
Hongkong Post ระงับการส่งพัสดุสินค้า ทั้งทางเรือและอากาศ ไปยังสหรัฐฯ หลังโดนสหรัฐฯ ถอนสิทธิ์การยกเว้นภาษีสินค้านำเข้า ที่มูลค่าต่ำกว่า 800 เหรียญ จากจีนและฮ่องกง ทำให้คนในฮ่องกง ต้องใช้บริการขนส่งเอกชน เช่น FedEx และ DHL แทน
Hongkong Post ประกาศระงับบริการส่งพัสดุสินค้า ทางเรือไปยังสหรัฐอเมริกา เรียบร้อยแล้ว
และ Hongkong Post ยังระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. จะระงับบริการอากาศไปรษณีย์ สำหรับพัสดุที่มีสินค้าส่งไปยังสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเพิกถอนสิทธิ์ de minimis หรือการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้า ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,500 บาท) จากจีนและฮ่องกง
ซึ่งก่อนหน้านี้ สามารถนำเข้าได้โดยไม่เสียภาษี หากส่งตรงถึงผู้บริโภค
โดยตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. พัสดุเหล่านี้ จะถูกเก็บภาษีในอัตรา 90% หรือคิดเป็นคงที่ 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อชิ้น
ตามข้อมูลจากศุลกากรสหรัฐฯ มูลค่าการนำเข้าภายใต้กฎ de minimis เพิ่มขึ้นจาก 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 305,300 ล้านบาท) ในปี 2016 เป็น 54,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,808,700 ล้านบาท) ในปี 2023 โดยกว่า 60% เป็นพัสดุจากจีน
ทรัมป์ให้เหตุผลว่า การถอนสิทธิ์นี้มีเป้าหมายเพราะพบว่า ยาเฟนทานิลและสารตั้งต้น ถูกลักลอบส่งเข้ามายังสหรัฐฯ ผ่านช่องทาง de minimis นี้
ทางด้าน Hongkong Post เตือนประชาชนว่า “ควรเตรียมใจสำหรับค่าธรรมเนียมที่สูงและไม่สมเหตุสมผล” อันเป็นผลจาก “การใช้อำนาจในทางไม่ชอบ” ของสหรัฐฯ
พร้อมประกาศว่า “จะไม่ทำหน้าที่เก็บภาษีแทนให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ว่าในกรณีใด”
อย่างไรก็ตาม พัสดุที่มีเฉพาะเอกสาร ไม่ได้รับผลกระทบจากการระงับครั้งนี้
ด้านบริษัท DHL บอกว่า จะยังดำเนินการขนส่งสินค้าจากฮ่องกงไปสหรัฐฯ ตามกฎหมายศุลกากรที่มีผลอยู่ และจะช่วยให้ลูกค้าปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ที่จะเริ่มในวันที่ 2 พ.ค. นี้