กรณีศึกษา ความสำเร็จของ HarmoniQ โครงการที่อยู่อาศัยในเครือสหพัฒน์

กรณีศึกษา ความสำเร็จของ HarmoniQ โครงการที่อยู่อาศัยในเครือสหพัฒน์

กรณีศึกษา ความสำเร็จของ HarmoniQ โครงการที่อยู่อาศัยในเครือสหพัฒน์
สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง X ลงทุนแมน
หากพูดถึง “สหพัฒน์” สิ่งที่คนทั่วไปจะนึกถึงคือ สินค้าอุปโภคบริโภค
อย่างเช่น ยาสีฟัน แชมพู ผงซักฟอก
หรือสินค้าที่คนไทยรู้จักกันดีที่สุดคือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แบรนด์ มาม่า
แต่..หากพูดว่าบริษัทแห่งนี้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็อาจทำให้หลายคนนึกไม่ถึง
ทั้งที่ความจริงแล้วสหพัฒน์ ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มานานกว่า 45 ปี
ผ่านบริษัทในเครือที่ชื่อว่า “สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)”
โดยบริษัทแห่งนี้ นอกจากลงทุนในหุ้นธุรกิจสินค้าอุปโภค และเครื่องดื่ม
ก็ยังพัฒนาที่ดินสร้างเป็นสวนอุตสาหกรรมอีก 4 แห่ง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสินค้าหลากประเภท
จนถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อีกหลายรูปแบบ ทั้ง คอมมิวนิตีมอลล์, โรงแรม, โรงเรียนนานาชาติ, ที่อยู่อาศัย, สนามกอล์ฟ
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดคือการพัฒนาโครงการ HarmoniQ 2 บ้านพักอาศัยในอำเภอศรีราชา
แล้วโครงการนี้ สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง มองเห็นโอกาสอะไรที่ซ่อนอยู่
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
จริงๆ แล้วโครงการนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557
โดยเกิดจากที่ในตอนนั้น ทางทีมงานผู้บริหารรุ่นใหม่ของบริษัทมองเห็นทำเล ศรีราชา เปรียบเสมือนทำเลทองในจังหวัดชลบุรี ทำเลแห่งนี้รายล้อมด้วยนิคมอุตสาหกรรมกว่า 10 แห่ง และมีโรงงานมากกว่า 1,300 แห่ง อีกทั้งที่ตั้งของโครงการ อยู่เพียงฝั่งตรงข้ามของ โรงเรียนชาวญี่ปุ่นที่ทางเครือสหพัฒน์ บริจาคที่ดินให้เพื่อทำการก่อตั้งขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีแหล่งวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่น ได้แก่ คอมมิวนิตี้มอลล์ J-Park Sriracha, โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น วาเซดะ อีกด้วย
ที่น่าสนใจกว่านั้น ในอนาคตอันใกล้ ศรีราชา จะกลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมสมบูรณ์แบบ
เมื่อ EEC หรือโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเกิดขึ้น
ภาพในอนาคตที่ถูกวางไว้ก็คือ จะมีบริษัทต่างๆ มาลงทุนสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นในพื้นที่โดยรอบ
ผลที่ตามมาก็คือการจ้างงานก็จะเติบโตเป็นทวีคูณเช่นกัน
โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นที่ทำงานในโรงงานบริษัทญี่ปุ่น และบริษัทอื่นๆ
ที่จากเดิมอยู่ในศรีราชามากกว่า 10,000 คน ก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก
ซึ่งพฤติกรรมคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เลือกจะเช่าที่อยู่อาศัย โดยดูจากเจ้าของผู้พัฒนาโครงการเอง
และความน่าเชื่อถือของผู้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยด้วย
เพียงแต่..สิ่งที่ขาดหายไปก็คือใน ศรีราชา ตอนนี้ ยังไม่มีที่อยู่อาศัยที่มาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นให้เสมือนอยู่ในบ้านเกิดตัวเอง
กลายเป็นช่องวางที่ทำให้ สหพัฒน์ มีความคิดพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในสไตล์ที่คนญี่ปุ่นชอบ
ทีนี้หากเราอยากจะขายสินค้าให้คนญี่ปุ่น ก็น่าจะต้องให้คนญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิต
ถึงจะได้สินค้าที่ตอบโจทย์โดนใจมากที่สุด
แนวคิดนี้จึงเป็นที่มาให้ สหพัฒน์ ตัดสินใจร่วมทุนกับกลุ่มโตคิวในประเทศญี่ปุ่น
เพื่อก่อตั้งบริษัท สห โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ HarmoniQ
โดยมีมูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ไร่ ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
เรื่องนี้หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า กลุ่มโตคิว เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น
ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นานกว่า 98 ปี ไม่ใช่เพียงแต่ธุรกิจห้างสรรพสินค้าเท่านั้น แต่ยังมี ที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน, โรงแรม ซึ่งขนาดใหญ่กว่าธุรกิจห้างสรรพสินค้า จนถึงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนทั้งรถบัส และรถไฟ ในญี่ปุ่น โดยบริษัทแห่งนี้มีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น หรือ Market Cap กว่า 2.3 แสนล้านบาท
พอได้กลุ่มโตคิว ที่สั่งสมประสบการณ์พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากมายนับไม่ถ้วนในประเทศญี่ปุ่น ก็เลยทำให้ HarmoniQ ที่เปิดโครงการเมื่อ 4 ปีแล้ว ซึ่งมีจำนวน 180 ยูนิต ถูกจับจองหมดในเวลาอันรวดเร็ว
สูตรสำเร็จนี้ มาจากฝีมือของกลุ่มโตคิว ที่สร้างที่อยู่อาศัยตอบโจทย์ครอบครัวญี่ปุ่น
ที่ดูเรียบง่าย สบายตา บรรยากาศผ่อนคลายรายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว
ขณะเดียวกันก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สนามเด็กเล่น
จนถึงการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่คุณภาพสูงอย่าง SCG Heim
ที่ป้องกันเสียงรบกวน, รักษาอุณหภูมิ, ประหยัดพลังงาน และมีความปลอดภัยสูง

เมื่อโครงการแรกสำเร็จอย่างงดงาม ก็เลยทำให้เกิดการต่อยอดมาถึง HarmoniQ 2
ซึ่งก็อยู่ในทำเลเดียวกัน
โดยโครงการนี้จะมีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 41,000 ตารางเมตร ซึ่งมีบ้านทั้งหมด 141 หลัง และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2565
ที่น่าสนใจก็คือยังมีการเพิ่มมูลค่าการลงทุนในโครงการ 2 อีก 800 ล้านบาท
เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มาตอบโจทย์ครอบครัวชาวญี่ปุ่น ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีก
ทั้งหมดนี้ก็น่าจะทำให้ HarmoniQ 2 ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างโครงการแรกได้ไม่ยาก
โดยการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ของ สหพัฒน์ ทำให้เราเรียนรู้ว่า…
การทำธุรกิจหากเรามองเห็นสิ่งที่เป็นช่องว่างตลาด ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ถึงแม้ความต้องการในตลาดไม่ได้มีมากมายมหาศาล
แต่หากเราเป็นคนแรก และคนเดียวที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้
ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จเหมือนอย่าง เครือสหพัฒน์ ที่ทำให้เห็นมาแล้วผ่านโครงการ HarmoniQ..

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon