จากธุรกิจแผงเครื่องสำอางในตลาดนัด สู่เจ้าของแบรนด์ VC VIT C ยอดขายปีละ 800 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
ในยุคที่มีเครื่องสำอางไทยแบรนด์ใหม่ ๆ เปิดตัวมากมาย ทั้งเจ้าใหญ่และเล็ก รวมถึงเหล่าคนดังที่เริ่มหันมาทำแบรนด์เอง

หนึ่งในบริษัทที่เติบโตอย่างน่าจับตามอง คือ Ratcha Life
เจ้าของวิตซีน้องฉัตร โลชันนัมจู และเคราตินนมแพะ
ซึ่งล้วนมีกระแสดีบนโลกออนไลน์

Ratcha Life เริ่มจากแผงเครื่องสำอางเล็ก ๆ ในตลาด
สู่การเป็นแบรนด์เครื่องสำอางไทย 800 ล้านบาท
ในระยะเวลาเพียงแค่ 8 ปีเท่านั้น

กลยุทธ์ของ Ratcha Life คืออะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
Ratcha Life ก่อตั้งในปี 2560
โดยคุณรัชชานนท์ พุฒซ้อน หรือคุณนนท์

คุณนนท์ทำงานมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
ด้วยการขายของในตลาดนัดแถวบางแสน

เริ่มจากรองเท้าและกระเป๋ามือสอง
แล้วต่อมาก็ขายสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ คือ เครื่องสำอาง โดยรับของเจ้าอื่นมาขาย

แต่การขายของในตลาดมีความไม่แน่นอน
บางวันฝนตก ขายไม่ได้เลยก็มี

คุณนนท์เลยปรับมาไลฟ์สดขายของแทน โดยเน้นแจกสินค้าฟรี ทั้งลูกค้า และคนที่ช่วยกดไลก์ กดแชร์ จนร้านเริ่มเป็นที่รู้จัก และมีลูกค้าประจำ

ต่อมา คุณนนท์ก็คิดอยากทำแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา
เพราะตัวเองมีปัญหาผิวหน้า ลองผิดลองถูกมาเยอะ

บวกกับประสบการณ์การเป็นคนขายเครื่องสำอางมาเยอะ
เลยมั่นใจว่า ของที่คุณภาพดี จะขายตัวมันเองได้

เมื่อตัดสินใจได้ จึงเกิดเป็นสินค้าตัวแรก คือ VIT C Bio Face Serum หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ วิตซีน้องฉัตร

โดยได้ น้องฉัตร เมกอัปอาร์ติสต์ชื่อดังในไทย ที่เคยเป็นลูกค้าประจำร้านคุณนนท์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้

ด้วยความที่น้องฉัตร ใช้จริง รีวิวจริง บวกกับความมีชื่อเสียง ทำให้วิตซีน้องฉัตร เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว

บวกกับการเน้นทำสินค้าที่คุณภาพดี เห็นผลจริง ในราคาเข้าถึงง่าย เลยทำให้มีคนกลับมาซื้อซ้ำ ขายดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มมีระบบตัวแทนจำหน่าย

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญคือในปี 2565 คุณนนท์มองว่าการขายช่องทางออนไลน์อย่างเดียวไม่เพียงพอ เลยนำสินค้าไปวางขายที่ 7-Eleven

และทำแพ็กเกจจิงแบบซอง เพื่อให้เหมาะกับการขายในร้านสะดวกซื้อ เลยเกิดเป็นวิตซีน้องฉัตรซองคู่ขึ้นมา

โดยนอกจาก 7-Eleven แล้ว ยังมีการวางขายในบิวตีสตอร์คือร้าน EVEANDBOY และ BEAUTRIUM ด้วย

รวมถึงการขยายไลน์สินค้าหลายอย่าง และหลากหลายแบรนด์ โดยตอนนี้มีแบรนด์ในเครือ ได้แก่

VC VIT C, HYA, NUMJU, RACHI, CARISTA, THE CHARMING GARDEN, DERRA, CHATIER, DESY และ ZENZA

ทีนี้ลองมาดูผลประกอบการของ บริษัท รัชชา ไลฟ์ จำกัด ในช่วงที่ผ่านมากัน

ปี 2564 รายได้ 15 ล้านบาท กำไร 0.5 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 66 ล้านบาท กำไร 1.7 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 359 ล้านบาท กำไร 7.5 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 810 ล้านบาท กำไร 16.2 ล้านบาท

รายได้และกำไรของ Ratcha Life มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนปีล่าสุดรายได้แตะ 800 ล้านบาท

ซึ่งกลยุทธ์หลัก ๆ ที่ Ratcha Life ใช้สร้างแบรนด์ สรุปออกมาได้ 3 ข้อ ดังนี้

1) สินค้าคุณภาพดี ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

จะเห็นว่าสินค้าแต่ละตัวของ Ratcha Life มักมีชื่อเล่น และมีจุดเด่นชัดเจน ว่าช่วยเรื่องอะไร เช่น

- VC VIT C วิตซีน้องฉัตร ที่เน้นปัญหาสิว
- HYA ไฮยาน้องฉัตร ที่เน้นความชุ่มชื้น
- NUMJU นัมจูหัวเชื้อวิตามิน สำหรับผิวกาย
- CARISTA เคราตินนมแพะ บำรุงผมเสีย

นั่นเป็นเพราะก่อนออกสินค้าใหม่แต่ละอย่าง คุณนนท์จะศึกษาอย่างจริงจังว่า คนไทยส่วนใหญ่มักเจอปัญหาไหน และทำสินค้าคุณภาพดี ที่แก้ไขปัญหาได้จริง ๆ

บวกกับราคาที่เข้าถึงง่าย หลักสิบ หลักร้อย
เลยทำให้คนส่วนใหญ่ใช้ซ้ำ และบอกต่อ

2) การตลาดบนโซเชียลมีเดีย

ต่อให้สินค้าจะคุณภาพดีแค่ไหน แต่ในยุคนี้ที่มีแบรนด์มากมายเต็มไปหมด ถ้าไม่ทำการตลาดที่ถูกต้อง คนอาจไม่รู้จัก และไม่สามารถสะกิดสายตาของผู้บริโภคให้หันมามองแบรนด์ได้

อย่างที่บอกไปว่าสินค้าในเครือ Ratcha Life มักมีชื่อเล่น และถูกโปรโมตซ้ำ ๆ เพื่อให้ลูกค้าจำชื่อได้

นอกจากพรีเซนเตอร์ Ratcha Life ยังมีการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ที่หลากหลาย ตามความเหมาะสมของตัวสินค้า

โดยเน้นให้อินฟลูเอนเซอร์ ใช้จริงให้ดู ซึ่งวิธีการทำคอนเทนต์จะแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม

อย่างบน Facebook มักใช้วิธีแสดงผลลัพธ์ก่อน และหลังใช้สินค้า
ส่วนใน TikTok จะเน้นการ Storytelling ของอินฟลูเอนเซอร์ แล้วค่อยพูดถึงสินค้า

3) การขยายช่องทางการขายสู่ออฟไลน์

ยุคนี้คนส่วนใหญ่มักคิดว่าต้องลุยช่องทางออนไลน์ก็เพียงพอแล้ว
แต่การมีสินค้าวางขายบนช่องทางออฟไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น

โดยช่วงปลายปี 2565 Ratcha Life ได้นำสินค้าไปวางขายใน 7-Eleven ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทย

นั่นเลยทำให้มีคนเห็น และมีโอกาสซื้อสินค้าจาก Ratcha Life ได้มากขึ้น
เราจึงได้เห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2566 ของ Ratcha Life จากหลักสิบล้านบาท มาเป็นหลักร้อยล้านบาท

จะเห็นว่า การเติบโตของ Ratcha Life เกิดจากหลายอย่างประกอบกัน ทั้งสินค้าคุณภาพดี การตลาดบนโซเชียลมีเดียที่เหมาะสม และการขยายช่องทางการขายที่ครอบคลุม

ทำให้ Ratcha Life กลายมาเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องสำอางไทย ที่เติบโตเร็วมาก

ซึ่งเริ่มต้นจากแผงเครื่องสำอางเล็ก ๆ ในตลาด
สู่อาณาจักรแบรนด์เครื่องสำอางคนไทย รายได้ปีละ 800 ล้านบาท โดยใช้เวลาเพียงแค่ 8 ปี เท่านั้น..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman