Meta ฉีกตำราการเงิน ตลาดมีประสิทธิภาพ ไม่มีอยู่จริง

Meta ฉีกตำราการเงิน ตลาดมีประสิทธิภาพ ไม่มีอยู่จริง

Meta ฉีกตำราการเงิน ตลาดมีประสิทธิภาพ ไม่มีอยู่จริง /โดย ลงทุนแมน
ปลายปี 2022 Meta มีมูลค่า 8 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ มูลค่าต่อกำไร หรือ P/E 8.5 เท่า
วันนี้ Meta มีมูลค่าบริษัท 41 ล้านล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา เป็น 5 เด้ง ในระยะเวลาเพียงหนึ่งปีเศษ..
หลายต่อหลายคน บอกว่าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก ทั้งนักลงทุน และนักวิเคราะห์ทั้งโลกต่างลงทุนที่นี่
การจะเข้าไปสร้างผลตอบแทน จึงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะข้อมูลในมือ ก็มีเท่า ๆ กัน รู้เท่ากัน จะไปเอากำไรจากตรงไหน บางคนถึงกับบอกว่าลงทุนในตลาดหุ้นไทยน่าจะทำกำไรได้มากกว่า เพราะตลาดหุ้นไทยมีประสิทธิภาพน้อยกว่า
แต่กับกรณี 5 เด้งของ Meta เป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ที่ว่า จริง ๆ แล้ว ตลาดมีประสิทธิภาพแบบในตำราเรียน อาจจะไม่ได้มีอยู่จริง..
มันมีอะไร ผิดพลาดตรงไหน
แล้วหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นกับ Meta บ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
จากทฤษฎีการเงินตามตำรา บอกเราว่า ตลาดมีประสิทธิภาพ หรือ Efficient Market คือ ตลาดที่หุ้น มีราคายุติธรรมอยู่แล้ว
เพราะเราเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลเท่ากัน
คือรู้ว่าผลประกอบการ เป็นอย่างไร
รู้ว่าบริษัทมีข่าวสำคัญ อะไรบ้าง
ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ รู้พร้อม ๆ กันหมด
ตลาดแบบนี้ จะไม่มีทางเกิดการ Overpriced และ Underpriced หรือภาษาบ้าน ๆ คือ ราคาหุ้น จะมี “ความยุติธรรม” ขึ้นลงตามข่าวสาร ที่ทุกคนรับรู้ อยู่ตลอดเวลา..
ทำให้ไม่มีใคร ที่สามารถทำผลตอบแทนได้เกินกว่าปกติ หรือเหนือกว่าคนอื่น เพราะราคาหุ้น มีความสมเหตุสมผลอยู่เสมอ
สำหรับตลาดหุ้นที่ทุกคนยอมรับว่า ยุติธรรมที่สุดในโลก ก็คือ ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่หุ้นทุกตัวที่จดทะเบียนในประเทศแห่งนี้ มีมูลค่ารวมกัน 1,800 ล้านล้านบาท
มากกว่ามูลค่าบริษัท ในตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั้งโลก รวมกัน..
แปลว่าถ้าทฤษฎีนี้เป็นจริง ก็เท่ากับว่าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่สนามที่นักลงทุนตัวเล็ก ๆ แบบเรา จะไปลงแข่งขันได้เลย
แต่เรื่องของหุ้น Meta ก็ได้บอกเราแล้วว่า
ตลาดมีประสิทธิภาพ ไม่น่าจะมีอยู่จริง..
หากเราลองมาไล่ย้อนไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสหรัฐอเมริกา และ Meta ในช่วงปลายปี 2022 มันมีอะไรบ้าง ?
เล่าถึงสภาพเศรษฐกิจโลกกันก่อน
- ช่วงนั้น FED กระหน่ำขึ้นดอกเบี้ย ผู้บริโภครัดเข็มขัด ใช้จ่ายลดลง ต้นทุนกู้ยืมสูง ธุรกิจต้องการโฆษณาน้อยลง
บริษัทที่เกี่ยวข้องแบบ Meta ที่รายได้ 9 ใน 10 มาจากโฆษณา ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ หลีกเลี่ยงอะไรไม่ได้เลย แบบนี้เรียกว่า ความเสี่ยงเชิงระบบ ทำอะไรไม่ได้
หุ้นจะตก เงินจะไหลออกจากหุ้นไปยังเงินฝาก หรือพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนดึงดูดกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่า เป็นเรื่องปกติ
แต่ที่ดูจะมีความแตกต่างกัน ก็คือ ข้อมูลที่เรารับรู้เท่า ๆ กันเกี่ยวกับบริษัท Meta
แต่ลงทุนในตลาดกลับตัดสินใจ ไม่เหมือนกัน..
- ช่วงนั้น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ออกมายอมรับว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากการปรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ iOS ทำให้คนยิงโฆษณา ยิงไม่ได้ลึก ไม่ได้แม่นยำเท่าเดิม
หลายคนจึงมองกันว่า Meta แย่แล้ว
ธุรกิจต้องพึ่ง Apple ขนาดนี้
ต้องประเมินมูลค่าใหม่ กันหรือเปล่า..
- บริษัท Meta ลงทุนผิดพลาด
ทุ่มลงทุนใน Metaverse สุดท้ายขาดทุนยับ ต่อมาไม่นาน ก็ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน เกิน 20,000 ราย
บวกกับกระแสที่ว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มคนแก่ วัยรุ่นไม่ค่อยเล่นกันแล้ว ไม่น่าจะเติบโตหรอก
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 หุ้นบริษัท Meta จึงถูกกระหน่ำเทขาย จนมีมูลค่าตกต่ำสุด ในรอบ 7 ปี ซื้อขายกันที่ P/E 8.5 เท่า..
แต่ปัจจุบัน หุ้น Meta ก็ได้มีมูลค่า ปรับตัวขึ้นมา 5 เท่า และ กำลังซื้อขายกันที่ P/E มากกว่า 30 เท่า
ถามว่าทำไม ถึงเป็นแบบนั้น ?
นั่นก็เพราะว่าบริษัท ยังขายโฆษณาได้อยู่ กลับมาเติบโตได้ จากการปรับโครงสร้างบริษัท ชะลอการลงทุนใน Metaverse หันไปลงทุนใน AI ยุบแผนกที่ไม่โฟกัส เลิกจ้างพนักงาน เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ซึ่งจุดนี้ นักลงทุนทุกคนก็รับรู้เหมือน ๆ กัน แตกต่างกันที่มุมมองการตัดสินใจ และ อารมณ์ในขณะนั้นที่แตกต่างกัน..
นอกเหนือจากตัวอย่างแบบ Meta แล้ว ก็ยังมีหุ้นตัวอื่น ๆ อีกที่มีมูลค่าขึ้นลงรุนแรง ในช่วงเดียวกัน เช่น
- Nvidia บริษัทพัฒนาชิป มูลค่าขึ้นมาหลายเด้ง
- Moderna เจ้าของวัคซีน ที่เราฉีดกัน มูลค่ากลับหายไปครึ่งหนึ่ง
ซึ่งบริษัทเหล่านี้ ก็เป็นส่วนหนึ่ง ของความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เท่ากับว่าทฤษฎี ตลาดมีประสิทธิภาพ อาจไม่ได้มีอยู่จริง
ขนาดตลาดหุ้นใหญ่สุดในโลก
เรายังสร้างผลตอบแทนได้เป็นเท่าตัว
ขาดทุนได้ เป็นครึ่งหนึ่ง ในระยะเวลาอันสั้น จากข่าวสารเท่า ๆ กัน แต่การตัดสินใจ และ อารมณ์ต่างกัน
สรุปได้ว่า ไม่ว่าเราจะเป็นใคร
จะลงทุนตลาดหุ้น ประเทศไหน บนโลก
เราก็ยังมีโอกาส สร้างผลตอบแทนได้
เพียงแต่เราต้องมองเห็น
ในความไม่มีประสิทธิภาพ
ของสิ่งที่หลายคน เชื่อกันไปแล้วว่า มันมีประสิทธิภาพ..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
Reference
-https://investor.fb.com/home/default.aspx
Tag: meta

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon