“ปัญญ์ปุริ” สูตรสำเร็จ Niche Luxury Brand ไทย ยอดขายพันล้าน

“ปัญญ์ปุริ” สูตรสำเร็จ Niche Luxury Brand ไทย ยอดขายพันล้าน

ปัญญ์ปุริ X ลงทุนแมน
“ตอนผมทำงานต่างประเทศ รู้เลยว่า คนไทยมีความสามารถไม่แพ้ต่างชาติ พอกลับมาเมืองไทย ผมมีความคิดอยากสร้างแบรนด์ไทย Luxury ที่ชนะแบรนด์ต่างชาติ นั่นคือหนึ่งใน Passion ที่ขับเคลื่อนให้ ปัญญ์ปุริ ประสบความสำเร็จ”
คุณวรวิทย์ ศิริพากย์ CEO และผู้สร้างแบรนด์ ปัญญ์ปุริ แบรนด์เครื่องหอม และสกินแคร์ ที่โรงแรมระดับโลกมากมายต่างเลือกใช้ และกำลังขายดีในหลายประเทศ
ทำให้ในช่วง 3-4 ปีแรก ปัญญ์ปุริ มีรายได้ราว 100 ล้านบาท และเมื่ออายุครบ 21 ปี บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2024 มากกว่า 1,000 ล้านบาท
จากธุรกิจ SME เล็ก ๆ แต่ด้วยความกล้าที่จะฝัน กล้าที่จะทำ ใช้ความอดทนมหาศาลตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
ที่แม้ ปัญญ์ปุริ จะมีเนื้อแท้คือความเป็นไทย แต่ในภาคการแข่งขันของธุรกิจเครื่องหอมและสกินแคร์ระดับ Luxury ปัญญ์ปุริ มีสถานะเป็น Global Brand ที่แข่งขันกับแบรนด์ต่างชาติได้อย่างสบาย ๆ
ผู้ชายคนนี้ มีเคล็ดลับในการทำธุรกิจอย่างไร ?
ถึงพาแบรนด์ ปัญญ์ปุริ ไล่ล่าความฝันตัวเองได้สำเร็จ พร้อมกับสร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ “ปัญญ์ปุริ” เกิดจากคุณวรวิทย์ ได้ทุนไปเรียนต่อที่อิตาลี ปริญญาโทด้าน Luxury and Fashion พอกลับมาเมืองไทย เขาได้ไปลองใช้บริการสปาในโรงแรม 5 ดาวหลายแห่ง แต่กลับไม่เจอผลิตภัณฑ์ไทยเลยสักแบรนด์
พอเห็นแบบนี้ คุณวรวิทย์ มองว่านี่คือโอกาสทางธุรกิจ ทำให้เขาคิดจะสร้างแบรนด์ไทย ผลิตเครื่องหอม และสกินแคร์ ในระดับ Luxury ด้วยความเชื่อที่ว่า วัตถุดิบ, ไอเดียนวัตกรรมคนไทย สามารถแข่งขันกับแบรนด์ต่างชาติได้สบาย ๆ
ทำให้ในปี 2003 เขาเลยรวบรวมเงินเก็บทั้งหมดเพื่อลงทุนในธุรกิจนี้ โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า “ปัญญ์ปุริ”
โดยเวลานั้น DNA แบรนด์ “ปัญญ์ปุริ” ถือเป็นการสร้างความต่างในอุตสาหกรรมนี้ อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ด้วยการผลิตสินค้าดูแลผิวและเครื่องหอมต่าง ๆ ที่มาจากธรรมชาติ หรือ Clean Beauty เพื่อดูแลร่างกายและจิตใจแบบสมดุล
เพียงแค่เริ่มต้น ก็ได้การตอบรับจากตลาดทันที เมื่อแบรนด์ “ปัญญ์ปุริ” ออกบูทในงานแสดงสินค้า ได้ลูกค้าโรงแรมต่างประเทศ ทำให้บริษัทมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจทันที
พร้อมกับค่อย ๆ ขยายธุรกิจ จนทำให้ปัจจุบัน ปัญญ์ปุริ มีสินค้ากว่า 2,300 รายการ ผ่านสาขาตัวเองและช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ
โดยธุรกิจรีเทล มีสัดส่วนรายได้ 85% ส่วนธุรกิจสปาและเวลเนส 4 สาขา คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 15%
ที่น่าสนใจ ในครึ่งแรกของปี 2024 บริษัทมียอดขาย 576 ล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้าเมื่อถึงสิ้นปีจะมียอดขาย 1,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 200 ล้านบาท หากทำสำเร็จ นั่นหมายถึงรายได้จะเติบโตกว่า 80% เมื่อเทียบกับปี 2023
แล้วยอดขายกว่า 1,000 ล้านบาทในปีนี้ จะสำเร็จด้วยวิธีไหน ?
คุณวรวิทย์เล่าว่า..
แม้เศรษฐกิจปีนี้ จะส่งผลให้กำลังซื้ออ่อนแอลง แต่ด้วยสินค้าและบริการของ “ปัญญ์ปุริ” คือ Luxury ที่กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ขณะเดียวกันได้สร้าง Product Hero ใหม่อย่าง น้ำหอมรูปแบบออยล์ นวัตกรรมใหม่ล่าสุด โดยใช้จุดแข็งของแบรนด์คือ กลิ่นความหอมมาเป็นจุดขาย ที่สร้างยอดขาย 10% ในกลุ่มธุรกิจรีเทล ขณะเดียวกัน ยอดขายออนไลน์ในประเทศจีน ก็เติบโตหลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งในช่วงครึ่งปีหลัง ถือเป็นฤดูกาลขายสินค้าเครื่องหอม และสกินแคร์ เพราะคนไทยนิยมซื้อเป็นของฝาก จนถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมากขึ้น โดยแบรนด์ “ปัญญ์ปุริ” ถือเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อ
ทำให้เกิดการปรับตกแต่งสาขาต่าง ๆ โดยในแต่ละแห่งจะสร้างประสบการณ์ในการช็อปปิง ที่มาพร้อมกิจกรรมการตลาดหลายรูปแบบ เพื่อกระตุ้นยอดขายของ “ปัญญ์ปุริ”
อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ คือ การเปลี่ยนเกมในการทำตลาดต่างประเทศ..
จากอดีตที่ “ปัญญ์ปุริ” ใช้ “ดิสทริบิวเตอร์” ในการขายสินค้าเกือบ 20 ประเทศทั่วโลก แต่แผนล่าสุดคือ การเข้าไปลงทุนเอง โดยล่าสุดได้เข้าไปลงทุนในฮ่องกง และเตรียมลงทุนในประเทศจีน อีกทั้งในอนาคตยังมีแผนร่วมมือกับบริษัท Local
เหตุผลก็เพราะ โมเดลธุรกิจนี้ จะทำให้ “ปัญญ์ปุริ” มีความคล่องตัวสูง และควบคุมธุรกิจ จนถึงคุณภาพสินค้าได้ดีขึ้นกว่าการใช้ดิสทริบิวเตอร์
แผนธุรกิจเชิงรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศนั่นเอง ทำให้คุณวรวิทย์ มั่นใจว่า 5 ปีต่อจากนี้ บริษัทจะมียอดขายเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20%
คุณวรวิทย์ เปิดเผยว่า ถ้าจะให้สรุปความสำเร็จของ “ปัญญ์ปุริ” ในมุมธุรกิจ มี 3 ปัจจัยหลัก คือ
1. มองธุรกิจระยะยาว ไม่ทำธุรกิจตามกระแสฉาบฉวย เน้นคุณภาพสินค้าเป็นหัวใจสำคัญ
2. มีทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ เชี่ยวชาญในธุรกิจจริง
3. ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าตลอดเวลา
ส่วนอีกมุมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ ในฐานะคนที่สร้างแบรนด์ให้สำเร็จ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ?
ข้อที่ 1 แม้รายได้จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ Passion ที่ต้องมาพร้อมเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ที่จะทำให้เรามีความมุ่งมั่นและทำธุรกิจด้วยหัวใจ
ข้อที่ 2 ต้องมีความอดทนสูง เพราะการทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ทำงานออฟฟิศ
แต่เราต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา และอยู่กับมันทุกช่วงเวลาของชีวิต
ข้อที่ 3 การสร้างแครักเตอร์ และจุดยืนของแบรนด์ให้เป็นตัวเอง แตกต่าง และชัดเจน โดยเฉพาะสินค้าที่เป็น Luxury เรื่องเหล่านี้ ถือว่าเป็นหัวใจหลักเลย
ถึงตรงนี้ แม้จะเป็นเวลากว่า 21 ปี..
ที่คุณวรวิทย์สร้างแบรนด์ ปัญญ์ปุริ จนประสบความสำเร็จ ทั้งด้านรายได้และ Branding จนได้การยอมรับในระดับโลก
แต่เขากลับมองว่า การเดินทางของ ปัญญ์ปุริ ยังอีกยาวไกล และมีอะไรให้ทำอีกมากมาย ที่ตัวเขาพร้อมจะเรียนรู้และเดินทางอยู่เสมอ
โดยหวังว่า ในอนาคตอันใกล้ ปัญญ์ปุริ จะเป็นแบรนด์เครื่องหอม และสกินแคร์ ที่วางขายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก พร้อมกับสร้างแบรนด์ให้เป็นตำนาน
เพื่อเป็นหลักฐานว่า คนไทยก็สามารถสร้างแบรนด์ Luxury ให้ประสบความสำเร็จได้ในตลาดโลก ไม่แพ้แบรนด์ต่างชาติ
Reference
- บทสัมภาษณ์ คุณวรวิทย์ ศิริพากย์ CEO ผู้สร้างแบรนด์ ปัญญ์ปุริ โดย ลงทุนแมน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon