เส้นทาง Moose Toys อาณาจักรของเล่น หมื่นล้าน จากออสเตรเลีย

เส้นทาง Moose Toys อาณาจักรของเล่น หมื่นล้าน จากออสเตรเลีย

เส้นทาง Moose Toys อาณาจักรของเล่น หมื่นล้าน จากออสเตรเลีย /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงบริษัทของเล่น หลายคนคงจะคิดถึง Hasbro หรือไม่ก็ Mattel
แต่รู้ไหมว่า มีบริษัทของเล่นรายหนึ่งในออสเตรเลีย ที่ครั้งหนึ่งบริษัทมีปัญหาจนเกือบล้มละลาย แต่สุดท้ายก็สามารถพลิกกลับมามียอดขายโตกว่า 7,000%
ที่น่าสนใจคือ ชายที่เข้ามาปลุกปั้นอาณาจักรของเล่นนี้ให้ยิ่งใหญ่ คือชายที่ลี้ภัยมาจากเยอรมนี ข้ามน้ำข้ามทะเลกับครอบครัว มาก่อร่างสร้างตัว ณ แดนจิงโจ้แห่งนี้
แล้วเรื่องราวนี้ เป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ชายที่เราพูดถึง เขามีชื่อว่า Manny Stul เกิดเมื่อปี 1949 ที่ค่ายผู้อพยพพลัดถิ่น ใกล้กับเมืองมิวนิก ในประเทศเยอรมนี
แต่ด้วยความที่พ่อและแม่ของเขาเป็นชาวโปแลนด์เชื้อสายยิว ที่เกิดในช่วงสงครามโลก ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับในเยอรมนี จึงทำให้ต่อมาครอบครัวของเขาต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ และข้ามน้ำข้ามทะเลมายังออสเตรเลีย
ครอบครัวของเขา มาตั้งรกรากอยู่ที่ Perth เมืองทางตะวันตกของออสเตรเลีย และทั้งพ่อและแม่ของเขา ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อส่งให้ Manny ได้เรียนหนังสือ
ส่วนตัวของ Manny เอง เขาเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก จนได้ทุนการศึกษา แต่ตัวเขากลับไม่อยากจะสนใจในเรื่องการเรียนอีกแล้ว เพราะอยากทำงานหาเงินได้เร็ว ๆ จากที่เห็นพ่อแม่ลำบากมาตลอด
สุดท้าย Manny จึงตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนตอนเขาอายุได้ 15 ปี เพื่อมาทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
หลังจากทำงานเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง เขาก็ได้ให้รางวัลตัวเองด้วยการออกเดินทางไปเที่ยวยุโรป ซึ่งการไปเที่ยวครั้งนี้เอง ได้เป็นจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจของเขา
เพราะในช่วงที่เขาไปเที่ยว เขาก็ได้พบกับ ชุดช้อนส้อม ที่ออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย และเกิดเป็นไอเดียธุรกิจ ว่าอยากจะลองนำเข้าสินค้าจากแถบสแกนดิเนเวียมาขายในออสเตรเลีย
หลังจากกลับมาจากการเดินทางครั้งนั้น เขาก็อยากรีบมาทำธุรกิจตามที่คิดไว้ในทันที แต่ก็ติดปัญหาตรงที่ เขายังมีเงินทุนไม่มากพอ จึงต้องไปทำงานในไซต์ก่อสร้างเพื่อเก็บเงินเพิ่ม
ระหว่างทำงานในไซต์ก่อสร้าง เขาก็เกือบจะออกนอกลู่นอกทาง เพราะงานที่ทำนั้นหนักมาก ทำให้เขาเหนื่อยและเครียดมากจนติดเหล้าอย่างหนัก แต่เมื่อเขาดึงสติตัวเองกลับมาได้ เขาถอนตัวได้ทัน และกลับมาตั้งใจทำงานเก็บเงินอีกครั้ง
หลังจากมีเงินทุนเพียงพอ เขาก็ได้เริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้าสินค้าในปี 1974 ที่มีชื่อว่า Skansen
นี่ถือได้ว่าการทำธุรกิจในครั้งนี้เริ่มต้นจากศูนย์อย่างแท้จริง เพราะเขาไม่รู้เลยว่าการทำธุรกิจต้องทำอย่างไรบ้าง
เขาเริ่มเรียนรู้ด้วยตัวเองจากจุดเริ่มต้น ตั้งแต่เดินทางไปติดต่อคู่ค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ เรียนรู้การตั้งราคาขายสินค้า หรือแม้กระทั่งทำการขนส่งสินค้าด้วยตนเอง
ซึ่งตัวของ Manny เองมองว่า สิ่งที่เขาเรียนรู้จากการเริ่มทำธุรกิจครั้งแรก คือความไว้วางใจ ความเชื่อใจกันระหว่างพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และนี่ก็ได้กลายมาเป็นหลักยึดสำคัญในการทำธุรกิจของเขาเรื่อยมา
หลังจากทำธุรกิจมาได้เกือบ 20 ปี ในช่วงปี 1994 ร้าน Skansen ก็ได้เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายมาเป็น ธุรกิจร้านขายของขวัญและสินค้านำเข้า ชื่อดังในออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตามในช่วงนั้น พ่อของเขาก็ได้เสียชีวิตลง ในขณะที่แม่ของเขาก็เริ่มมีอาการของโรคอัลไซเมอร์
Manny จึงตัดสินใจขายธุรกิจ Skansen ไปด้วยมูลค่าราว ๆ 567 ล้านบาท ให้กับ George Snow มหาเศรษฐีชาวออสเตรเลีย โดยเขาคิดว่า เขาจะวางมือจากการทำงานทุกอย่าง และหันไปทำฟาร์มในชนบทแทน
หลังไปใช้ชีวิตในชนบทได้ราว 5-6 ปี ต่อมาในช่วงปี 2000 Manny ก็เริ่มกลับมามองหาการลงทุนในบริษัทที่น่าสนใจ เพื่อต่อยอดเงินเก็บที่เขามีอยู่
ที่ปรึกษาทางการเงินของเขาจึงแนะนำให้เขาเข้าไปลงทุนในบริษัทที่ชื่อว่า “Moose Toys” ซึ่งเป็นบริษัทขายของเล่นเล็ก ๆ ที่มีพนักงานในตอนนั้นเพียง 10 คนเท่านั้น
Manny เองก็ลองศึกษาตัวธุรกิจดู และก็มองเห็นว่าบริษัทแห่งนี้มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ในอนาคต จึงตัดสินใจทุ่มเงินเข้าไปซื้อกิจการ และหลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจหวนคืนกลับมาสู่วงการนักบริหารกิจการอีกครั้ง..
ช่วงแรกที่เขาเข้ามา Moose Toys ทำรายได้ได้ปีละประมาณ 134 ล้านบาท
เขาเริ่มเข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานทั้งหมด ปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ จ้างทีมพัฒนาสินค้าใหม่เข้ามา และหลังจากนั้น Moose Toys ก็ได้ออกสินค้าใหม่
จุดเปลี่ยนสำคัญของ Moose Toys คือการเปิดตัว Mighty Beanz ของรูปทรงคล้ายลูกปัด หรือเมล็ดถั่ว
ซึ่งกลายเป็นที่นิยมไปทั่วออสเตรเลีย และสามารถทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มจากหลักร้อยล้านบาท เป็นราว ๆ 1,400 ล้านบาท ในเวลา 4 ปี
หลังจากนั้นบริษัทก็ได้เริ่มขยายฐานการผลิตไปยังประเทศจีน และเริ่มขยับขยายไปทำตลาดในจีนและต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม การออกสินค้าใหม่ครั้งนั้น ก็ทำให้บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาครั้งใหญ่ ที่ทำให้บริษัทเกือบล้มละลาย
เนื่องจากมีการรายงานว่า พบเด็กต้องเข้าโรงพยาบาล จากการพยายามอมและกลืน Mighty Beanz ซึ่งสารเคมีใน Mighty Beanz เมื่อสัมผัสกับน้ำลาย จะเปลี่ยนเป็นสารอันตรายต่อร่างกาย
เรื่องนี้ทำให้ Moose Toys ต้องเรียกคืนสินค้าทั้งหมดกว่า 40 ล้านชิ้น
รัฐบาลจีนสั่งห้ามนำเข้าหรือขายสินค้าของ Moose Toys ทุกชนิด
และ Moose Toys ถูกฟ้องร้องหลายคดี สร้างความเสียหายให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก
เหตุการณ์ในครั้งนั้นกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ของบริษัท ชื่อเสียงที่สร้างมา กำลังจะถูกทำลายลงไปในทันตา
หลายคนคิดว่า Moose Toys ต้องล้มละลายแน่ ๆ แต่ Manny ไม่คิดแบบนั้น โดยเขาได้หันไปปรึกษากับทนายความที่มีชื่อว่า Leon Zwier
ซึ่งนอกจากทนาย Leon Zwier จะให้คำแนะนำและช่วยดูแลเรื่องข้อกฎหมายแล้ว
เขายังแนะนำให้ Manny เดินทางไปงานรวมของเล่นที่ฮ่องกง เพื่อไปเชื่อมสัมพันธ์ สร้างคอนเน็กชันทางธุรกิจ กับกลุ่มธุรกิจร้านจัดจำหน่ายรายใหญ่ เพื่อหาตลาดใหม่ให้กับ Moose Toys
Manny เริ่มเดินหน้าหาคู่ค้าและคอนเน็กชันให้กับบริษัท Moose Toys โดยเริ่มต้นจากการอธิบายให้คู่เจรจาทุกคนเข้าใจ ว่าธุรกิจของเขากำลังเจอปัญหาอะไรอยู่ อย่างตรงไปตรงมา
จากนั้นเขาก็ยื่นข้อเสนอที่ดึงดูดใจคู่เจรจา เช่น จะมอบส่วนลดพิเศษให้เป็นระยะเวลาหนึ่ง หากตกลงเป็นคู่ค้ากับ Moose Toys
ซึ่งกลยุทธ์ในครั้งนั้นก็ประสบความสำเร็จ มีผู้จัดจำหน่ายมากกว่า 30 ราย จากหลายประเทศ ตกลงเป็นคู่ค้ากับ Moose Toys
หลังจากการเจรจาทางธุรกิจสำเร็จไปได้ด้วยดี Manny ก็เดินทางกลับมาออสเตรเลีย เพื่อมาชี้แจงต่อหน่วยงานด้านสุขภาพ ว่าของเล่นจาก Moose Toys นั้นมีความปลอดภัย
Manny ถึงกับเอาตัวเองเป็นการรับประกัน โดยเขาได้บอกว่า หากยังตรวจพบสารอันตรายในของเล่นจาก Moose Toys ให้ฟ้องเอาผิดเขาในคดีอาญาได้เลย
หลังจากนั้นมา ความเชื่อมั่นของบริษัทก็ค่อย ๆ ฟื้นกลับมา บริษัทมีตลาดใหม่ ๆ ในหลายประเทศเพิ่มขึ้นมา และยอดขายของบริษัทก็เริ่มกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อีกครั้ง
สรุปภาพรวมแล้ว ภายใต้การบริหารของ Manny Stul ในช่วงเวลา 15 ปี ตั้งแต่ปี 2000-2015 ยอดขายของ Moose Toys เติบโตจาก 134 ล้านบาท เป็น 9,600 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 7,000%
ซึ่งนั่นทำให้เขา ได้รับรางวัล Ernst & Young Entrepreneur of the Year for Australia ในปี 2016 อีกด้วย
ในปัจจุบัน Manny Stul ถูกประเมินโดย Forbes
ว่ามีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ประมาณ 33,000 ล้านบาท
และกลายมาเป็น หนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด ในออสเตรเลีย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.theaustralian.com.au/weekend-australian-magazine/how-manny-stul-created-the-moose-toys-empire/news-story/76d05b78b7f2a1bb4bbc90cb14a4ff50
-https://www.afr.com/life-and-luxury/how-manny-stul-overcame-disaster-to-save-moose-toys-20160422-gocvr0
-https://www.linkedin.com/pulse/from-toy-year-near-bankruptcy-rebounding-top-global-company-hall
-https://www.youtube.com/watch?v=wjxgQM5Yohc
-https://www.forbes.com/profile/manny-stul/?sh=549dd9bd1bf0

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon