<ผู้สนับสนุน>
คุณพีระพงศ์ จรูญเอก CEO บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กับ A Perfect Living Platform ครั้งแรก ของแนวคิด ‘’รูปแบบที่อยู่อาศัยใหม่’’ ที่ไม่เคยมีใครคิด ทำมาก่อน / โดย ลงทุนแมน

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
เพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 9 ปี
แต่ตอนนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์
เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่
CEO ของบริษัท มีวิสัยทัศน์อย่างไร
กว่าจะมาเป็น A Perfect Living Platform ในทุกวันนี้?

ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง

คุณโด่ง พีระพงศ์ จรูญเอก CEO ของบริษัท ออริจิ้น จบวิศวกรรมโยธา จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นและ ได้เข้าทำงานในบริษัทที่เคยฝึกงาน

คุณโด่งทำงานจนได้รับมอบหมายงานใหญ่เป็นงานก่อสร้างในมหาวิทยาลัยที่มีมูลค่าสูงถึง 400 ล้านบาท

และก็ทำได้เป็นอย่างดี จนทำให้งานนี้กลายเป็นโครงการที่ทำให้บริษัทได้กำไรมากที่สุด

และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางชีวิตในวงการอสังหาฯของคุณโด่ง

คุณโด่ง ได้พัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ โดยไปเรียนต่อปริญญาโท สาขาวิศวกรรม ที่ประเทศออสเตรเลีย และก็ได้กลับมาทำงานบริหารโครงการอีกครั้ง

แต่การกลับมาในครั้งนี้ คุณโด่งเลือกที่จะทำงานอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เพราะด้วยความรู้ที่มี ทำให้เขาอยากลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่มีความท้าทายมากขึ้น

คุณโด่งจึงเริ่มลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นครั้งแรก ด้วยการสร้างอพาร์ตเมนต์ให้เช่าบริเวณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

เพราะการปล่อยเช่าอพาร์ตเมนต์ในช่วงนั้นนั้นเป็นช่วงขาลง เนื่องจากคนส่วนใหญ่เริ่มที่จะไปซื้อคอนโดและผ่อนกับธนาคารแทน แทนที่จะเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่

จึงเป็นเหตุที่ทำให้คุณโด่งตัดสินใจขายอพาร์ตเมนต์นั้น และนำเงินไปพัฒนาที่แปลงอื่นแทน

จากประสบการณ์นี้เองคุณโด่งได้เก็บเกี่ยวและพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ และทำให้คุณโด่งได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว

ปี 2552 คุณโด่งและคุณอารดา จรูญเอก (ภรรยา) ได้จัดตั้งบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

โครงการแรกของบริษัท ออริจิ้น คือ “Sense of London Sukhumvit 109”

โครงการนี้เป็นคอนโดโลว์ไรส์ 8 ชั้น มีทั้งหมด 162 ยูนิต ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 199 ล้านบาท

ปรากฏว่าโครงการนี้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี เพราะสามารถขายหมดโดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 เดือน

หลังจากนั้นบริษัท ออริจิ้น ก็มีโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งปี 2557 ถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญของบริษัท ออริจิ้น

เพราะบริษัทได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทใช้เวลาเพียงแค่ 5 ปี ตั้งแต่เริ่มจดทะเบียนบริษัทก่อนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์

จากรายได้ของบริษัท 100 ล้านบาท จนรายได้เพิ่มสูงถึง 2,000 ล้านบาท ณ ตอนที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ และ 9,987 ล้านบาทในปี 2560

แล้วอะไรที่ทำให้บริษัทออริจิ้น สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว?

สิ่งที่ทำให้ ออริจิ้น มาสู่จุดนี้ ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากความฝันของคุณโด่ง ที่อยากสร้างที่อยู่อาศัยให้ทุกคนมีความสุข คุณโด่งคิดเสมอว่า บ้านไม่ได้เป็นแค่สิ่งปลูกสร้าง แต่เป็นการวางรากฐานที่ดีให้กับทุกคน

นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อบริษัท ออริจิ้น เพราะทุกคนล้วนมีจุดเริ่มต้นทุกๆอย่างมาจาก “บ้าน” ที่ทำให้เราสามารถต่อยอดทั้งความคิด และการกระทำที่ดีมีคุณค่าสู่สังคมและคนรอบข้างได้ในอนาคต

ซึ่งนอกจากการวางรากฐานในแบบของคุณโด่งแล้ว อีกวิสัยทัศน์หนึ่งที่สำคัญก็คือ
“คิดต่าง” จึง “โดดเด่น”

บริษัท ออริจิ้น กล้าที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้เป็นบริษัทที่มีจุดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ใครๆเห็นจะต้องนึกถึงแบรนด์ ออริจิ้น และยังสามารถนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกบ้านได้

ยิ่งไปกว่านั้น จากความตั้งใจที่ต้องการให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย จึงทำให้คุณโด่งและบริษัท ออริจิ้น เกิดอีกแนวคิดหนึ่งที่สำคัญในการสร้างโครงการ Park Origin นั่นก็คือ การเป็น “A Perfect Living Platform”

ความหมายที่แท้จริงของ A Perfect Living Platform คืออะไร?

สำหรับคุณโด่งแล้ว A Perfect Living Platform คือ การสร้างทุกๆ โครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่อาศัยให้มากกว่าแค่เรื่องที่อยู่อาศัย

เพราะจากความคิดของคุณโด่งที่ว่า ความสุขที่แท้จริงในบ้าน ไม่ได้เกิดจากการมีบ้านที่ดีเพียงอย่างเดียว

แต่ยังต้องรวมไปถึง สังคมที่ดี สิ่งแวดล้อมและกิจกรรมที่ดีด้วย เพื่อให้ลูกบ้านมีพลังแล้วสามารถถ่ายทอดพลังที่ดีสู่สังคมรอบข้างต่อไป

ซึ่งก็เป็นที่มาของคอนเซปต์ A Perfect Living Platform ที่ประกอบไปด้วย 3 แกนหลัก คือ

แกนเทคโนโลยี Technology Transformation
มีการนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของลูกบ้าน Park Origin มีความสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น

เช่น “Home Automation” ที่ให้คุณควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้านผ่านปลายนิ้วสัมผัส, “Smart Mirror” เทคโนโลยีกระจกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับโลก IoT สามารถแสดงผลได้หลากหลาย, “Facilities Intelligence” ให้คุณควบคุมการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง ผ่านแอปพลิเคชัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ “Cashless Society” เพื่อการทำธุรกรรมที่สะดวก ปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดอีกต่อไป

แกนสังคม ONE Sphere Complex
เพื่อตอกย้ำว่า Park Origin เป็นได้มากกว่าที่อยู่อาศัย โครงการนี้จึงเป็นครั้งแรกของรูปแบบที่อยู่อาศัยใหม่ ที่สร้างอาณาจักร Mixed Use ไว้บริเวณที่อยู่อาศัย ซี่งพร้อมมอบบริการครบวงจร บน 3 ทำเลใจกลางเมืองที่เป็นที่ต้องการที่สุดของกรุงเทพฯ ได้แก่ ONE PHAYATHAI, ONE THONGLOR และ ONE 24 (ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัท ONE Origin) โดยจะประกอบด้วย คอมมูนิตี้ มอลล์, ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, ร้านอาหารระดับ Michelin Star จากทั่วมุมโลก, ร้านกาแฟชั้นนำ, Co-Living Space & Co-Working Space ระดับเวิล์ดคลาส ที่ปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์, Kid’s Institution รองรับกลุ่มครอบครัว, โรงแรมเชนดังระดับโลก, อาคารสำนักงาน และ Serviced Apartment ซึ่งคอนโด PARK Origin ที่อยู่ในอาณาจักร Mixed Use แต่ละแห่งจะถูกออกแบบอย่างแตกต่างกันไป เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในย่านนั้น

และแกนธรรมชาติ Nature Esence
เพื่อทำให้ลูกบ้านรู้สึกเหมือนเดินบนไหล่เขาท่ามกลางธรรมชาติทั้งที่อยู่กลางใจเมือง

Park Origin จึงมีการออกแบบสวนโดยใช้แนวคิด “Vertical Garden” ซึ่งเป็นลักษณะของสวนป่าคอนกรีตที่เป็นบันไดสูง 1,500 ขั้น นอกจากนั้นก็ยังออกแบบ Landscape โดยใช้พื้นที่อย่างมีคุณค่า ด้วยนักออกแบบชั้นนำระดับโลก เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้ใหญ่ในพื้นที่เดิมไว้ เพื่อรักษาธรรมชาติดั้งเดิมของพื้นที่ใว้ให้กับผู้อยู่อาศัย

A Perfect Living Platform ของโครงการ Park Origin จึงน่าจะตอบโจทย์คนในยุคนี้ได้อย่างลงตัว

เรียกได้ว่า กว่าจะมาเป็น บริษัท ออริจิ้น ในทุกวันนี้

ถือว่าเป็นความท้าทายของ คุณโด่ง เป็นอย่างมาก

เพราะจากวันแรกที่คุณโด่งได้ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

วิสัยทัศน์และแนวคิดต่างๆของคุณโด่ง รวมถึงความตั้งใจที่จะส่งต่อสิ่งดีให้กับคนอื่น

ทำให้ บริษัท ออริจิ้น ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้

เรียกได้ว่าเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

และน่าติดตามว่าต่อไป ออริจิ้น จะเติบโตต่อไปได้อีกมากแค่ไหนในอนาคต..

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Park Origin และ A Perfect Living Platform ได้ที่
https://bit.ly/2OB5TBh