ย้อนมองปี 2024 บทเรียน ความหวัง และโอกาส เมื่อเราอยู่ในโลกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ย้อนมองปี 2024 บทเรียน ความหวัง และโอกาส เมื่อเราอยู่ในโลกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ย้อนมองปี 2024 บทเรียน ความหวัง และโอกาส เมื่อเราอยู่ในโลกที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป /โดย ลงทุนแมน
ปีที่ผ่านมา เราได้เจออะไรหลาย ๆ อย่างนับไม่ถ้วน
มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้น ทั้งในตลาดหุ้น เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี
มีทั้งเรื่องน่ายินดี เรื่องน่าผิดหวัง แต่ทุกเรื่องก็แฝงไปด้วยข้อคิดอะไรบางอย่าง
ย้อนกลับไปช่วงต้นปี หากใครจำกันได้ บริษัทรับเหมารายใหญ่รายหนึ่ง ได้ประสบปัญหาเสี่ยงชำระหุ้นกู้ไม่ได้ ซึ่งก็สร้างความกังวลต่อตลาดหุ้นกู้ เป็นวงกว้าง
เรื่องนั้นก็ทำให้รู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ใหญ่แค่ไหน แข็งแกร่งขนาดไหน
แต่ถ้าบริหารสภาพคล่องไม่ดี ใช้จ่ายเกินตัว ก็เสี่ยงล้มได้เสมอ
และผลกระทบของสิ่งสิ่งหนึ่ง อาจมากกว่าที่เราคิด และสามารถขยายใหญ่เป็นวงกว้างได้
ในขณะเดียวกัน ปีนี้ก็เป็นปีที่เราได้เห็นราคาหุ้นไทยตัวใหญ่ ๆ หลายตัว ทำจุดต่ำสุดในรอบ 10 ปี รอบ 20 ปี ซึ่งเป็นจุดที่หลายคนคงไม่นึกฝันมาก่อน ว่าจะได้เห็นราคานี้ในช่วงชีวิต
ทำให้รู้ว่า วัฏจักรของบริษัทนั้น มีขึ้น และมีลง มีหลายบริษัทที่ไม่ได้เจริญรุ่งเรืองไปตลอด ดังนั้นการคัดเลือกการลงทุนให้อยู่กับผู้ชนะอยู่เสมอ นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก
นอกจากนั้นในช่วงเวลาที่ราคาหุ้นร่วงลงแรง เราก็ได้เห็นว่า การที่ผู้ถือหุ้นบางบริษัทเอาหุ้นตัวเองไปค้ำประกัน ก็จะประสบปัญหาถูกบังคับขายหุ้น ซึ่งทำให้จากเดิมเป็นผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นมูลค่าหลายพันล้านบาท เหลือ 0 ภายในไม่กี่วัน
เรื่องนี้ก็ทำให้เรารู้ว่า ไม่ว่าจะรวยแค่ไหน หากกู้ยืมเงินเกินตัว ในวันที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ มันก็กลายเป็น 0 ได้เสมอ
อีกประเด็นคือเรื่องธรรมาภิบาล ที่นักลงทุนไทย ให้ความสำคัญกว่าแต่ก่อนมาก และตลาดก็พร้อมจะลงโทษ หากมีความสงสัยในเรื่องธรรมาภิบาลของบริษัท
ซึ่งในยุคข้อมูลข่าวสาร ที่ข้อมูลเข้าถึงทุกคนได้มากขึ้น ใครทำอะไร ต้องคิดให้ดี ๆ เพราะปกปิดแทบไม่ได้แล้ว และผลลัพธ์ที่ทำนั้นจะกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสีย..
แม้อะไรหลาย ๆ อย่างจะดูมืดมน
ตลาดหุ้นไทยไม่ไปไหน
นักลงทุนหุ้นไทย กำลังหมดใจ และย้ายประเทศ
แต่ก็ใช่ว่า ประเทศไทยจะไม่มีความหวังเลย
เพราะดินแดนแห่งนี้ ก็มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
ปีนี้ คุณสัตยา นาเดลลา CEO Microsoft มาเยือนไทย และประกาศตั้ง Data Center ที่ไทย
คุณเจนเซน หวง CEO NVIDIA ก็มาเยือนไทยเช่นกัน
นอกจาก Microsoft ก็มี Google, Amazon ที่ลงทุนสร้าง Data Center ในไทย
และไทย ก็กำลังจะมีโรงงานผลิตชิปต้นน้ำแห่งแรก จากบริษัทในเครือ Foxconn
เรื่องนี้สะท้อนว่า จริง ๆ แล้ว เรามีศักยภาพมากกว่าที่เราคิด และไม่ได้พลาดเมกะเทรนด์โลกไปเสียทีเดียว แต่ก็อาจจะยังน้อยกว่าเพื่อนบ้านในภูมิภาคอย่างเวียดนามและอินโดนีเซีย
พอมาซูมดูธุรกิจระดับ SME
เราได้เห็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่หลายคน ที่สร้างธุรกิจจนเติบโตอย่างรวดเร็ว
ธุรกิจมียอดขาย 100 ล้านบาท 1,000 ล้านบาท ในเวลาไม่กี่ปี

เช่น สุกี้ตี๋น้อย และ GENTLEWOMAN ที่สร้างธุรกิจมูลค่า 10,000 ล้านบาท (เทียบกำไรด้วย P/E ประมาณการ) ได้ในรุ่นเดียว
หรือจะเป็น แบรนด์เครื่องสำอางไทย LA GLACE และ LOVE POTION ที่เกิดจากคนรุ่นใหม่ ที่ใช้สื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์ สร้างธุรกิจให้โต จนมีรายได้หลักร้อยล้านบาท
จริง ๆ แล้ว เรามีคนเก่ง ๆ อีกเยอะ ที่สามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศได้
โจทย์ของเราคือ ต้องมีพื้นที่ให้พวกเขาได้ยืน และสร้างสภาพแวดล้อมให้คนรุ่นใหม่กล้าที่จะลองเสี่ยง และทำให้มั่นใจว่า ถ้าเสี่ยงแล้วพลาด ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร สามารถกลับมายืนขึ้นอีกครั้งได้เสมอ
รวมถึงรัฐบาล ต้องให้การสนับสนุนและปกป้องผู้ประกอบการไทย ผู้ประกอบการ SME
ยิ่งในยุคนี้ ที่การแข่งขันสูงขึ้น มีแบรนด์จากต่างชาติ เข้ามาบุกตลาดบ้านเรามากขึ้น
ทีนี้เราซูมภาพออกมา มองออกไปนอกประเทศกันบ้าง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้ โลกของเรา เกิดเรื่องราวที่สำคัญขึ้นมากมายในปี 2024 นี้
เช่น ทางการจีน ได้พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพื่อพยุงตลาดหุ้น
ด้วยการออกสารพัดมาตรการ ที่มีมูลค่าหลายสิบล้านล้านบาท
ทำให้อยู่ดี ๆ ตลาดหุ้นจีนที่ซึมมานาน ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่บวกมากสุดในปีนี้
สงครามที่อิสราเอล ยูเครน และสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังดำเนินอยู่ และอาจทำให้หลายสินทรัพย์ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้
เรากำลังอยู่ในยุคที่เทคโนโลยี AI ก้าวหน้าเร็วจนเราเริ่มตามไม่ทัน
ภายในไม่ถึงปี ChatGPT เก่งขึ้น ฉลาดขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า และตอนนี้สามารถสอบวัดความรู้ระดับ ปริญญาเอก ได้สบาย
เราต่างตื่นตัวเรื่องของ AI กันมากขึ้น ไม่ว่าจะวัยไหน ช่วงอายุเท่าไร
ประเทศมหาอำนาจ ต่างแย่งชิงความเหนือชั้นด้าน AI เพราะ AI คือกุญแจสู่การเป็นผู้นำในยุคต่อไป
เป็นผลทำให้ปีนี้หุ้นเทคโนโลยีพุ่งทะยาน ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ AI และ Data Center
ซึ่งก็มีทั้งตัวจริง ที่ผลประกอบการมาจริง เติบโตจริง
กับหุ้นที่ขึ้น เพราะได้ประโยชน์จากการเกาะกระแส
เราได้เห็นบางบริษัทที่มีมูลค่า ล้านล้านบาท สิบล้านล้านบาท
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 20% 30% หรือ 50% ในวันเดียว เพราะผลประกอบการในไตรมาสนั้น หรือ Guidance ไตรมาสหน้า ออกมาดีกว่าที่คาด
แต่ก็มีบางบริษัท ที่ราคาหุ้นร่วงหนัก เพราะแย่กว่าที่คาด
เรื่องนี้ก็ทำให้รู้ว่า ในระยะสั้น ตลาดทุน ถูกปกคลุมได้ด้วยเรื่องของความคาดหวัง ความผิดหวัง ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับชีวิตของคนเรา ที่ความสุข ความทุกข์ ในสิ่งต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับว่า เราคาดหวังกับสิ่งนั้นมากน้อยแค่ไหน.. มากกว่าที่คาดก็มีความสุข น้อยกว่าที่คาดก็มีความทุกข์
นอกจากหุ้นแล้ว สินทรัพย์อื่นก็มีการปรับตัวขึ้นจนทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่น
ราคาทองคำไทย ทะลุ 40,000 บาท
ราคาบิตคอยน์ ทะลุ 3,000,000 บาท
แต่ก็มีนักลงทุนในตำนานอย่าง คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ไม่ได้โดดเข้าไปเกาะหุ้นหรือสินทรัพย์ ที่กำลังร้อนแรง แต่กำลังทำสิ่งที่ตรงกันข้าม คือ ขายหุ้น ทั้งหุ้น Apple และหุ้นธนาคารต่าง ๆ เพื่อลดสัดส่วนพอร์ต และเก็บเงินสดในพันธบัตรระยะสั้นให้ได้มากที่สุด
ในอีกด้านของกลุ่มธุรกิจที่กำลังรุ่งเรือง
ก็มีอีกฝั่งที่เหมือนกำลังอยู่คนละโลก
เราได้เห็นหลายบริษัทหรือแบรนด์ ที่เป็นผู้นำอยู่นานหลายทศวรรษ กำลังตกต่ำ เช่น Nike และถูกท้าทายโดยแบรนด์ใหม่ ๆ ซึ่งคนยุคก่อนมาเห็น คงทำใจเชื่อได้ยาก
มีบางบริษัทยักษ์ใหญ่ ต้องควบรวมกิจการกัน เพื่อความอยู่รอด อย่างเช่น Nissan ที่เจอวิกฤติรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ 90 ปี จากปัญหาด้านการดำเนินงาน จนต้องหาทางเจรจากับ Honda เพื่อควบรวมกิจการ
ต้องบอกว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในปีที่ผ่านมา..
เรากำลังอยู่ในยุคที่อะไรหลาย ๆ อย่างกำลังเปลี่ยนผ่าน
และปีหน้า คงจะมีเรื่องราวอีกมากมายเกิดขึ้น..
AI อย่างเช่น ChatGPT ที่เราใช้กันวันนี้ ว่าเก่งแล้ว
อาจเป็นเวอร์ชันทารก เมื่อเทียบกับปีหน้า ที่มันคงทำให้เราต้องตะลึงในความสามารถของมันอีก
รวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ควอนตัม, Humanoid หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ
คงจะพลิกโฉมเศรษฐกิจ, ตลาดทุน, ตลาดแรงงาน และวิถีชีวิตของเราไปตลอดกาล
ตำรา, แนวคิด, ทฤษฎี, วิถีปฏิบัติ หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เคยใช้ได้ผลในอดีต หรือแม้แต่วันนี้
วันข้างหน้า เราอาจต้องทบทวนสิ่งเหล่านี้ใหม่ ว่าจะยังใช้ได้ผลอยู่ไหม
ไม่แน่ว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า วิถีชีวิตของเราอาจแตกต่างจากช่วง 10 ปี 20 ปีก่อน จนจินตนาการไม่ออก..
สุดท้ายนี้ ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่กำลังมาถึง
ลงทุนแมนขอให้ปีใหม่นี้ เป็นปีที่ดีขึ้นของทุกคน ทั้งเรื่องราวในชีวิต และเรื่องของการลงทุน
เป็นปีที่ทุกคน ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เกี่ยวกับการลงทุนมากขึ้น
และนำความรู้เหล่านั้น ไปสร้างผลตอบแทนให้กับตัวเอง
ซึ่งไม่ว่าตลาดจะผันผวนแค่ไหน หรือโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร
โอกาสในการลงทุน ก็มีอยู่รอบตัวเราเสมอ
ลงทุนแมน ขอให้ทุกคนคว้าโอกาสนั้นมาได้
และเป็นกำลังใจให้สามารถพิชิตเป้าหมายในปีใหม่นี้ได้ครับ
ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ขอให้ทุกคนอย่าทิ้งความหวัง
เพราะความหวังที่ถึงแม้จะทำให้เกิดความสุขบ้าง ความทุกข์บ้าง
แต่ความหวังก็คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ สามารถก้าวข้ามอุปสรรคทุกอย่างจนถึงทุกวันนี้
นำบทเรียนมาทำให้เกิด ความหวัง และโอกาส
และปีหน้า คงเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นของพวกเรา..
Happy New Year 2025 ?
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon