เปรียบเทียบ Mission ของ Google Facebook Starbucks
เปรียบเทียบ Mission ของ Google Facebook Starbucks / โดย ลงทุนแมน
พันธกิจ หรือ Mission คือสิ่งที่บ่งบอกว่าบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร
การตั้งพันธกิจของบริษัทนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ
เพราะ Mission นั้นเปรียบเสมือนดาวเหนือ คอยนำทางให้บริษัทไปในทิศทางที่ถูกต้อง
แล้วบริษัทใหญ่ ๆ ระดับโลกมีการตั้งพันธกิจว่าอะไรกันบ้าง ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1. Google
“To organize the world's information and make it universally accessible and useful”
คำแปล: จัดการข้อมูลบนโลกใบนี้ และทำให้ทุกคนเข้าถึงและใช้งานได้อย่างมีประโยชน์
“To organize the world's information and make it universally accessible and useful”
คำแปล: จัดการข้อมูลบนโลกใบนี้ และทำให้ทุกคนเข้าถึงและใช้งานได้อย่างมีประโยชน์
Keyword ของพันธกิจนี้คือคำว่า “ข้อมูล” และ “โลก” (information and world)
ตั้งแต่เริ่มต้น Google ให้บริการและพัฒนา service ต่าง ๆ โดยคำนึงถึงพันธกิจที่ตัวเองตั้งไว้
หากสังเกตดี ๆ แต่ละ service ที่ออกมาให้เราได้ใช้งานนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของพันธกิจนี้ เช่น
Google Search เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นการเชื่อมข้อมูลกับโลกมาเข้ากันได้อย่างไร
ตั้งแต่เริ่มต้น Google ให้บริการและพัฒนา service ต่าง ๆ โดยคำนึงถึงพันธกิจที่ตัวเองตั้งไว้
หากสังเกตดี ๆ แต่ละ service ที่ออกมาให้เราได้ใช้งานนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของพันธกิจนี้ เช่น
Google Search เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นการเชื่อมข้อมูลกับโลกมาเข้ากันได้อย่างไร
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่เราอาจคาดไม่ถึงก็คงจะเป็น
Google Map ให้บริการแผนที่ เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึง “ข้อมูล” สถานที่และการเดินทางได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น
Google Translate ให้บริการแปลภาษา เพื่อให้ผู้คนใน “โลก” สามารถสื่อสารกันได้
2. Facebook
ปี 2009: “To give people the power to share and make the world more open and connected”
คำแปล: ให้ผู้คนได้แบ่งปัน และทำให้โลกนี้เปิดกว้างและเชื่อมต่อกัน
คำแปล: ให้ผู้คนได้แบ่งปัน และทำให้โลกนี้เปิดกว้างและเชื่อมต่อกัน
ปี 2017: “To give people the power to build community and bring the world closer together.”
คำแปล: ให้ผู้คนได้ร่วมกันสร้างชุมชน และทำให้โลกใกล้กันยิ่งขึ้นกว่าเดิม
คำแปล: ให้ผู้คนได้ร่วมกันสร้างชุมชน และทำให้โลกใกล้กันยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หากจำกันได้ เริ่มแรก Facebook พยายามจะเชื่อมต่อเรากับคนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน
เช่น เพื่อนสมัยเรียน ญาติห่าง ๆ หรือแม้กระทั่งคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลก
เช่น เพื่อนสมัยเรียน ญาติห่าง ๆ หรือแม้กระทั่งคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลก
คนที่เคยรู้จัก เคยสนิทสนม ที่ต้องจากกัน ก็ได้กลับมาเจอกันใน Facebook อีกครั้ง
ทำให้เรารับรู้ชีวิต ความเป็นไปของเขาเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
8 ปีต่อมา… ในปี 2017 Facebook ได้เปลี่ยนพันธกิจของตัวเองอีกครั้ง
การรับข้อมูลข่าวสารนั้นเปลี่ยนไป ผู้ใช้ Facebook จำนวนมากเริ่มบ่นว่าตัวเองรับข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้จึงเป็นการทำให้โลกใบเดิมนั้น “ใกล้กัน” ยิ่งกว่าเดิม
คำว่าใกล้กัน หมายถึงการที่เราเห็นโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับตัวเรามากขึ้น
หลายคนคงรู้สึกได้แล้วว่าตอนนี้เรากลับมาเห็นโพสต์ของเพื่อน ๆ เรามากขึ้นกว่าเดิม
และเห็นโพสต์จากเพจหรือแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเราน้อยลง
3. Starbucks
“To inspire and nurture the human spirit – one person, one cup and one neighborhood at a time”
คำแปล: ให้แรงบันดาลใจและหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของมนุษย์ – หนึ่งคน หนึ่งถ้วย หนึ่งชุมชน ต่อครั้ง
ร้านกาแฟชื่อดังนี้มีจุดมุ่งหมายไม่ใช่เพื่อสร้างกำไรให้แก่ธุรกิจเพียงอย่างเดียว
คำแปล: ให้แรงบันดาลใจและหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของมนุษย์ – หนึ่งคน หนึ่งถ้วย หนึ่งชุมชน ต่อครั้ง
ร้านกาแฟชื่อดังนี้มีจุดมุ่งหมายไม่ใช่เพื่อสร้างกำไรให้แก่ธุรกิจเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องการเป็นที่สำหรับชุมชน ให้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต
อย่างที่เรารู้กัน Starbucks เป็นร้านกาแฟที่ไม่สนใจว่าคุณจะนั่งนานแค่ไหน
อย่างที่เรารู้กัน Starbucks เป็นร้านกาแฟที่ไม่สนใจว่าคุณจะนั่งนานแค่ไหน
เพราะจุดมุ่งหมายของเขาคือ การเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน ที่ที่เปรียบเสมือนกิจวัตรประจำวันที่ทุกคนต้องมา
จึงไม่แปลกใจที่พนักงาน Starbucks จะจำชื่อลูกค้าประจำ หรือแม้กระทั่งเมนูที่ลูกค้าชอบสั่งได้
เหมือนที่นาย Howard Schultz – CEO ของ Starbucks กล่าวไว้ว่า
“We are not in the coffee business serving people,
but in the people business serving coffee”
“เราไม่ได้อยู่ในธุรกิจกาแฟ ที่ให้บริการผู้คน
แต่เราอยู่ในธุรกิจผู้คน ที่ให้บริการกาแฟ”
เรื่องทั้งหมดนี้สอนอะไรเราหลายอย่าง
“We are not in the coffee business serving people,
but in the people business serving coffee”
“เราไม่ได้อยู่ในธุรกิจกาแฟ ที่ให้บริการผู้คน
แต่เราอยู่ในธุรกิจผู้คน ที่ให้บริการกาแฟ”
เรื่องทั้งหมดนี้สอนอะไรเราหลายอย่าง
หลายคนอาจคิดว่า Mission เป็นสิ่งที่ตั้งขึ้นมาเป็นเพียงแค่คำสวยหรู
แต่แท้จริงแล้วไม่เลย
Mission ที่ดีนั้นจะคอยนำทางให้องค์กรนั้นประสบความสำเร็จ
และมันไม่เพียงแต่นำทางองค์กรเท่านั้น เพราะมันรวมไปถึงพนักงานทุกคนในองค์กร
ตัวเราเองก็เหมือนกัน
เราควรมี Mission อะไรสักอย่างที่เป็นของตัวเราเองหรือไม่
เราจะทำให้ครอบครัวของเรามีความสุขมากที่สุด..
เราจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ..
เราจะเป็นคนที่เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อน ๆ ..
เราจะเป็นคนที่ตั้งใจทำอะไรให้ชุมชนของเรา..
เราจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ..
เราจะเป็นคนที่เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อน ๆ ..
เราจะเป็นคนที่ตั้งใจทำอะไรให้ชุมชนของเรา..
สิ่งเหล่านี้ถ้าเรากำหนด Mission ของตัวเราให้เหมือนองค์กร
มันก็จะเหมือนเป็นสิ่งนำทางเราให้เราไปสู่จุดนั้น
มันก็จะเหมือนเป็นสิ่งนำทางเราให้เราไปสู่จุดนั้น
แล้ว Mission ของเราในวันนี้คืออะไร?
----------------------
<ad> ถ้า Mission ของเราวันนี้คือ การเรียนต่อ “ปริญญาโท จุฬาฯ—MBA, Marketing, IT, Logistics”
----------------------
<ad> ถ้า Mission ของเราวันนี้คือ การเรียนต่อ “ปริญญาโท จุฬาฯ—MBA, Marketing, IT, Logistics”
อย่าให้ “เลข” เป็นอุปสรรคกับ Mission ของเรา!!!
“ME Academy—We Coach, with Care.” พร้อมโค้ชสอบ CU-BEST อย่างใกล้ชิด ด้วยเทคนิคง่าย ๆ + คลังโจทย์ข้อสอบหลายร้อยข้อ
ดู Reviews จากผู้เรียน บรรยากาศการเรียน และตัวอย่างข้อสอบที่ facebook.com/MathEnglishAcademy
----------------------
----------------------