กรณีศึกษา เฮงลิสซิ่ง ทำอย่างไร ถึงเติบโตเร็ว จนเตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
กรณีศึกษา เฮงลิสซิ่ง ทำอย่างไร ถึงเติบโตเร็ว จนเตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
HENG X ลงทุนแมน
HENG X ลงทุนแมน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกลุ่มธุรกิจหนึ่งที่กำลังโตระเบิด
กลุ่มธุรกิจนั้นก็คือ “สินเชื่อที่มีหลักประกัน” ในกลุ่มบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ Non Bank
กลุ่มธุรกิจนั้นก็คือ “สินเชื่อที่มีหลักประกัน” ในกลุ่มบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หรือ Non Bank
เหตุผลก็คือ มีคนไทยกว่า 60% ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้
โดยสินเชื่อที่มีหลักประกันที่ได้รับความนิยมสูงก็มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ
โดยสินเชื่อที่มีหลักประกันที่ได้รับความนิยมสูงก็มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ
(1) “สินเชื่อเช่าซื้อ” เป็นสินเชื่อสำหรับคนต้องการรถยนต์แต่ไม่มีเงินสด
และไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินรายใหญ่ได้ ก็เลยต้องพึ่งพาบริษัท Non Bank ในการซื้อ
โดยผู้ซื้อสามารถใช้รถได้ปกติ แต่กรรมสิทธิ์รถจะยังอยู่กับบริษัท Non Bank ผู้ที่ให้สินเชื่อ
จนกว่าเราจะผ่อนชำระค่างวดหมดนั่นเอง
และไม่สามารถเข้าถึงสถาบันการเงินรายใหญ่ได้ ก็เลยต้องพึ่งพาบริษัท Non Bank ในการซื้อ
โดยผู้ซื้อสามารถใช้รถได้ปกติ แต่กรรมสิทธิ์รถจะยังอยู่กับบริษัท Non Bank ผู้ที่ให้สินเชื่อ
จนกว่าเราจะผ่อนชำระค่างวดหมดนั่นเอง
(2) “สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ” ถ้าใครมีรถยนต์แต่ต้องการเงินสดแบบด่วน ๆ
ก็สามารถนำเอาทะเบียนรถไปจำนำกับบริษัท Non Bank เพื่อให้ได้เงินก้อน
โดยยังสามารถนำรถไปใช้งานได้ และยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถอยู่เหมือนเดิม
ก็สามารถนำเอาทะเบียนรถไปจำนำกับบริษัท Non Bank เพื่อให้ได้เงินก้อน
โดยยังสามารถนำรถไปใช้งานได้ และยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถอยู่เหมือนเดิม
(3) สินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกัน เช่น หากเราต้องการเงินสด
ก็สามารถเอาโฉนดที่ดินเป็นหลักค้ำประกันในการขอสินเชื่อ
ก็สามารถเอาโฉนดที่ดินเป็นหลักค้ำประกันในการขอสินเชื่อ
และเมื่อสินเชื่อที่มีหลักประกันมีความต้องการตลาดสูง
สิ่งที่ตามมาก็คือ ได้เกิดบริษัท ที่ให้บริการ “สินเชื่อที่มีหลักประกัน” ขึ้นมามากมาย
เพียงแต่บริษัทใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีสักกี่บริษัทที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
สิ่งที่ตามมาก็คือ ได้เกิดบริษัท ที่ให้บริการ “สินเชื่อที่มีหลักประกัน” ขึ้นมามากมาย
เพียงแต่บริษัทใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีสักกี่บริษัทที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
บริษัทที่ลงทุนแมนกำลังพูดถึงก็คือ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (“เฮงลิสซิ่ง”)
ที่มีสาขาถึง 402 แห่งทั่วประเทศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564
และมีการปล่อยสินเชื่อรวมกัน 8,276 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
ที่มีสาขาถึง 402 แห่งทั่วประเทศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564
และมีการปล่อยสินเชื่อรวมกัน 8,276 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดก็คือ บริษัทแห่งนี้กำลังเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อหุ้นว่า HENG
จำนวนไม่เกิน 800,837,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก โดยใช้ชื่อหุ้นว่า HENG
จำนวนไม่เกิน 800,837,300 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ที่น่าสนใจคือ แม้เราจะรู้จักเฮงลิสซิ่งในภาพของบริษัทที่ทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อที่มีหลักประกัน
แต่รู้หรือไม่ว่า บริษัทแห่งนี้ยังมีธุรกิจสินเชื่อประเภทอื่น ๆ อีก ทั้งสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ที่ให้บริการลูกค้าทั่วไปที่มีรายได้สม่ำเสมอ รวมถึงมีเอกสารรับรองรายได้ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ที่ให้บริการลูกค้ารายย่อยทั่วไป ที่มีความต้องการนำเงินไปใช้เพื่อประกอบอาชีพ แต่ไม่มีเอกสารรับรองรายได้ รวมถึงนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ที่ครอบคลุมให้บริการผลิตภัณฑ์ ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยรถจักรยานยนต์ ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ ซึ่งช่วยตอบโจทย์ด้านการเงินแก่คนในท้องถิ่นแบบครบวงจร
แต่รู้หรือไม่ว่า บริษัทแห่งนี้ยังมีธุรกิจสินเชื่อประเภทอื่น ๆ อีก ทั้งสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ที่ให้บริการลูกค้าทั่วไปที่มีรายได้สม่ำเสมอ รวมถึงมีเอกสารรับรองรายได้ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ที่ให้บริการลูกค้ารายย่อยทั่วไป ที่มีความต้องการนำเงินไปใช้เพื่อประกอบอาชีพ แต่ไม่มีเอกสารรับรองรายได้ รวมถึงนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ที่ครอบคลุมให้บริการผลิตภัณฑ์ ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยรถจักรยานยนต์ ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ ซึ่งช่วยตอบโจทย์ด้านการเงินแก่คนในท้องถิ่นแบบครบวงจร
บริษัทแห่งนี้ดำเนินธุรกิจด้วยวิธีไหน ทำไมถึงสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
เฮงลิสซิ่งเกิดจากการร่วมทุนของ 4 กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งประกอบธุรกิจสินเชื่อในภาคเหนือ ได้แก่ กลุ่มทวีเฮง กลุ่มพัฒนสิน กลุ่มมิตรเอื้ออารีย์ และกลุ่มสินปราณี ซึ่งแต่ละกลุ่มผู้ถือหุ้นต่างมีประสบการณ์ในธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันที่แตกต่างกันในภาคเหนือ มากกว่า 20 ปี
ทีนี้ เมื่อกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีมิตรภาพ และประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรมที่มีความสามารถ มารวมตัวกันเพื่อก่อตั้งเป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ เฮงลิสซิ่ง ก็เลยนำเอาความเชี่ยวชาญของแต่ละกลุ่มผู้ถือหุ้นมาผสานรวมกันเป็นจุดแข็งทางธุรกิจ เหตุผลนี้เองที่ทำให้เฮงลิสซิ่งมีจำนวนการปล่อยสินเชื่อที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยช่วงเริ่มต้น บริษัทฯ ก็จะปล่อยสินเชื่อแบบมีหลักประกันในพื้นที่ภาคเหนือ
เพราะเป็นพื้นที่อันแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วยการมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในแต่ละท้องถิ่น
จากนั้นไม่นานนัก ก็ขยายสาขาไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมกับให้บริการสินเชื่อประเภทใหม่ ๆ
ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายความต้องการ และยังคงจุดแข็งเรื่องสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในท้องถิ่น
เพราะเป็นพื้นที่อันแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วยการมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในแต่ละท้องถิ่น
จากนั้นไม่นานนัก ก็ขยายสาขาไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมกับให้บริการสินเชื่อประเภทใหม่ ๆ
ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายความต้องการ และยังคงจุดแข็งเรื่องสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในท้องถิ่น
ตรงนี้เอง ที่ทำให้ฐานลูกค้าที่ขอสินเชื่อกับทางบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2561 ฐานลูกค้ามีมูลค่าสินเชื่อรวมกัน 7,617 ล้านบาท
ในปี 2563 ฐานลูกค้ามีมูลค่าสินเชื่อรวมกัน 8,276 ล้านบาท
ในปี 2563 ฐานลูกค้ามีมูลค่าสินเชื่อรวมกัน 8,276 ล้านบาท
ระยะเวลา 2 ปีมูลค่าสินเชื่อเติบโต 8.65% โดยธุรกิจที่มีฐานลูกค้าใหญ่เป็นอันดับ 1
ก็คือธุรกิจ “สินเชื่อเช่าซื้อ” โดยคิดเป็น 65% จากมูลค่าการปล่อยสินเชื่อทั้งหมด
รองลงมาก็คือสินเชื่อจำนำทะเบียนรถคิดเป็น 23%
ก็คือธุรกิจ “สินเชื่อเช่าซื้อ” โดยคิดเป็น 65% จากมูลค่าการปล่อยสินเชื่อทั้งหมด
รองลงมาก็คือสินเชื่อจำนำทะเบียนรถคิดเป็น 23%
พอเป็นแบบนี้ก็ย่อมส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในปี 2561 มีรายได้ 1,238 ล้านบาท กำไรสุทธิ 151 ล้านบาท
ในปี 2563 มีรายได้ 1,450 ล้านบาท กำไรสุทธิ 318 ล้านบาท
ในปี 2561 มีรายได้ 1,238 ล้านบาท กำไรสุทธิ 151 ล้านบาท
ในปี 2563 มีรายได้ 1,450 ล้านบาท กำไรสุทธิ 318 ล้านบาท
ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าตลาดสินเชื่อที่มีหลักประกัน
เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง มีทั้งกลุ่มธนาคาร จนถึงกลุ่ม Non-Bank ต่างเปิดเกมแย่งชิงลูกค้าอย่างไม่มีใครยอมใคร
ซึ่งการจะเติบโตแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง มีทั้งกลุ่มธนาคาร จนถึงกลุ่ม Non-Bank ต่างเปิดเกมแย่งชิงลูกค้าอย่างไม่มีใครยอมใคร
ซึ่งการจะเติบโตแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
คำถามก็คือแล้ว เฮงลิสซิ่งใช้วิธีไหนสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทตัวเอง
ก็ต้องมาดูกันว่า “จุดแข็ง” ที่บริษัทอื่น ๆ ไม่มี แต่เฮงลิสซิ่งมี มันคืออะไร
คำตอบก็คือ ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งจากความสัมพันธ์ที่ดีของผู้บริหารระดับสูงจนถึงพนักงานในแต่ละสาขา
กับคนในแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งพันธมิตรเครือข่ายผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสอง และนายหน้ามากกว่า 5,100 ราย ทำให้เข้าใจในความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
ก็ต้องมาดูกันว่า “จุดแข็ง” ที่บริษัทอื่น ๆ ไม่มี แต่เฮงลิสซิ่งมี มันคืออะไร
คำตอบก็คือ ฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งจากความสัมพันธ์ที่ดีของผู้บริหารระดับสูงจนถึงพนักงานในแต่ละสาขา
กับคนในแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งพันธมิตรเครือข่ายผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสอง และนายหน้ามากกว่า 5,100 ราย ทำให้เข้าใจในความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เลยทำให้เฮงลิสซิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกค้าที่ขอสินเชื่อที่มีหลักประกัน
คือต้องการ “อนุมัติง่าย ได้เงินไว” และ “รู้จริง รู้ใจ”
ก็เลยทำให้จุดเด่นของสินเชื่อที่มีหลักประกันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกันจะอยู่บนพื้นฐานแนวคิดนี้
คือต้องการ “อนุมัติง่าย ได้เงินไว” และ “รู้จริง รู้ใจ”
ก็เลยทำให้จุดเด่นของสินเชื่อที่มีหลักประกันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อที่มีบ้านและที่ดินเป็นหลักประกันจะอยู่บนพื้นฐานแนวคิดนี้
เช่น สมมติว่าเราไม่มีเอกสารหลักฐานทางการเงิน แต่มีงานทำที่แน่นอน บริษัทฯ ก็จะลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อพิจารณาทำเรื่องอนุมัติเงินกู้ให้เรา
หรือหากเรามีบ้าน มีที่ดิน แต่เดือดร้อนเรื่องเงินก็สามารถทำเรื่องกู้สินเชื่อกับทางบริษัทฯ ได้ โดยนำหลักทรัพย์นั้นมาใช้ค้ำประกันการกู้เงิน
หรือหากเรามีบ้าน มีที่ดิน แต่เดือดร้อนเรื่องเงินก็สามารถทำเรื่องกู้สินเชื่อกับทางบริษัทฯ ได้ โดยนำหลักทรัพย์นั้นมาใช้ค้ำประกันการกู้เงิน
และไม่ว่าจะกู้สินเชื่อแบบไหน ขั้นตอนก็จะง่ายไม่ยุ่งยาก รู้ผลอนุมัติรวดเร็ว
แล้วรับเงินก้อนในทันที เพื่อให้ลูกค้าไปแก้ปัญหาทั้งด้านหนี้สินและการทำธุรกิจได้ทันเวลา
และนี่เองที่ทำให้เฮงลิสซิ่งกลายเป็นบริษัทที่ชนะใจคนในแต่ละท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จะเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ
แต่เฮงลิสซิ่งก็ไม่ได้ยึดติดแค่ธุรกิจเดียว เพราะรู้หรือไม่ว่าบริษัทแห่งนี้มีถึง 3 ธุรกิจหลัก ๆ
แล้วรับเงินก้อนในทันที เพื่อให้ลูกค้าไปแก้ปัญหาทั้งด้านหนี้สินและการทำธุรกิจได้ทันเวลา
และนี่เองที่ทำให้เฮงลิสซิ่งกลายเป็นบริษัทที่ชนะใจคนในแต่ละท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม แม้ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ จะเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ
แต่เฮงลิสซิ่งก็ไม่ได้ยึดติดแค่ธุรกิจเดียว เพราะรู้หรือไม่ว่าบริษัทแห่งนี้มีถึง 3 ธุรกิจหลัก ๆ
(1) ธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน อย่างเช่น สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อที่มีบ้านและที่ดิน เป็นหลักประกัน
(2) สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน แต่มีรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป
(3) นายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต
ซึ่งการเดินทางเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ เป้าหมายของบริษัทฯ แห่งนี้ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว
รู้หรือไม่ว่า ภายในปี 2566 บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายสาขาถึง 830 สาขาทั่วประเทศ
พร้อมกับมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อมากถึง 13,000 ล้านบาท
และหากทำสำเร็จก็จะทำให้เฮงลิสซิ่งกลายเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการการเงินแถวหน้าของเมืองไทย
(2) สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน เช่น สินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน แต่มีรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป
(3) นายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต
ซึ่งการเดินทางเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ เป้าหมายของบริษัทฯ แห่งนี้ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว
รู้หรือไม่ว่า ภายในปี 2566 บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายสาขาถึง 830 สาขาทั่วประเทศ
พร้อมกับมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อมากถึง 13,000 ล้านบาท
และหากทำสำเร็จก็จะทำให้เฮงลิสซิ่งกลายเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการการเงินแถวหน้าของเมืองไทย
ซึ่งนั่นแปลว่า เงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
เฮงลิสซิ่งก็จะนำไปขยายธุรกิจให้บริการสินเชื่อและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงขยายสาขาและลงทุนด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ
อีกส่วนหนึ่งจะนำไปชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
เฮงลิสซิ่งก็จะนำไปขยายธุรกิจให้บริการสินเชื่อและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงขยายสาขาและลงทุนด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ
อีกส่วนหนึ่งจะนำไปชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
ถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่าธุรกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จนล่าสุดคือเตรียมโลดแล่นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ความสำเร็จตรงนี้ก็น่าจะมาจากบริษัทฯ ที่เข้าใจว่าลูกค้าตัวเองต้องการอะไร ?
และเมื่อเข้าใจแล้วก็สร้างสินค้าและบริการที่ลูกค้ารู้สึกว่า
สินค้าและบริการนี้เกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตการเงินของเขาอย่างแท้จริง
เป็นวิธีคิดในการทำธุรกิจของเฮงลิสซิ่งเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นบริษัทการเงินที่เติบโตอย่างยั่งยืน…
ความสำเร็จตรงนี้ก็น่าจะมาจากบริษัทฯ ที่เข้าใจว่าลูกค้าตัวเองต้องการอะไร ?
และเมื่อเข้าใจแล้วก็สร้างสินค้าและบริการที่ลูกค้ารู้สึกว่า
สินค้าและบริการนี้เกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิตการเงินของเขาอย่างแท้จริง
เป็นวิธีคิดในการทำธุรกิจของเฮงลิสซิ่งเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นบริษัทการเงินที่เติบโตอย่างยั่งยืน…
References:
-https://www.thansettakij.com/tech/454218
-แบบแสดงรายการข้อมูล Filing เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) จากเว็บไซต์ สำนักงาน ก.ล.ต.
-https://www.thansettakij.com/tech/454218
-แบบแสดงรายการข้อมูล Filing เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) จากเว็บไซต์ สำนักงาน ก.ล.ต.