'หุ้นกู้ CP ALL' ทางเลือกการลงทุนที่มั่นคงในยุคเศรษฐกิจผันผวน
'หุ้นกู้ CP ALL' ทางเลือกการลงทุนที่มั่นคงในยุคเศรษฐกิจผันผวน
CP ALL x ลงทุนแมน
CP ALL x ลงทุนแมน
ในวันที่ธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
กิจการที่มีความมั่นคง ยั่งยืน และมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนมองหา
ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ ซึ่งให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์
โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากประจำ แต่ไม่นิยมการลงทุนในระดับความเสี่ยงที่สูงนัก
กิจการที่มีความมั่นคง ยั่งยืน และมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนต่อเนื่อง จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนมองหา
ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ ซึ่งให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์
โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากประจำ แต่ไม่นิยมการลงทุนในระดับความเสี่ยงที่สูงนัก
เร็ว ๆ นี้ บมจ.ซีพี ออลล์ (CP ALL) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจให้กับนักลงทุน
แล้วหุ้นกู้ที่ CP ALL กำลังจะเสนอขายครั้งนี้ คือหุ้นกู้ประเภทไหน ?
แล้วหุ้นกู้ที่ CP ALL กำลังจะเสนอขายครั้งนี้ คือหุ้นกู้ประเภทไหน ?
หุ้นกู้ CP ALL เป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด แก่ผู้ลงทุนทั่วไป
ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00 – 3.90% ต่อปี ประกอบด้วย
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2574 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี
- หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2574 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% ต่อปี
กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน ในวันที่ 16 มิถุนายน และวันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปีตลอดอายุหุ้นกู้
โดยหุ้นกู้ CP ALL ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A+” และแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” หรือ “Stable” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงจัดอยู่ในประเภท Investment Grade หรือหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทที่มีความมั่นคง ผลประกอบการดี และอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ CP ALL ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ดีควรศึกษาและทำความเข้าใจธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ
CP ALL ประกอบธุรกิจหลักในการบริหารร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึง 7-Delivery
โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวม (Market Cap) ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวม (Market Cap) ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ CP ALL ยังให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG (Environmental Social and Governance)
หรือการทำธุรกิจควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งเป็นเทรนด์ธุรกิจที่ทวีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ
หรือการทำธุรกิจควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งเป็นเทรนด์ธุรกิจที่ทวีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดย CP ALL ได้กำหนดแนวทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไว้ 4 แนวทาง ภายใต้นโยบาย 7 GO Green
ไม่ว่าจะเป็น
ไม่ว่าจะเป็น
Green Building: การออกแบบและบริหารจัดการร้านอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมการปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ภายใต้กลยุทธ์ “ร้านเพื่อสิ่งแวดล้อม”
Green Store: โครงการด้านการจัดการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มุ่งหวังในการลดปริมาณขยะพลาสติก ผ่านแนวคิด “ลด และ ทดแทน”
Green Logistic: ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินงานด้านการขนส่งและการกระจายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการจัดการพลังงานผ่านโครงการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งและออกแบบศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใต้กลยุทธ์ “โลจิสติกส์เพื่อสิ่งแวดล้อม”
และ Green Living คือการปลูกจิตสำนึกเพื่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านการจัดการปัญหาพลาสติกของประเทศไทย หรือ Plastic Champion ภายในปี 2573 อาทิ โครงการ “รวมพลังคนไทย เลิกใช้ถุงพลาสติก” เป็นต้น
ทีนี้ ลองมาดูกันว่าผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ CP ALL เป็นอย่างไร ?
ปี 2561 รายได้รวม 527,174 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21,183 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้รวม 571,110 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22,694 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้รวม 546,590 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16,503 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้รวม 571,110 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22,694 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้รวม 546,590 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16,503 ล้านบาท
และในไตรมาสแรกของปี 2564 มีรายได้รวม 133,372 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,709 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 60 มาจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ปัจจุบันให้บริการกว่า 12,587 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2564)
โดยสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 60 มาจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ปัจจุบันให้บริการกว่า 12,587 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2564)
สำหรับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ผ่านมานั้น หลายคนอาจจะสังเกตเห็นว่า
CP ALL ได้ทำการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความ New Normal มากขึ้น
CP ALL ได้ทำการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความ New Normal มากขึ้น
ด้วยกลยุทธ์แบบ O2O ที่ผสมผสานช่องทาง Omni-Channel ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ผ่านบริการ ALL Online ที่เน้นแนวคิด สะดวก ครบ จบที่เดียว
เพื่อสร้างประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค
รวมทั้งบริการ 7-Eleven Delivery ที่จัดส่งสินค้าถึงบ้าน ผ่านทางแอปพลิเคชัน
ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี
ผ่านบริการ ALL Online ที่เน้นแนวคิด สะดวก ครบ จบที่เดียว
เพื่อสร้างประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค
รวมทั้งบริการ 7-Eleven Delivery ที่จัดส่งสินค้าถึงบ้าน ผ่านทางแอปพลิเคชัน
ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบาย และตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี
ไม่เพียงการพัฒนาธุรกิจภายในประเทศ แต่ CP ALL ยังเตรียมพร้อมขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูง
โดยคาดว่าเมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น บริษัทฯ จะสามารถเปิด 7-Eleven สาขาแรกในกลุ่มประเทศดังกล่าวได้ตามแผนที่วางไว้
อย่างประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว ซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูง
โดยคาดว่าเมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น บริษัทฯ จะสามารถเปิด 7-Eleven สาขาแรกในกลุ่มประเทศดังกล่าวได้ตามแผนที่วางไว้
การออกหุ้นกู้ของ CP ALL ในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสของนักลงทุนทั่วไปที่จะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำมากในปัจจุบัน
อีกทั้งได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจการของคนไทย ในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตในตลาดระดับภูมิภาค…
อีกทั้งได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจการของคนไทย ในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตในตลาดระดับภูมิภาค…
สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจหุ้นกู้ของ บมจ. ซีพี ออลล์ สามารถสอบถามสถาบันการเงินทั้ง 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารยูโอบี บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร และบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้แล้วตั้งแต่วันนี้
คำเตือน
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
References
-ร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และหนังสือชี้ชวนของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th หรือ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=335272
-รายงานประจำปี 2563 ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
-https://www.sec.or.th/TH/Pages/Investors/education-debt-CR.aspx
-ร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และหนังสือชี้ชวนของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th หรือ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=335272
-รายงานประจำปี 2563 ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
-https://www.sec.or.th/TH/Pages/Investors/education-debt-CR.aspx