“Hermès 1 สาขา ทำยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท มากกว่า บริษัทใหญ่บางแห่งอีก”
“Hermès 1 สาขา ทำยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท มากกว่า บริษัทใหญ่บางแห่งอีก”
- สรุปมุมมองหุ้น Hermès ในงาน “ลงทุนนอก 2024” โดย คุณหลิน-วีระพงษ์ ธัม, ต้นแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า
- สรุปมุมมองหุ้น Hermès ในงาน “ลงทุนนอก 2024” โดย คุณหลิน-วีระพงษ์ ธัม, ต้นแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า
- หากดูภาพใหญ่ในมุม Economic for Luxury
พฤติกรรมโดยเฉลี่ยของคนทั้งโลก ที่มีต่อแบรนด์หรู คือ
“คนเรามีรายได้เท่าไร รสนิยมสูงกว่ารายได้เสมอ” ยิ่งรายได้เพิ่ม ความต้องการของไฮเอนด์ ยิ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่า
พฤติกรรมโดยเฉลี่ยของคนทั้งโลก ที่มีต่อแบรนด์หรู คือ
“คนเรามีรายได้เท่าไร รสนิยมสูงกว่ารายได้เสมอ” ยิ่งรายได้เพิ่ม ความต้องการของไฮเอนด์ ยิ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่า
- MOAT หรือ ป้อมปราการที่แข็งแกร่งมากของ Hermès ในมุมมองคุณหลิน มี 3 ข้อหลัก ๆ
1. เป็นผู้สร้างของหรูแบบ คลาสสิก Timeless และสร้างสรรค์
- ความคลาสสิกที่อยู่เหนือกาลเวลา เช่น ผ้าพันคอลายอานม้าแห่งยุคนโปเลียน หรือ กล่องสินค้าสีส้มที่เป็นเอกลักษณ์ ที่กี่ยุคกี่สมัย ก็ยังดูหรูจริง แพงจริง ไม่เป็นแค่แฟชั่น “Fashion is fast but classic are ageless”
- ความคลาสสิกที่อยู่เหนือกาลเวลา เช่น ผ้าพันคอลายอานม้าแห่งยุคนโปเลียน หรือ กล่องสินค้าสีส้มที่เป็นเอกลักษณ์ ที่กี่ยุคกี่สมัย ก็ยังดูหรูจริง แพงจริง ไม่เป็นแค่แฟชั่น “Fashion is fast but classic are ageless”
ทำให้มูลค่าสินค้าของ Hermès แข็งแรงมาตลอด เช่น ราคากระเป๋า ขึ้นปีนึง 5-6% อยู่เสมอ
- เครื่องหนังกลุ่มกระเป๋ารุ่นที่มีชื่อเสียง B K C (BIRKIN, KELLY, CONSTANCE)
Hermès สนับสนุนให้ช่างตัดหนัง สามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด
Hermès สนับสนุนให้ช่างตัดหนัง สามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่จำกัด
เช่น การนำหนังจระเข้ มาทำกระเป๋า Birkin Himalayan จนทำให้กลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่มีราคาสูงที่สุดในโลก หรือตัว Limited ช่างทำกระเป๋า จะถึงขั้นนัดเพื่อดูตัวลูกค้ากันก่อนเลย
2. Artisan หรือ ช่างฝีมือ
จากพนักงาน 23,000 คน มีคนในฝรั่งเศส 7,000 คน ที่เป็นช่างฝีมือ ซึ่งถูกเทรนมาอย่างปราณีต โดยพนักงานมีสิทธิ์ในการครอบครองสินค้าที่ตัวเองเป็นคนผลิตด้วย
ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นมรดกส่งต่อ เป็นความภาคภูมิ และ Branding ที่แข็งแรงมากของ Hermès
3. Distribution Network
- มีการสร้างแบรนด์ Avocate คือ แบรนด์ไม่ได้ต้องการแค่ขายกระเป๋า แต่ต้องการขายความหรูในทุก ๆ ด้านให้กับเรา
ซึ่งเราจะเห็นได้จากการที่ในเชิงสินค้า สินค้าทุกชนิดโตทุกตัว ไม่เพียงแค่เครื่องหนัง เช่น เสื้อผ้า แฟชั่น เครื่องสำอาง ไปจนถึงสายหนังสีส้ม ที่ทำให้ Apple Watch..
- Hermès จะไม่ขยายสาขาพร่ำเพรือ ปัจจุบันร้านมีแค่ 300 สาขาทั่วโลก
แม้สาขาจะดูไม่เยอะ แต่ถ้ามาลองดูยอดขายต่อสาขา ปีนึงเฉลี่ยแล้วจะพบว่า ทำยอดขายได้มากกว่า 2,000 กว่าล้านบาท ต่อสาขา
รายได้ระดับนี้ มากกว่ารายได้ทั้งบริษัท ของบางบริษัทใหญ่ ๆ อีก..
รายได้ระดับนี้ มากกว่ารายได้ทั้งบริษัท ของบางบริษัทใหญ่ ๆ อีก..
ซึ่งคุณหลิน ก็ได้ทิ้งท้ายไว้ว่าหุ้น Hermès ดีทุกอย่าง
เสียอยู่อย่างเดียวคือ Valuation ซึ่งไม่เคยถูกเลย เหมือนกระเป๋า Berkin ที่เขาขาย..
เสียอยู่อย่างเดียวคือ Valuation ซึ่งไม่เคยถูกเลย เหมือนกระเป๋า Berkin ที่เขาขาย..
คำเตือน : โพสต์นี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูล ไม่ได้เป็นการชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นแต่อย่างใด