น้ำพริกเผา เป็นหนึ่งในเครื่องปรุงของไทยที่ขาดไม่ได้
ถ้าจะให้พูดถึงพริกเผา ยี่ห้อนี้ก็น่าจะลอยมาในหัว
เรามาดูกันว่า ฉั่วฮะเส็ง มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
น้ำพริกเผา เป็นหนึ่งในเครื่องปรุงของไทยที่ขาดไม่ได้
ถ้าจะให้พูดถึงพริกเผา ยี่ห้อนี้ก็น่าจะลอยมาในหัว
เรามาดูกันว่า ฉั่วฮะเส็ง มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
ฉั่วฮะเส็ง เป็นธุรกิจของครอบครัว พรหมบันดาลกุล ที่มีจุดกำเนิดมาจากร้านเล็กๆ ที่ทำน้ำพริกเผาขายในตลาดเก่าเยาวราชมานานกว่า 70 ปีแล้ว แต่เพิ่งจดทะเบียนเป็นบริษัทเมื่อปี 2534 หรือเมื่อ 26 ปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ลูกค้าของน้ำพริกเผาของฉั่วฮะเส็งส่วนใหญ่ น่าจะเป็นผู้ประกอบการมากกว่าผู้บริโภค เพราะน้ำพริกเผาที่ขาย อยู่ในรูปของกระป๋องโลหะที่มีขนาดใหญ่ (เล็กสุดเกือบครึ่งกิโล) ซึ่งสำหรับลูกค้าที่เป็น โรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหารทั่วๆ ไปที่ต้องใช้เป็นปริมาณมากทุกวัน ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าพูดถึงคนทั่วไปที่ทำอาหารทานกันเองที่บ้าน ถึงจะเคยลองทานแล้วชอบในรสชาติ แต่จะให้ซื้อน้ำพริกเผาเป็นกระป๋องมาใช้ที่บ้าน ก็ดูจะใช้ยากเกินไป ยิ่งในปัจจุบันที่คนอาศัยอยู่ในคอนโดจำนวนมากและไม่ค่อยทำอาหารเอง ยิ่งดูไม่น่าจะสะดวกเข้าไปใหญ่
ฉั่วฮะเส็ง จึงไม่น่าจะตอบโจทย์ของผู้บริโภครายย่อยได้
และก็คงมีคนไม่น้อยที่ไม่แม้แต่จะเคยเห็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ก็ดูเหมือนว่าบริษัทจะเริ่มขยายเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคอย่างเต็มตัว โดยมองเห็นถึง pain point ของผลิตภัณฑ์ เปิดตัวน้ำพริกเผาที่บรรจุอยู่ในขวดแก้ว มีขนาดที่เล็กลง (เล็กสุดประมาณ 100 กรัม) เหมือนกับน้ำพริกเผาที่เราเคยเห็นๆ กันของเจ้าอื่น
และยังมีการทำโฆษณามาออกทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ต่างๆ รวมถึงจับมือทำการตลาดกับช่องทางโมเดิร์นเทรด เพื่อให้ชื่อของผลิตภัณฑ์เข้าถึงตัวของผู้บริโภคทั่วไปได้มากขึ้น
แล้วฉั่วฮะเส็งมีรายได้เท่าไร?
บริษัท ฉั่วฮะเส็ง ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด
ปี 2555 รายได้ 137 ล้านบาท ขาดทุน 2.1 ล้านบาท
ปี 2556 รายได้ 138 ล้านบาท ขาดทุน 342,305 บาท
ปี 2557 รายได้ 168 ล้านบาท ขาดทุน 221,930 บาท
ปี 2558 รายได้ 223 ล้านบาท กำไร 8.2 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 263 ล้านบาท กำไร 3.5 ล้านบาท
ปี 2555 รายได้ 137 ล้านบาท ขาดทุน 2.1 ล้านบาท
ปี 2556 รายได้ 138 ล้านบาท ขาดทุน 342,305 บาท
ปี 2557 รายได้ 168 ล้านบาท ขาดทุน 221,930 บาท
ปี 2558 รายได้ 223 ล้านบาท กำไร 8.2 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 263 ล้านบาท กำไร 3.5 ล้านบาท
เรื่องนี้ก็คล้ายกับกรณีของนมข้นหวานตรามะลิ ที่บริษัทจะอยู่เฉยๆ พึ่งตลาดหลัก B2B ไปตลอด โดยไม่มีการปรับตัวไปตามยุคสมัยของผู้บริโภคก็คงไม่ได้
โดยเฉพาะคนสมัยนี้ชอบทำธุรกิจเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือร้านขนม วันหนึ่งข้างหน้าจากผู้บริโภคก็อาจจะกลายเป็นผู้ประกอบการ
การสร้างการรับรู้ให้ทั่วถึง ก็อาจจะเป็นคำตอบหนึ่งที่ทำให้บริษัทเติบโตต่อไปได้ในอนาคต
ถ้ามองเห็นโอกาส แล้วเรามีกำลังที่จะคว้าไว้ได้ ก็น่าจะทำ
เพราะถ้าไม่แล้ว สุดท้ายก็คงถูกคนอื่นมาแย่งโอกาสไป...
----------------------
ลงทุนแมนมีแอปแล้ว.. แอป Social Knowledge แอป แรกของประเทศไทย ติดตามความรู้ด้านธุรกิจการลงทุน บุคคลที่น่าสนใจ เทคโนโลยี ประวัติศาสตร์ และ พูดคุยกับคนอื่นในสังคมแห่งความรู้ได้ที่นี่.. การลงทุนที่ดีที่สุด คือ การลงทุนในความรู้.. โหลดแอปฟรีได้ที่ https://www.longtunman.com/app
----------------------
----------------------
ลงทุนแมนมีแอปแล้ว.. แอป Social Knowledge แอป แรกของประเทศไทย ติดตามความรู้ด้านธุรกิจการลงทุน บุคคลที่น่าสนใจ เทคโนโลยี ประวัติศาสตร์ และ พูดคุยกับคนอื่นในสังคมแห่งความรู้ได้ที่นี่.. การลงทุนที่ดีที่สุด คือ การลงทุนในความรู้.. โหลดแอปฟรีได้ที่ https://www.longtunman.com/app
----------------------