จากรูปด้านล่าง ธุรกิจที่ใหญ่สุด 5 อันดับแรกของโลกใน 15 ปีที่ผ่านมาจะเหมือนเดิมมาตลอดซึ่งมีอยู่ 2 ธุรกิจใหญ่ คือ น้ำมัน และ ธนาคาร คล้ายกับที่ประเทศไทยเป็นอยู่ตอนนี้ บริษัทที่ใหญ่สุดในไทยคือ ปตท. และธนาคารต่างๆ

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือธุรกิจหลักของโลกได้เปลี่ยนไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรกของโลกกลับเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ดูชัดเจน และน่าจะเปลี่ยนไปแบบถาวร

การเปลี่ยนผ่านธุรกิจเริ่มมาจาก
อันดับ 1 Apple ตั้งแต่ปี 2007 ที่ไอโฟนเครื่องแรกได้ออกมาก็เป็นต้นกำเนิดของการเปลี่ยนแปลงโลกยุคใหม่ ที่คนสามารถใช้มือถือทำอะไรก็ได้ ตั้งแต่เป็น แผนที่ กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ หาข้อมูล ฟังเพลง ดูทีวี ช้อปปิ้ง

อันดับ 2 Alphabet ได้ประโยชน์จากพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนมาใช้มือถือ ทำให้คนหาข้อมูลใน google ได้บ่อยขึ้นทุกที่ทุกเวลา และธุรกิจที่มาแรงที่สุดในตอนนี้คือ Youtube ค่าโฆษณาที่เป็นวิดีโอมีราคาดีกว่าค่าโฆษณาจากการค้นหามาก ไม่น่าเชื่อว่า Youtube จะมีต้นกำเนิดมาจากเวปไซต์หาคู่

อันดับ 3 Microsoft โปรแกรมที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก จนถึงตอนนี้ทุกคนก็ยังใช้อยู่ windows และ excel เป็นโปรแกรมที่ทุกบริษัทขาดไม่ได้ ต้องมีให้พนักงานใช้

อันดับ 4 Amazon หลายคนคงได้ยินเรื่องการซื้อสินค้าออนไลน์ของ Amazon แต่ธุรกิจที่มีกำไรดีมากๆของ Amazon คือ ธุรกิจ Cloud

อันดับ 5 Facebook ด้วยความได้เปรียบของผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก 4,700 ล้านคน จาก Facebook, Instagram, WhatsApp, Messenger และตอนนี้ Facebook เลือกที่จะรุกตลาดวิดีโอของ Youtube

ถ้าถามว่าประเทศไทยยังตามหลังอเมริกา 15 ปี จึงยังไม่มีบริษัทแบบนี้ในไทยใช่หรือไม่ และในอนาคตบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยจะเป็นบริษัทเทคโนโลยีหรือไม่

ถ้าพิจารณาจากรอบตัวเราที่มีแต่คนก้มหน้าเล่นมือถือ และจากตัวเลขที่ว่ากรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนใช้ Facebook มากที่สุดในโลก คงต้องยอมรับว่าสังคมประเทศไทยเป็นสังคมดิจิตอลแบบอเมริกาไปแล้ว ไม่ใช่ตามหลัง

และบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในตอนนี้จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่บริษัทสัญชาติไทยอีกต่อไป.. แต่จะกลายเป็นบริษัท Apple Google Facebook สาขาประเทศไทยแทน

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น

เพราะธุรกิจเทคโนโลยีเป็นธุรกิจที่สามารถขยายได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนการขยายธุรกิจพลังงานหรือ ธนาคาร แบบเก่าที่ต้องอาศัยคนท้องถิ่น

และบริษัทไทยยังไม่เก่งพอเหมือนญี่ปุ่นเกาหลีที่สามารถพัฒนา App เป็นของตัวเอง ส่วนประเทศจีนยังมีรัฐบาลช่วยสั่งปิด App ต่างประเทศ และให้ใช้แต่ App ของบริษัทจีนเท่านั้น

ตอนนี้คนไทยยังสนุกสนานกับสังคมยุคใหม่ และยังไม่รู้สึกตัวว่าธุรกิจที่เป็นอนาคตกำลังโดนอเมริกา "กินรวบ" อยู่

แต่ผมเดาว่าถึงคนไทยรู้สึกตัวก็คงไม่ว่าอะไร เพราะบริษัทเหล่านี้ทำให้คุณภาพชีวิตคนไทยดีขึ้น สะดวกกว่าเดิม และ "ขาดมันไม่ได้แล้ว"

ลอกนึกภาพถึงวันที่รัฐบาลไทยสั่งปิด LINE Google Facebook แล้วบังคับให้คนไทยใช้ App ที่มาจากบริษัทไทยเท่านั้น

วันนั้นคนไทยจะเป็นอย่างไร