รู้จัก Alaska รัฐที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา
รู้จัก Alaska รัฐที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา /โดย ลงทุนแมน
รัฐ California คือ รัฐที่มีมูลค่าเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โดยมีมูลค่า GDP ประมาณ 98.7 ล้านล้านบาท
โดยมีมูลค่า GDP ประมาณ 98.7 ล้านล้านบาท
แต่ถ้าถามว่า แล้วรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา คือ รัฐไหน หลายคนอาจนึกไม่ออก
แต่คำตอบก็คือ รัฐ Alaska
แต่คำตอบก็คือ รัฐ Alaska
รู้ไหมว่า รัฐ Alaska อดีตนั้นเคยเป็นดินแดนของรัสเซีย ก่อนที่จะถูกขายต่อให้สหรัฐอเมริกาด้วยเงินเพียง 7.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสมัยนั้น
ในตอนนั้นไม่มีใครคิดว่า รัฐที่มีอากาศหนาวเย็นและปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งจำนวนมากอย่าง Alaska กลับซ่อนทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ไว้มากมาย
และถือว่าเป็นดีลที่สุดคุ้มสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
สัมผัสเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากสตาร์ตอัปไทย
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Alaska เป็น 1 ใน 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่น่าสนใจคือ แม้จะเป็นรัฐที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐอเมริกา แต่ที่นี่กลับไม่มีดินแดนที่ติดกับสหรัฐอเมริกาเลย โดยไปมีพรมแดนติดกับแคนาดาแทน
และถือว่าเป็นดีลที่สุดคุ้มสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
สัมผัสเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากสตาร์ตอัปไทย
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Alaska เป็น 1 ใน 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่น่าสนใจคือ แม้จะเป็นรัฐที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐอเมริกา แต่ที่นี่กลับไม่มีดินแดนที่ติดกับสหรัฐอเมริกาเลย โดยไปมีพรมแดนติดกับแคนาดาแทน
ปัจจุบัน Alaska มีจำนวนประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 710,000 คน และมีมูลค่า GDP เท่ากับ 1.73 ล้านล้านบาท อยู่อันดับที่ 48 ของสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนประชากรที่น้อย ทำให้รายได้ต่อหัวของประชากรที่รัฐ Alaska สูงถึง 2.35 ล้านบาทต่อคน สูงเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศ
และที่สำคัญก็คือ ในบรรดา 50 รัฐของสหรัฐอเมริกานั้น Alaska เป็นรัฐที่มีพื้นที่มากที่สุด โดยมีพื้นที่ถึง 1.72 ล้านตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่ารัฐ Texas ซึ่งเป็นรัฐที่มีพื้นที่เป็นอันดับที่ 2 กว่า 2 เท่า และใหญ่กว่าประเทศไทยกว่า 3 เท่า
ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาล ที่นี่จึงอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซ ทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซที่นี่สร้างรายได้กว่า 80% แก่รัฐ Alaska
นอกจากอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของรัฐ Alaska อุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของที่นี่ยังรวมไปถึง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงามทั้ง ธารน้ำแข็ง ภูเขา สัตว์ป่า ต้นไม้ และชายทะเล โดยเฉพาะในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายนที่อุณหภูมิเริ่มอุ่น ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่จำนวนมาก
ปี 2010 จำนวนนักท่องเที่ยวที่มา Alaska 1.5 ล้านคน
ปี 2019 จำนวนนักท่องเที่ยวที่มา Alaska 2.3 ล้านคน
ปี 2019 จำนวนนักท่องเที่ยวที่มา Alaska 2.3 ล้านคน
ขณะที่ประมาณ 10% ของแรงงานทั้งหมดที่นี่จะทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยในปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของ Alaska สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 139,000 ล้านบาท
บางคนอาจยังไม่รู้ว่า
ในอดีตนั้นรัฐ Alaska เคยเป็นของรัสเซียมาก่อน
เนื่องจากในช่วงศตวรรษที่ 18 นั้น รัสเซียเป็นชาวยุโรปชาติแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในรัฐ Alaska ซึ่งกิจกรรมหลักของรัสเซียในช่วงแรกนั้นก็คือ การค้าขนสัตว์ และสอนศาสนา
ในอดีตนั้นรัฐ Alaska เคยเป็นของรัสเซียมาก่อน
เนื่องจากในช่วงศตวรรษที่ 18 นั้น รัสเซียเป็นชาวยุโรปชาติแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในรัฐ Alaska ซึ่งกิจกรรมหลักของรัสเซียในช่วงแรกนั้นก็คือ การค้าขนสัตว์ และสอนศาสนา
ต่อมาในช่วงระหว่างปี 1853-1856 ได้เกิดสงครามไครเมีย ซึ่งเป็นการสู้รบกันระหว่างจักรวรรดิรัสเซียกับพันธมิตรซึ่งประกอบไปด้วยจักรวรรดิฝรั่งเศส จักรวรรดิอังกฤษ จักรวรรดิออตโตมัน (ปัจจุบันคือ ตุรกี) และราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย (ปัจจุบันคือ อิตาลี)
ซึ่งสุดท้ายแล้วจักรวรรดิรัสเซียพ่ายแพ้สงคราม
หลังสงคราม สถานะทางการเงินของรัสเซียย่ำแย่ และมีความเสี่ยงสูงที่ดินแดน Alaska จะถูกอังกฤษซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัสเซียยึดดินแดนในเวลานั้น
หลังสงคราม สถานะทางการเงินของรัสเซียย่ำแย่ และมีความเสี่ยงสูงที่ดินแดน Alaska จะถูกอังกฤษซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัสเซียยึดดินแดนในเวลานั้น
ดังนั้นการขายดินแดน Alaska ให้สหรัฐอเมริกาก็เหมือนได้ทั้งเงิน และให้ Alaska เป็นรัฐกันชนให้กับรัสเซีย
ซึ่งตอนนั้นมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการซื้อ Alaska ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น
โดยฝ่ายที่เห็นด้วยมองว่า การซื้อรัฐ Alaska จะช่วยสนับสนุนการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและทวีปเอเชียมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยขยายอำนาจของสหรัฐอเมริกามายังทวีปเอเชียด้วย
ขณะที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยกลับโจมตีรัฐบาลว่า ใช้เงินไปโดยเปล่าประโยชน์กับดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ซึ่งรัฐ Alaska ถูกมองว่าเป็นดินแดนที่แทบไม่มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นเลย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในปี 2018 ปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่รัฐ Alaska ซึ่งประเมินโดยหน่วยงานด้านพลังงานของประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนถึง 2,421 ล้านบาร์เรล ซึ่งถ้า Alaska เป็นประเทศ ที่นี่จะมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองเป็นอันดับที่ 33 ของโลก ใกล้เคียงกับสหราชอาณาจักรที่มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองเท่ากับ 2,500 ล้านบาร์เรล
ในปี 2018 ปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่รัฐ Alaska ซึ่งประเมินโดยหน่วยงานด้านพลังงานของประเทศสหรัฐอเมริกา มีจำนวนถึง 2,421 ล้านบาร์เรล ซึ่งถ้า Alaska เป็นประเทศ ที่นี่จะมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองเป็นอันดับที่ 33 ของโลก ใกล้เคียงกับสหราชอาณาจักรที่มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองเท่ากับ 2,500 ล้านบาร์เรล
ซึ่งด้วยราคาน้ำมันดิบ ณ ปัจจุบัน ทำให้มูลค่าปริมาณน้ำมันดิบสำรองของ Alaska จะสูงถึง 3.2 ล้านล้านบาท มากกว่ามูลค่า GDP ของที่นี่เกือบเท่าตัว..
----------------------
สัมผัสเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากสตาร์ตอัปไทย
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_U.S._states_and_territories_by_area
-https://en.wikipedia.org/wiki/United_States
- https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_states_and_territories_of_the_United_States_by_GDP
-https://www.eia.gov/dnav/pet/PET_CRD_PRES_DCU_SAK_A.htm
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_proven_oil_reserves
-https://en.wikipedia.org/wiki/Climate_of_Alaska
-https://guides.loc.gov/alaska-treaty
-https://en.wikipedia.org/wiki/Alaska_Purchase
-https://en.wikipedia.org/wiki/Crimean_War
----------------------
สัมผัสเทคโนโลยีรูปแบบใหม่จากสตาร์ตอัปไทย
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_U.S._states_and_territories_by_area
-https://en.wikipedia.org/wiki/United_States
- https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_states_and_territories_of_the_United_States_by_GDP
-https://www.eia.gov/dnav/pet/PET_CRD_PRES_DCU_SAK_A.htm
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_proven_oil_reserves
-https://en.wikipedia.org/wiki/Climate_of_Alaska
-https://guides.loc.gov/alaska-treaty
-https://en.wikipedia.org/wiki/Alaska_Purchase
-https://en.wikipedia.org/wiki/Crimean_War