รู้จัก Exotic Food บริษัทเครื่องปรุงไทย ที่ตีตลาดต่างประเทศ

รู้จัก Exotic Food บริษัทเครื่องปรุงไทย ที่ตีตลาดต่างประเทศ /โดย ลงทุนแมน
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา กระแสกัญชง ส่งผลให้หลาย ๆ บริษัท เริ่มหันมาศึกษาเพื่อนำไปปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเองกันมากขึ้น

ซึ่งหนึ่งในบริษัทเครื่องปรุงรส ที่เริ่มปรับตัวเข้ากับเทรนด์ใหม่นี้ก็คือ
บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน)
เจ้าของแบรนด์เครื่องปรุงอย่าง Exotic Food, Thai Pride, Flying Goose และ แบรนด์น้ำมะพร้าว Coco Loto

สำหรับคนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยคุ้นกับแบรนด์นี้เท่าไรนัก
แต่สำหรับชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ อาจจะคุ้นเคยกันมาบ้าง
เพราะยอดขายของแบรนด์นี้ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมด

แล้วเรื่องราวของแบรนด์เครื่องปรุงเน้นส่งออกรายนี้ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน
สมัยที่ผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง คุณจิตติพร จันทรัช กำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันหนึ่งเขากับเพื่อนได้นัดทำอาหารไทยกัน

แต่เขากลับต้องพบว่า ร้านขายของชำหรือซูเปอร์มาร์เกตหลายแห่งในสหรัฐอเมริกานั้น แทบไม่มีซอสปรุงรสให้เขาเลือกเลย และถึงมีก็มีอยู่ไม่กี่อย่างเท่านั้น

เรื่องนี้จึงกลายเป็นเหมือนจุดตั้งต้นให้เขา อยากสร้างแบรนด์เครื่องปรุงไทย ที่นำออกไปขายยังต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยในต่างแดน รวมถึงชาวต่างชาติ ได้มีตัวเลือกมากขึ้นเมื่อคิดถึงเครื่องปรุงรสไทย

หลังจากที่คุณจิตติพร กลับมาประเทศไทย
เขาจึงได้ทดลองคิดค้นสูตรเครื่องปรุงต่าง ๆ กว่า 30 สูตร
และร่วมมือกับน้องสาว จัดตั้งบริษัทขึ้นในปี พ.ศ. 2542
โดยใช้ชื่อบริษัทว่า “Exotic Food”

ในช่วงแรก ธุรกิจของคุณจิตติพร เริ่มต้นจากการจ้างโรงงานอื่นผลิตให้
แต่เมื่อมียอดขายมากขึ้น สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง

จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่กลับกลายเป็นว่า กระแสตอบรับดีขึ้นมาก
และยิ่งอาหารไทยกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นทั่วโลกเรื่อย ๆ
ความต้องการเครื่องปรุงรสไทย ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ทำให้จากเดิมที่มีผลิตภัณฑ์อยู่ไม่กี่อย่าง
ปัจจุบัน Exotic Food มีสินค้าที่หลากหลายมากกว่า 700 รายการ

แล้ว Exotic Food มีรายได้มากแค่ไหน?

ผลประกอบการของ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จํากัด (มหาชน)

ปี 2561 รายได้รวม 1,149 ล้านบาท กำไร 222 ล้านบาท

ปี 2562 รายได้รวม 999 ล้านบาท กำไร 122 ล้านบาท

ปี 2563 รายได้รวม 1,275 ล้านบาท กำไร 318 ล้านบาท

โดยส่วนแบ่งรายได้ (ตามรายได้หลัก อ้างอิงตามรายงานประจำปี 2562) แบ่งเป็น
- ซอสปรุงรส และน้ำจิ้มต่าง ๆ 80%
- เครื่องปรุงแกง และเครื่องประกอบอาหาร 10%
- อาหารกึ่งสำเร็จรูป และอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ 7%
- รายได้อื่น ๆ 3%

ที่น่าสนใจคือ Exotic Food มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปี 2562 มากถึง 99.6%
โดยมียอดขายกว่า 80% มาจากทวีปยุโรป

จุดแข็งของสินค้าของ Exotic Food
คือการใช้ วัตถุดิบคุณภาพดีจากเกษตรกรในประเทศ
และใช้ขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล บวกกับ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย
ทำให้สินค้าสามารถดึงดูดลูกค้าชาวต่างชาติได้

สำหรับในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา
เนื่องจากวิกฤติโควิด 19 ทำให้คนหันมาทำอาหารที่บ้านกันมากขึ้น
โดยเฉพาะในทวีปยุโรปที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก
ส่งผลให้ยอดขายทั้งปีของบริษัทเติบโตขึ้น 28%

นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์อีกเรื่องที่น่าสนใจ
คือทางบริษัท กำลังเดินหน้าศึกษาการนำกัญชงเพื่อนำมาผลิตซอสปรุงรส
หลังจากที่ทางภาครัฐเพิ่งปลดล็อกไปเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ซึ่งก็ต้องมาติดตามกันต่อว่าเรื่องนี้
จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับ Exotic Food ได้อีกมากน้อยแค่ไหน

จากเรื่องนี้ก็เห็นได้ว่า ในขณะที่หลายคนอาจมองว่า ตลาดซอสในประเทศไทยนั้นเหมือนอยู่ในมหาสมุทรสีแดง มีคู่แข่งมากราย จนเหมือนจะถึงจุดอิ่มตัว

แต่โอกาสมีมาให้เราไขว่คว้าเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะสามารถมองเห็นมันหรือไม่
อย่างที่ คุณจิตติพรได้มองเห็นว่า ในตลาดต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์ซอสของไทยนั้นยังมีช่องว่างอยู่ จึงได้เข้าไปเติมเต็มในช่องว่างนี้

จนในวันนี้ ไอเดียนั้นของเขา ก็ได้กลายมาเป็น บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด
บริษัทเครื่องปรุงไทย ที่เติบโตในตลาดต่างประเทศได้..