กรณีศึกษา CHANEL คนก่อตั้ง เสียหุ้นทั้งหมด ให้เพื่อน /โดย ลงทุนแมน
ในปี 1941 สงครามโลกครั้งที่ 2 ลุกลามไปทั่วทวีปยุโรป โกโก ชาแนล ผู้ก่อตั้งแบรนด์ CHANEL ได้เขียนจดหมายถึงพรรคนาซีเยอรมัน ที่กำลังยึดครองกรุงปารีสในขณะนั้น เพื่อเรียกร้องส่วนแบ่งผลกำไรทางธุรกิจที่มากขึ้นจากหุ้นส่วน

สาเหตุก็เพราะว่า หุ้นส่วนคนนั้นเป็น ชาวยิว..

แต่ทว่าคำร้องของเธอนั้นตกไป เนื่องจากหุ้นส่วนคนนั้นได้โอนย้ายหุ้นให้กับนอมินี และหนีออกนอกประเทศไปเรียบร้อยแล้ว

พอสงครามจบลง โกโก ชาแนล ถูกเนรเทศออกจากประเทศ เพราะถูกสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับพรรคนาซี

แต่หุ้นส่วนชาวยิวคนนั้นกลับมา และได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียวในบริษัท..

แล้วปัจจุบัน ใครกันที่เป็นเจ้าของแบรนด์ CHANEL ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในปี 1922 โกโก ชาแนล กำลังขยายธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นของเธอที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ในหมู่คนดังและชนชั้นสูงของยุโรป

หนึ่งในสินค้าสำคัญที่เพิ่งเปิดตัวไปก็คือ น้ำหอม CHANEL No. 5 ที่ยังคงความอมตะ ขายดีมาจนถึงทุกวันนี้

ตอนนั้น โกโก ชาแนล มีหุ้นส่วนทางธุรกิจอีก 2 คน ก็คือ

- เบเดอร์ ผู้ก่อตั้งห้างหรู ลาฟาแย็ต

- ปีแยร์ เวิร์ทไฮเมอร์ นักเพาะพันธ์ุม้าแข่งชื่อดังในฝรั่งเศส ซึ่งเขาเพิ่งได้รับมรดกเป็นโรงงานทำน้ำหอมของตระกูล

ทั้ง 3 คนร่วมหุ้นกันเพื่อขยายกำลังการผลิตน้ำหอม Chanel No. 5 ที่กำลังโด่งดังในขณะนั้น

โดย
- ปีแยร์ เวิร์ทไฮเมอร์ จะเป็นผู้ลงทุนผลิต ทำการตลาด และจัดส่งสินค้า ถือหุ้น 70%

- เบเดอร์ จะเป็นผู้จัดจำหน่าย ถือหุ้น 20%
- โกโก ชาแนล อนุญาตให้ผลิต ถือหุ้น 10%

ซึ่งนั่นก็ทำให้ยอดขายของน้ำหอมอมตะอย่าง Chanel No. 5 เติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น

แต่ทว่าความสัมพันธ์ของหุ้นส่วนทั้ง 3 คนนั้น กลับแย่ลงไปเรื่อย ๆ สวนทางกับยอดขาย..

โกโก ชาแนล เองเริ่มไม่พอใจที่ตัวเองได้สัดส่วนผลกำไรน้อย ทั้งที่ตัวเองเป็นคนสร้างสรรค์ คิดค้น รวมถึงสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมาตั้งแต่แรก

เธอเข้าไปเจรจากับปีแยร์ แต่ปีแยร์ก็ปฏิเสธข้อเสนอของเธอ

จนมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมนีได้เข้ายึดครองฝรั่งเศส ปีแยร์ซึ่งเป็นคนยิวที่ไหวตัวเร็ว ได้ทำการโอนถ่ายหุ้นให้กับนอมินี และหนีออกไปนอกประเทศ

โกโก ชาแนล ได้เขียนจดหมายเพื่อเรียกร้องส่วนแบ่งทางธุรกิจเพิ่มเติมไปยังผู้ปกครองในขณะนั้น ซึ่งก็คือ พรรคนาซี

แต่ว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากปีแยร์ได้ทำการถ่ายหุ้นและทรัพย์สินไปยังนอมินีอื่น ๆ หมดแล้ว

พอสงครามจบลง โกโก ชาแนล ซึ่งถูกกล่าวหาว่าคบค้าสมาคมและเป็นผู้ส่งข้อมูลสำคัญให้กับพรรคนาซี ถูกเนรเทศออกไปอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ส่วนปีแยร์นั้นก็กลับมาทำธุรกิจต่อเหมือนเดิม

10 ปีหลังจากนั้น โกโก ชาแนล ได้กลับมายังประเทศฝรั่งเศสอีกครั้งเพื่อเริ่มต้นใหม่ เธอเข้าไปขอร้องปีแยร์ เพื่อให้ช่วยสนับสนุนทางการเงินในการเริ่มธุรกิจอีกครั้ง

ซึ่งนั่นก็ต้องแลกมากับการให้สิทธิ์ในการขายสินค้าแบรนด์ CHANEL ทั้งหมดที่นอกเหนือจากธุรกิจน้ำหอมให้กับ ปีแยร์

ส่วนผู้ถือหุ้นอีกคน เบเดอร์นั้นก็ขายหุ้นของตนเองจำนวน 20% ให้กับปีแยร์ ไปในระหว่างนั้น

ถึงตรงนี้ ปีแยร์มีอำนาจในการควบคุมบริษัทอย่างเบ็ดเสร็จ ด้วยจำนวนหุ้น 90% พร้อมกับสิทธิ์ในแบรนด์ CHANEL ในทุกสินค้า

ในปี 1971 โกโก ชาแนล ได้เสียชีวิตลง ฌาร์ค เวิร์ทไฮเมอร์ ลูกชายที่เข้ามาสานต่อธุรกิจจากปีแยร์ ได้เข้าซื้อหุ้นอีก 10% ที่เหลือ

หุ้นทั้งหมด 100% ของบริษัท Chanel S.A. จึงตกมาอยู่ในมือของครอบครัวเวิร์ทไฮเมอร์ เป็นการปิดฉากความขัดแย้งอันยาวนานระหว่างผู้ถือหุ้นบริษัทและผู้ก่อตั้ง

และกลายเป็นเจ้าของแบรนด์ CHANEL แต่เพียงผู้เดียว..

ปัจจุบัน ครอบครัวเวิร์ทไฮเมอร์มีทรัพย์สินรวมกันมากกว่า 3.3 ล้านล้านบาท จากการเป็นเจ้าของแบรนด์ CHANEL ธุรกิจเพาะพันธ์ุม้าแข่ง และไร่องุ่นในฝรั่งเศส..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ครอบครัวนี้ เพิ่งรับเงินปันผลประจำปีจาก CHANEL ไป 170,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.com/wertheimer-family-chanel-fortune-gerard-alain-vineyards-thoroughbred-net-worth-2019-2
-https://www.biography.com/history-culture/coco-chanel
-https://thevintagebar.com/the-archive/who-owns-chanel