“ภาพไม่สวย” ปัญหาของ Meta ที่เงิน 3 แสนล้าน ยังแก้ไม่ได้

“ภาพไม่สวย” ปัญหาของ Meta ที่เงิน 3 แสนล้าน ยังแก้ไม่ได้

“ภาพไม่สวย” ปัญหาของ Meta ที่เงิน 3 แสนล้าน ยังแก้ไม่ได้ /โดย ลงทุนแมน
เมื่อไม่นานมานี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO บริษัท Meta และผู้ก่อตั้ง Facebook ได้ออกมาโพสต์อัปเดตความคืบหน้าของเกม Horizon Worlds ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ Metaverse ของเขา
แต่สิ่งที่เป็นประเด็นจนถูกพูดถึงไปทั่วโลก คือ ภาพตัวละครสามมิติของเขาเอง ที่มีกราฟิกคุณภาพต่ำ เหมือนเกมคอมพิวเตอร์ในปี 2000
และถึงแม้เขาจะออกมาโพสต์รูปใหม่ที่ดูดีขึ้นกว่าเดิม และบอกว่าเขากำลังปรับปรุงกราฟิกในเกม Horizon Worlds โดยจะอัปเดตให้ดีขึ้นในเร็ว ๆ นี้
แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาว่า
เงินกว่า 3.6 แสนล้านบาท ที่ทุ่มไปเพื่อพัฒนาโลก Metaverse ของเขา
กลับทำกราฟิกในเกมออกมาได้น่าผิดหวังอย่างมาก
แล้วทำไมโปรเจกต์ที่ใช้เงินไปกว่า 3.6 แสนล้านบาท ถึงทำภาพออกมาได้ไม่สวย
และสร้างความผิดหวังให้กับแฟน ๆ ที่รอคอย Metaverse
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ถ้าถามว่า 3.6 แสนล้านบาท ที่ใช้ไปในการพัฒนา Metaverse
ในมุมของกราฟิกของเกมที่เราได้เห็นนั้น ถือว่าล้มเหลวมากขนาดไหน
เราสามารถลองเทียบง่าย ๆ กับต้นทุนในการสร้างวิดีโอเกมในปัจจุบัน ที่มีกราฟิกสมจริง
ยกตัวอย่างเช่น เกม Red Dead Redemption 2 ที่แฟนเกมทั่วโลกต่างชื่นชมว่ามีกราฟิกที่สวยสมจริง ซึ่งมีการประเมินว่าใช้ทุนสร้างทั้งหมดประมาณ 6,000-8,600 ล้านบาท
หรือแม้แต่เกม Star Citizen ที่ถือว่าเป็นเกมที่มีต้นทุนในการสร้างสูงที่สุดที่เคยมีมา ก็ใช้ต้นทุนไปที่ 12,200 ล้านบาท
ซึ่งเงินที่ใช้ในการสร้างทั้งสองเกม คิดเป็นเพียง 3-4% เท่านั้น
เมื่อเทียบกับงบประมาณที่ Meta ใช้ไปกับการพัฒนา Metaverse
ทำให้เมื่อเราดูคุณภาพของกราฟิกที่ได้ และเทียบกับเม็ดเงินที่ใช้ไป
ก็เรียกได้ว่าบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Meta
สร้าง Metaverse ออกมาได้น่าผิดหวังอย่างมาก
แต่จากเรื่องนี้ มีเรื่องหนึ่งที่เราต้องเข้าใจนั่นคือ
การทำกราฟิกของโลก Metaverse เหมือนกับการทำกราฟิกวิดีโอเกมทั่วไปหรือไม่ ?
จริง ๆ แล้ว การทำกราฟิกในโลก Metaverse
มีข้อแตกต่างและยากกว่าการทำกราฟิกให้กับเกมปกติพอสมควร
สาเหตุหลักคือ Metaverse คือโลกเสมือนที่ถูกออกแบบตามผู้สร้างแต่ละคน ซึ่งมีข้อมูลแตกต่างกันหลายรูปแบบนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น เอฟเฟกต์ เสียง ตัวละคร และสภาพแวดล้อม
อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมหาศาล มาเก็บไว้ในเครื่องเล่น และรอประมวลผล
ต่างจากวิดีโอเกมทั่วไป ที่ข้อมูลสามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งในเครื่องตั้งแต่แรกได้ เพราะมีขนาดไม่ใหญ่มาก และการออกแบบแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งที่เล่น
ซึ่งในแต่ละครั้งที่เราเข้าสู่โลก Metaverse
ก็จะมีการดาวน์โหลดข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต และประมวลผลแบบเรียลไทม์
หากข้อมูลมีมากเกินไป หรือในกรณีนี้ก็คือ ภาพมีความละเอียดสูง
ก็จะต้องอาศัยทรัพยากรจำนวนมากในการทำงาน
แน่นอนว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก
แต่หากจะให้คนนับล้านคนเข้าสู่โลก Metaverse ได้
ค่าใช้จ่ายที่มีก็ต้องไม่สูงเกินไป
เพราะหากโลก Metaverse ถูกสร้างให้สวยสมจริงด้วยกราฟิกขั้นสุดยอด
แต่กลับต้องใช้ข้อมูลมหาศาลในการประมวลผล
ค่าใช้จ่ายด้านระบบที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ก็จะสูงตามไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็น ค่าแว่นตา Oculus ที่รุ่นใหม่ตอนนี้มีราคาเริ่มต้นที่ 15,000 บาท
แต่หากจะให้มีภาพสวยเหมือนวิดีโอเกม อาจจะต้องขายในราคาหลักแสนบาท
หรือเรื่องความเร็วของอินเทอร์เน็ต ที่มีความเร็วแตกต่างกัน
หากจะปล่อยให้โลก Metaverse รองรับแค่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพียงอย่างเดียว
ก็จะทำให้ขายได้แค่บางประเทศ หรือลูกค้าอาจต้องจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตแพงมากขึ้น
ยังไม่นับว่าอุปกรณ์ที่ใช้กับ Metaverse ต้องประมวลผลสภาพแวดล้อมในโลกจริง และโลกเสมือนไปพร้อม ๆ กัน
รวมถึงการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งานที่แตกต่างจากเกมปกติ
ทำให้ต้องมีระบบอื่น ๆ ที่มากกว่าเครื่องเล่นเกมทั่วไปเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างเช่น
- ระบบกล้อง ที่ใช้ตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบตัวผู้เล่น และประมวลผลร่วมกับภาพเสมือน
- เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น
- จอแสดงผลในตัว ที่อยู่ใกล้สายตาในระดับ 5 เซนติเมตร
ดังนั้น การทำให้กราฟิกอยู่ในระดับที่พอเล่นได้ ไม่ติดขัด และใช้ได้กับฮาร์ดแวร์ที่มี
จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ Meta ใช้ในการพัฒนา Metaverse ในเริ่มแรก
นอกจากนี้ การทำให้ต้นทุนในการเข้าสู่โลก Metaverse ถูกลง ไม่ได้ส่งผลต่อผู้บริโภคเท่านั้น
แต่ยังหมายถึงการดึงดูดนักพัฒนาให้เข้ามาใช้งาน
และร่วมกันขยายเครือข่ายของ Metaverse ให้ใหญ่ขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกจะตื่นเต้นกับการเปิดตัว Metaverse
แต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริง ๆ ยังมีให้เราเห็นไม่มากนัก
ไม่ว่าจะเป็น Metaverse ของโลกคริปโทเคอร์เรนซี ที่ความนิยมเริ่มลดลงไปเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะที่ดินในโลกเสมือน ที่มีราคาลดลงอย่างมาก จนกลายเป็นภาวะฟองสบู่แตก
และ Metaverse ของโลกธุรกิจ ที่ทำขึ้นในเชิงการโปรโมตทางการตลาด
มากกว่าใช้งานจริง จนปัจจุบันก็ค่อย ๆ จางหายไปจากสื่อหลักเรื่อย ๆ
หรือแม้แต่โปรเจกต์ตั้งต้นอย่าง Metaverse ของ Meta เอง
ที่ต้องใช้เงินทุนในการพัฒนามหาศาลกว่า 3.6 แสนล้านบาท
แต่ผลที่ได้ ก็ยังห่างไกลจาก Metaverse ที่คนทั่วโลกคาดหวัง
สำหรับตัวมาร์กเองนั้น เขาก็เคยออกมายอมรับว่า
โลก Metaverse และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกัน
อาจจะต้องใช้เวลา 10-15 ปี กว่าที่จะออกมาสมบูรณ์แบบ
แต่ตอนนี้โปรเจกต์ Metaverse เพิ่งจะเริ่มได้เพียงแค่ 1 ปี
หมายความว่า เราอาจจะต้องเจอกับ Metaverse ที่ภาพไม่สวยต่อไปอีกนานทีเดียว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://imetmeta.com/why-are-metaverse-graphics-so-bad-there-are-a-few-reasons/
-https://fortune.com/2022/08/22/mark-zuckerberg-replaces-cringeworthy-metaverse-selfie-web3/
-https://www.youtube.com/watch?v=ebVH65IL8FY
-https://www.facebook.com/photo/?fbid=10114625396809351&set=a.612287952871
-https://gamerant.com/most-expensive-games-ever-made-total-cost/
-https://www.businessinsider.com/zuckerberg-metaverse-will-lose-significant-money-3-5-years-2022-5

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon