กรณีศึกษา กลยุทธ์ใหม่ของช่อง 7
กรณีศึกษา กลยุทธ์ใหม่ของช่อง 7 / โดย ลงทุนแมน
“สิ่งที่น่ากลัวกว่าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
อาจจะเป็นพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไป”
อาจจะเป็นพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไป”
จากเมื่อก่อนเราต้องรอติดตามชมละครทางทีวีกันทุกคืน
ตอนนี้กลายเป็นว่า เราดูละครไม่ทันตอนออกอากาศ ก็เพียงแค่เข้าไปดูผ่านอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
เรื่องนี้แสดงว่า พฤติกรรมของคนกำลังเปลี่ยนไป
จากการสำรวจพบว่า คนไทยในปัจจุบันใช้เวลาเฉลี่ยบนโลกอินเทอร์เน็ตมากถึงประมาณ 10 ชั่วโมง 5 นาทีต่อวัน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ บริการที่เรียกกันว่า OTT หรือ Over-the-Top ซึ่งคือการให้บริการต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยที่ผู้ให้บริการไม่ต้องลงทุนหรือเป็นเจ้าของโครงข่ายสัญญาณเอง จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะกลุ่ม OTT TV ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านของความยืดหยุ่นเรื่องเวลาหรือสถานที่ และเนื้อหาที่มีความหลากหลาย
ซึ่งหลายคนก็มองว่า ธุรกิจนี้กำลัง disrupt วงการโทรทัศน์
แต่รู้หรือไม่ว่า..
ช่อง 7 มองเห็นแนวโน้มรวมถึงโอกาสในตลาดนี้ และเตรียมพร้อมมาตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว
ช่อง 7 มองเห็นแนวโน้มรวมถึงโอกาสในตลาดนี้ และเตรียมพร้อมมาตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว
โดยตัดสินใจพัฒนาแพลตฟอร์มของตัวเองขึ้นมาใหม่ แทนการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ของต่างประเทศที่มีอยู่แล้ว เช่น YouTube โดยเริ่มต้นที่การเปิดตัวเว็บไซต์ BUGABOO.tv ขึ้นในปี 2554 และในรูปแบบของแอปพลิเคชันในปี 2555
ซึ่งทำให้ช่อง 7 ถือเป็นผู้ให้บริการ OTT TV เจ้าแรกๆ ของประเทศไทย ก่อน LINE TV ที่เปิดให้บริการในปี 2557 และ Mello ในปี 2560
เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพราะการทำแพลตฟอร์มแบบนี้ถือว่าปรับตัวได้เร็ว และครอบครองผู้ชมไว้ได้
ในขณะที่ผู้ประกอบการอื่นอาจเสียผู้ชมให้กับฝั่งออนไลน์ แต่ช่อง 7 มีแพลตฟอร์มรองรับไว้แล้ว
และ ข้อดีของการสร้างแพลตฟอร์มเป็นของตัวเอง ทำให้ช่อง 7 มีอิสระในการออกแบบ และพัฒนาบริการ และยังสามารถสร้างรายได้โดยตรง ไม่ต้องอาศัยส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาจากแพลตฟอร์มต่างประเทศ
ปัจจุบันยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ BUGABOO.tv อยู่ที่ประมาณ 112 ล้านครั้งต่อเดือน
และยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสูงถึง 6 ล้านครั้ง
และยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสูงถึง 6 ล้านครั้ง
และล่าสุดเพื่อเพิ่มช่องทาง และขยายกลุ่มผู้ชมให้เข้าถึง Content ของช่อง 7 ได้มากขึ้น
BUGABOO INTER จึงเกิดขึ้น โดยให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน และหน้าเว็บไซต์ inter.bugaboo.tv ที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก ในรูปแบบ SVoD หรือ Subscription Video on Demand
ซึ่งก่อนหน้านี้ BUGABOO INTER เป็นบริการที่สามารถใช้งานได้เฉพาะในต่างประเทศเท่านั้น แต่ก็ได้รับความนิยมจนมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้วกว่า 70,000 ครั้ง รวมทั้งมีผู้เข้าชมเว็บไซต์รวมกว่า 4 ล้านครั้ง
โดย BUGABOO INTER จะแตกต่างจาก BUGABOO TV และของเจ้าอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ AVoD หรือ Advertising-Based Video on Demand
พูดง่ายๆ ก็คือ BUGABOO INTER จะมีค่าบริการรายเดือน ซึ่งเราสามารถดูละครได้โดยไม่มีโฆษณา
โดยนอกจากจะสามารถใช้งานได้ทั่วโลกแล้ว และยังมีการพัฒนา feature ต่างๆ เช่น
Content ที่มีความคมชัดระดับ HD รวมถึงรองรับ Chromecast และ Continue watching เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะชมผ่านอุปกรณ์ใดหรืออยู่ในพื้นที่ไหนบนโลก
Content ที่มีความคมชัดระดับ HD รวมถึงรองรับ Chromecast และ Continue watching เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะชมผ่านอุปกรณ์ใดหรืออยู่ในพื้นที่ไหนบนโลก
ส่วนเนื้อหารายการของ BUGABOO INTER จะมีทั้งละครปัจจุบันที่กำลังออกอากาศ ละครเก่าของช่อง 7 ที่หาดูที่อื่นไม่ได้กว่า 200 เรื่อง ไปจนถึงรายการพิเศษที่สามารถรับชมได้เฉพาะในช่องทาง BUGABOO INTER เท่านั้น
ในวันที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับแพลตฟอร์มในต่างประเทศ
น่าสนใจว่ามีบริษัทไทยกล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง
น่าติดตามว่า ธุรกิจแพลตฟอร์มของคนไทยอย่าง BUGABOO INTER จะเติบโตได้ดีขนาดไหนในอนาคต
หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ Official Fanpage: BUGABOO INTER