กรณีศึกษา การทรานส์ฟอร์ม วัดเส้าหลิน สู่ธุรกิจท่องเที่ยว
กรณีศึกษา การทรานส์ฟอร์ม วัดเส้าหลิน สู่ธุรกิจท่องเที่ยว /โดย ลงทุนแมน
“Everybody was a kung-fu fighting”
ท่อนแรกของเพลง Kung Fu Fighting ที่ร้องโดย Carl Douglas
คงจะเป็นท่อนหนึ่งของเพลง ที่ใครหลายคนจดจำได้ จากภาพยนตร์แอ็กชันสไตล์กังฟู
ท่อนแรกของเพลง Kung Fu Fighting ที่ร้องโดย Carl Douglas
คงจะเป็นท่อนหนึ่งของเพลง ที่ใครหลายคนจดจำได้ จากภาพยนตร์แอ็กชันสไตล์กังฟู
รู้ไหมว่าการที่ “กังฟู” กลายเป็นกระแสทั่วโลกอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้
ส่วนสำคัญเลยเพราะ การสนับสนุนจากวัดเส้าหลิน
ส่วนสำคัญเลยเพราะ การสนับสนุนจากวัดเส้าหลิน
วัดแห่งนี้ เคยมีช่วงเวลาที่ตกต่ำและย่ำแย่ แต่ก็ได้พลิกกลับมาเป็นวัด
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แถมยังสามารถผลักดันกังฟู
ให้กลายเป็น Soft Power ของประเทศจีนได้อีกด้วย
แล้ววัดแห่งนี้ มีวิทยายุทธทางธุรกิจ อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จริง ๆ แล้ว วัดเส้าหลิน คือวัดนิกายมหายาน ที่มีความเก่าแก่มากกว่า 1,500 ปี
ตัววัด ตั้งอยู่บนเทือกเขาซงซาน เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในห้ายอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แถมยังสามารถผลักดันกังฟู
ให้กลายเป็น Soft Power ของประเทศจีนได้อีกด้วย
แล้ววัดแห่งนี้ มีวิทยายุทธทางธุรกิจ อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จริง ๆ แล้ว วัดเส้าหลิน คือวัดนิกายมหายาน ที่มีความเก่าแก่มากกว่า 1,500 ปี
ตัววัด ตั้งอยู่บนเทือกเขาซงซาน เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในห้ายอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน
วัดเส้าหลินมีชื่อเสียงด้านการเป็นแหล่งวิชาการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน
อย่างที่เราน่าจะคุ้นชื่อกันดี เช่น เพลงหมัดมวย พลังลมปราณ รวมถึงกังฟูเส้าหลิน
อย่างที่เราน่าจะคุ้นชื่อกันดี เช่น เพลงหมัดมวย พลังลมปราณ รวมถึงกังฟูเส้าหลิน
ความโด่งดังของศิลปะป้องกันตัวเหล่านี้ ก็ได้ทำให้วัดเส้าหลินสร้างเม็ดเงินมหาศาล
แต่ช่วงหนึ่งวัดเส้าหลินเคยเกือบจะแย่ แต่สุดท้ายกลับมามีชื่อเสียงได้ ด้วยการบริหารของเจ้าอาวาสท่านหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “ฉี หย่งซิน”
ปี 1981 ฉี หย่งซิน ในวัย 16 ปี ได้เข้าสู่ชีวิตสงฆ์ที่วัดเส้าหลิน
สมัยนั้น เส้าหลินยังมีสภาพเสื่อมโทรม อาคารและสิ่งของต่าง ๆ ในวัดแตกหักเสียหาย
สมัยนั้น เส้าหลินยังมีสภาพเสื่อมโทรม อาคารและสิ่งของต่าง ๆ ในวัดแตกหักเสียหาย
รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของพระภิกษุก็ย่ำแย่ ทั้งวัดมีพระภิกษุเพียง 20 รูปเท่านั้น
ไม่มีกระทั่งเจ้าอาวาส และพระแต่ละรูป อยู่ได้ด้วยซาลาเปาเพียง 2 ลูกต่อวัน
ไม่มีกระทั่งเจ้าอาวาส และพระแต่ละรูป อยู่ได้ด้วยซาลาเปาเพียง 2 ลูกต่อวัน
สาเหตุเกิดจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ที่เรียกว่าการปฏิวัติทางวัฒนธรรม
ในสมัย เหมา เจ๋อตง ที่ได้ควบคุมการนับถือศาสนา
รวมถึงทำลายสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ของวัด
ในสมัย เหมา เจ๋อตง ที่ได้ควบคุมการนับถือศาสนา
รวมถึงทำลายสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ของวัด
แต่ต่อมา เติ้ง เสี่ยวผิง ก็ได้ยุติการปฏิวัติทางวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการในปี 1981
หลังจากนั้นมา ศาสนาพุทธและวัดต่าง ๆ ก็ได้เริ่มกลับมาฟื้นฟู
หลังจากนั้นมา ศาสนาพุทธและวัดต่าง ๆ ก็ได้เริ่มกลับมาฟื้นฟู
จากสภาพอย่างที่กล่าวไป ทำให้ ฉี หย่งซิน ต้องการฟื้นฟูศาสนาพุทธกลับมาอย่างเดิม
สิ่งแรกที่เขาทำคือ “การค้นหาเจ้าอาวาสรักษาการ”
เพื่อทำหน้าที่ปกครองดูแลอำนวยกิจการทุกอย่างเกี่ยวกับวัด
และก็ได้พบกับชายชราที่ชื่อซิงเจิ้ง ซึ่งเขาคนนี้เองก็ตอบรับจากคำขอของฉี หย่งซิน
สิ่งแรกที่เขาทำคือ “การค้นหาเจ้าอาวาสรักษาการ”
เพื่อทำหน้าที่ปกครองดูแลอำนวยกิจการทุกอย่างเกี่ยวกับวัด
และก็ได้พบกับชายชราที่ชื่อซิงเจิ้ง ซึ่งเขาคนนี้เองก็ตอบรับจากคำขอของฉี หย่งซิน
และภายหลังจากนั้นไม่นาน
ก็ได้มีจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นกับวัดเส้าหลิน
นั่นก็คือ ภาพยนตร์เรื่อง “Shaolin Temple”
หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ เสี่ยวลิ้มยี่ ถูกจัดฉายในปี 1982
ก็ได้มีจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นกับวัดเส้าหลิน
นั่นก็คือ ภาพยนตร์เรื่อง “Shaolin Temple”
หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ เสี่ยวลิ้มยี่ ถูกจัดฉายในปี 1982
ภาพยนตร์ดังกล่าว ได้สร้างความฮือฮาและเป็นกระแสอย่างถล่มทลายสำหรับชาวจีน
โดยมีการประมาณการว่าขายตั๋วรับชมภาพยนตร์ได้กว่า 300 ล้านใบในประเทศจีน
โดยมีการประมาณการว่าขายตั๋วรับชมภาพยนตร์ได้กว่า 300 ล้านใบในประเทศจีน
ด้วยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับพระเอกไปยังวัดเส้าหลินเพื่อเรียนกังฟูและกลับมาล้างแค้นพวกเหล่าร้าย
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วัดเส้าหลินจึงได้ผลพลอยได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
และก็ได้ทำให้ชาวจีนเริ่มมาท่องเที่ยวและเยี่ยมชมวัดเส้าหลินเพิ่มขึ้น
และก็ได้ทำให้ชาวจีนเริ่มมาท่องเที่ยวและเยี่ยมชมวัดเส้าหลินเพิ่มขึ้น
ฉี หย่งซิน จึงเห็นโอกาสที่วัดจะสามารถใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้
สิ่งต่อมาที่เขาดำเนินการคือ เข้าไปพูดคุยเจรจากับหน่วยงานของรัฐบาล
ให้ทางวัดสามารถเก็บเงินจากตั๋วค่ารับชม
และขออนุญาตให้วัดสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นได้
สิ่งต่อมาที่เขาดำเนินการคือ เข้าไปพูดคุยเจรจากับหน่วยงานของรัฐบาล
ให้ทางวัดสามารถเก็บเงินจากตั๋วค่ารับชม
และขออนุญาตให้วัดสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นได้
ซึ่งก็เป็นไปตามที่ ฉี หย่งซิน คาดการณ์ไว้
จากแต่ก่อนมีผู้เยี่ยมชมวัดเส้าหลินประมาณ 50,000 คนต่อปี
แต่ในปี 1984 ตัวเลขผู้เยี่ยมชมเพิ่มขึ้นเป็น 2,600,000 คนต่อปี เลยทีเดียว
เพิ่มขึ้นคิดเป็น 52 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี
จากแต่ก่อนมีผู้เยี่ยมชมวัดเส้าหลินประมาณ 50,000 คนต่อปี
แต่ในปี 1984 ตัวเลขผู้เยี่ยมชมเพิ่มขึ้นเป็น 2,600,000 คนต่อปี เลยทีเดียว
เพิ่มขึ้นคิดเป็น 52 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี
เรื่องดังกล่าวทำให้ทางวัดมีรายได้เข้ามามหาศาล
ซึ่งวัดก็สามารถนำเงินไปฟื้นฟูและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ภายในวัด
แต่ ฉี หย่งซิน มองการณ์ไกลกว่านั้นไปอีก
ซึ่งวัดก็สามารถนำเงินไปฟื้นฟูและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ภายในวัด
แต่ ฉี หย่งซิน มองการณ์ไกลกว่านั้นไปอีก
เขามองว่าไม่ใช่เพียงแค่วัดเส้าหลินที่กลับมามีชื่อเสียงเท่านั้น
แต่ศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวแบบกังฟู ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
แต่ศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวแบบกังฟู ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
ฉี หย่งซิน จึงมุ่งเน้นสื่อสารเรื่องกังฟู โดยจัดให้มีคณะการแสดงภายในวัด
รวมถึงสนับสนุนภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับวัดเส้าหลินและกังฟู
รวมถึงสนับสนุนภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับวัดเส้าหลินและกังฟู
และก็เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์อีกครั้ง
วัดเส้าหลินสามารถสร้างชื่อเสียงได้อย่างมหาศาล
ทั้งในมุมการเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงในประเทศเท่านั้น ยังลามไปทั่วโลกอีกด้วย
และกลายเป็น Soft Power ของประเทศจีนไปโดยปริยาย
วัดเส้าหลินสามารถสร้างชื่อเสียงได้อย่างมหาศาล
ทั้งในมุมการเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงในประเทศเท่านั้น ยังลามไปทั่วโลกอีกด้วย
และกลายเป็น Soft Power ของประเทศจีนไปโดยปริยาย
เมื่อวัดเส้าหลินกลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ก็ส่งผลให้มีเหล่าผู้ค้าขายทั้งหลายหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจในพื้นที่ใกล้เคียง
มีตั้งแต่ โรงแรม ร้านค้าทั่วไป ร้านอาหาร และร้านคาราโอเกะ
ก็ส่งผลให้มีเหล่าผู้ค้าขายทั้งหลายหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจในพื้นที่ใกล้เคียง
มีตั้งแต่ โรงแรม ร้านค้าทั่วไป ร้านอาหาร และร้านคาราโอเกะ
ถนนและบ้านเมืองรอบวัดที่เคยเงียบเหงาได้กลายเป็นเมืองขนาดย่อมที่มีผู้อยู่อาศัย 20,000 คน
ด้วยการที่วัดเส้าหลินเป็นแบรนด์ที่ดึงดูดเม็ดเงินได้มากมาย
บริษัทต่าง ๆ ในจีนหลายรายจึงเริ่มสร้างสินค้าที่อาศัยแบรนด์ “เส้าหลิน” ด้วย
แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องก็ตาม เช่น บุหรี่ รถยนต์ แฮม เบียร์ และอื่น ๆ อีกหลากหลายอย่าง
บริษัทต่าง ๆ ในจีนหลายรายจึงเริ่มสร้างสินค้าที่อาศัยแบรนด์ “เส้าหลิน” ด้วย
แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องก็ตาม เช่น บุหรี่ รถยนต์ แฮม เบียร์ และอื่น ๆ อีกหลากหลายอย่าง
เพื่อปกป้องภาพลักษณ์และผลประโยชน์ของวัด คุณฉี หย่งซิน จึงก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา
โดยใช้ชื่อว่า Henan Shaolin Temple Industrial Development
และจดทะเบียนชื่อ Shaolin เป็นเครื่องหมายการค้า
เพื่อป้องกันไม่ให้ใครสามารถนำชื่อไปใช้ได้อีก
ทำให้ปัจจุบันเส้าหลินกลายเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าเกือบ 700 รายการด้วยกัน
โดยใช้ชื่อว่า Henan Shaolin Temple Industrial Development
และจดทะเบียนชื่อ Shaolin เป็นเครื่องหมายการค้า
เพื่อป้องกันไม่ให้ใครสามารถนำชื่อไปใช้ได้อีก
ทำให้ปัจจุบันเส้าหลินกลายเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าเกือบ 700 รายการด้วยกัน
และจากที่กล่าวมาทั้งหมด ชื่อเสียงของแบรนด์ “เส้าหลิน”
และวิธีคิดบริหารแบบนักธุรกิจของเจ้าอาวาส ฉี หย่งซิน
ส่งผลให้ปัจจุบันวัดเส้าหลินมีรายได้มหาศาลจากธุรกิจหลากหลายช่องทาง
และวิธีคิดบริหารแบบนักธุรกิจของเจ้าอาวาส ฉี หย่งซิน
ส่งผลให้ปัจจุบันวัดเส้าหลินมีรายได้มหาศาลจากธุรกิจหลากหลายช่องทาง
ณ ขณะนี้วัดเส้าหลินประกอบธุรกิจอะไรบ้าง ?
อย่างแรกที่เรารู้จักกันคือ ธุรกิจท่องเที่ยว
รายได้มาจากค่าเข้าชม และสินค้าต่าง ๆ ที่จัดจำหน่ายภายในวัด
รายได้มาจากค่าเข้าชม และสินค้าต่าง ๆ ที่จัดจำหน่ายภายในวัด
ปัจจุบันวัดเส้าหลินร่วมมือกับ China National Travel Service ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ และจะเป็นผู้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว
เช่น บริการขนส่งแก่นักท่องเที่ยวภายในวัด การจัดระเบียบการเที่ยวชมของนักท่องเที่ยว
โดยที่รัฐจะได้ผลประโยชน์จาก 70% ของรายได้จากค่าเข้าชม
เช่น บริการขนส่งแก่นักท่องเที่ยวภายในวัด การจัดระเบียบการเที่ยวชมของนักท่องเที่ยว
โดยที่รัฐจะได้ผลประโยชน์จาก 70% ของรายได้จากค่าเข้าชม
ธุรกิจที่สอง คือ การสอนศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวแบบกังฟู
โรงเรียนสอนกังฟูที่อยู่พื้นที่รอบข้าง ส่วนใหญ่เรียนรู้วิชาจากวัดเส้าหลิน
ทำให้โรงเรียนเหล่านี้จำเป็นต้องจ่ายเงินส่วนหนึ่งเพื่อบำรุงรักษาวัด
โรงเรียนสอนกังฟูที่อยู่พื้นที่รอบข้าง ส่วนใหญ่เรียนรู้วิชาจากวัดเส้าหลิน
ทำให้โรงเรียนเหล่านี้จำเป็นต้องจ่ายเงินส่วนหนึ่งเพื่อบำรุงรักษาวัด
มีการสอนตั้งแต่การฝึกพลังลมปราณและการใช้อาวุธ เช่น ดาบ หอก กระบี่ พลอง ง้าว ทวน กระบองสองท่อน ซึ่งมีการประมาณการว่ามีผู้เรียนเป็นจำนวนถึง 30,000 คน
ซึ่งผู้ที่เรียนจบหลักสูตรแล้ว มีโอกาสที่จะได้ก้าวเข้าสู่อาชีพบอดีการ์ดหรือนักแสดงบทบู๊
ธุรกิจที่สาม คือ ภาพยนตร์
วัดเส้าหลินให้บริการเช่าสถานที่สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์
และเป็นผู้ให้เงินทุนสนับสนุนแก่ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัดเส้าหลินด้วย
วัดเส้าหลินให้บริการเช่าสถานที่สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์
และเป็นผู้ให้เงินทุนสนับสนุนแก่ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวัดเส้าหลินด้วย
นอกจากนี้ทางวัดยังร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเซินเจิ้น
ในการจัดมหกรรมการแข่งขัน “K-STAR” หรือศึกชิงเจ้ายุทธจักร
เป็นการแข่งขันปะทะหมัดมวยกัน เพื่อหาสุดยอดเจ้ายุทธจักรกังฟูแห่งเส้าหลิน
ในการจัดมหกรรมการแข่งขัน “K-STAR” หรือศึกชิงเจ้ายุทธจักร
เป็นการแข่งขันปะทะหมัดมวยกัน เพื่อหาสุดยอดเจ้ายุทธจักรกังฟูแห่งเส้าหลิน
ซึ่งเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันทั้งชายและหญิง
แต่มีข้อห้ามคือหลวงจีนวัดเส้าหลินไม่สามารถเข้าร่วมได้
แต่มีข้อห้ามคือหลวงจีนวัดเส้าหลินไม่สามารถเข้าร่วมได้
วัดเส้าหลินยังมีสินค้าและบริการอื่น ๆ อีกมากมาย
เช่น แอปพลิเคชันสอนกังฟู รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มยาจีนโบราณ
เช่น แอปพลิเคชันสอนกังฟู รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มยาจีนโบราณ
นอกจากนี้ก็ยังมีการขยายแฟรนไชส์วัดเส้าหลินไปสู่ประเทศอื่น ๆ
อย่างประเทศออสเตรเลีย เยอรมนี และอังกฤษ
อย่างประเทศออสเตรเลีย เยอรมนี และอังกฤษ
จากการมีธุรกิจที่หลากหลายและรายได้ที่มากมาย
ถือได้ว่าวัดเส้าหลินกำลังกลายเป็นธุรกิจขนาดยักษ์
จนถึงขนาดที่ว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน มีรายงานว่าวัดแห่งนี้
กำลังจะระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์
ถือได้ว่าวัดเส้าหลินกำลังกลายเป็นธุรกิจขนาดยักษ์
จนถึงขนาดที่ว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน มีรายงานว่าวัดแห่งนี้
กำลังจะระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตามด้วยความที่วัดเส้าหลินมีจุดเริ่มต้น
จากการเป็น สถานที่ทางศาสนาพุทธ ที่ละทางโลก
การที่วันนี้วัดเส้าหลิน ได้กลายมาเป็นธุรกิจที่รุ่งเรืองและเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไร
ก็น่าคิดเหมือนกันว่า เราจะยังมองสถานที่แห่งนี้เป็นวัดอีกหรือไม่
จากการเป็น สถานที่ทางศาสนาพุทธ ที่ละทางโลก
การที่วันนี้วัดเส้าหลิน ได้กลายมาเป็นธุรกิจที่รุ่งเรืองและเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไร
ก็น่าคิดเหมือนกันว่า เราจะยังมองสถานที่แห่งนี้เป็นวัดอีกหรือไม่
เพราะวันนี้วัดเส้าหลินดูเหมือนว่า จะกลายเป็นบริษัท ที่ทำธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจแฟรนไชส์ ไปเรียบร้อยแล้ว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.economist.com/christmas-specials/2020/12/19/tales-of-a-ceo-monk-obscure-the-business-of-faith-in-china
-https://en.wikipedia.org/wiki/Shaolin_Temple_(1982_film)
-https://en.wikipedia.org/wiki/Cultural_Revolution
-https://www.bloomberg.com/news/features/2015-12-28/the-rise-and-fall-of-shaolin-s-ceo-monk
-https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2018-04-24/for-china-s-buddhist-monks-an-ipo-too-far
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.economist.com/christmas-specials/2020/12/19/tales-of-a-ceo-monk-obscure-the-business-of-faith-in-china
-https://en.wikipedia.org/wiki/Shaolin_Temple_(1982_film)
-https://en.wikipedia.org/wiki/Cultural_Revolution
-https://www.bloomberg.com/news/features/2015-12-28/the-rise-and-fall-of-shaolin-s-ceo-monk
-https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2018-04-24/for-china-s-buddhist-monks-an-ipo-too-far