IRPC x ลงทุนแมน

------
หุ้นกู้นี้เสนอขายแก่ประชาชนเป็นการทั่วไป
------

ธุรกิจปิโตรเคมีเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก และมีบทบาทสำคัญต่อหลายภาคส่วน ตั้งแต่วัสดุพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ไปจนถึงพลังงานและสินค้าอุปโภคบริโภค

วัตถุดิบจากปิโตรเคมีถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ ก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง และบรรจุภัณฑ์พลาสติก
ทำให้ธุรกิจนี้มีความสำคัญต่อการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการบริโภคโดยรวม

และถ้าถามว่า ใครคือผู้นำอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจรของประเทศไทย
หนึ่งในชื่อที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้น IRPC หรือ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในกลุ่ม ปตท.

ล่าสุด IRPC ได้ออกหุ้นกู้ 5 ชุดใหม่ หุ้นกู้อายุ 4, 6, 7, 9 ปี และหุ้นกู้ดิจิทัล อายุ 5 ปี โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง 3.80%-4.35% ต่อปี พร้อมได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้ง ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่”

แต่ในปัจจุบัน ธุรกิจของ IRPC แข็งแกร่งแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

รู้หรือไม่ว่า IRPC เป็นบริษัทปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจรชั้นนำของประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์สร้างสรรค์นวัตกรรมวัสดุและพลังงานเพื่อชีวิตที่ลงตัว ที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

ปัจจุบัน โรงกลั่นน้ำมันของ IRPC กำลังการผลิตอยู่ในระดับ Top 3 ของประเทศไทย มีกำลังการผลิตรวม 215,000 บาร์เรลต่อวัน สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้หลากหลายชนิด เช่น ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) แนฟทา น้ำมันเบนซิน ดีเซล และนํ้ามันเครื่องบินไอพ่นพาณิชย์ (Jet A-1)

นอกจากนี้ IRPC ยังมีโรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน กำลังการผลิต 320,000 ตันต่อปี และผลิตยางมะตอย กำลังการผลิต 600,000 ตันต่อปี ซึ่งถือเป็นระดับกำลังการผลิตที่สูงสุดในประเทศ

ธุรกิจหลักของ IRPC แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

1. ธุรกิจปิโตรเลียม
ดำเนินธุรกิจกลั่นน้ำมัน ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เช่น น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน และน้ำมันเครื่องบินไอพ่นพาณิชย์ (Jet A-1)

2. ธุรกิจปิโตรเคมี
ผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้น เช่น โอเลฟินส์ อะโรเมติกส์ และเม็ดพลาสติกชนิดต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการหรือแปรรูปพลาสติกในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ

3. ธุรกิจท่าเรือและถังเก็บผลิตภัณฑ์
ให้บริการท่าเทียบเรือน้ำลึกสำหรับขนถ่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ มีทั้งท่าเรือคอนเทนเนอร์ สินค้าทั่วไป และท่าเรือปิโตรเคมีและปิโตรเลียมเหลว
รองรับเรือได้ตั้งแต่ขนาด 1,000-250,000 ตัน และยังให้บริการถังเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเหลว ที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อรองรับการจัดจำหน่าย

4. ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สิน
พัฒนาและบริหารจัดการที่ดินเพื่อสนับสนุนธุรกิจหลัก และตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมภายนอก

ทั้งหมดนี้ คงทำให้เราพอเห็นภาพความแข็งแกร่งในตอนนี้ของ IRPC กันแล้ว

คำถามต่อมาคือ ในอนาคต IRPC มีแผนการเติบโตอย่างไรบ้าง ?

IRPC มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก (Core Uplift) ได้แก่ ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี ท่าเรือ และอสังหาริมทรัพย์ พร้อมขยายธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ และต่อยอดโอกาสใหม่ ๆ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร ลูกค้า และคู่ค้า

ในปี 2567 บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนา นวัตกรรมวัสดุและพลังงานที่ยั่งยืน (Material and Energy Solutions) โดยเฉพาะวัสดุขั้นสูง (Advanced Materials) สำหรับอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เช่น

- วัสดุสำหรับภาคสุขภาพและวัสดุทางการแพทย์
- ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- เทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต (Future Energy) เช่น พลังงานหมุนเวียน และพลังงานทางเลือก

รวมถึงวัสดุเคลือบแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลดความร้อน และอุปกรณ์เก็บพลังงานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV Battery Solutions)

โดยโครงการสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้ในปี 2567 ได้แก่

1. โครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) เดินหน้าผลิตเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567
- ผลิตและจำหน่ายน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5
- ผลิตน้ำมันอากาศยาน Jet A-1 ตามมาตรฐาน JIG (Joint Inspection Group) รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน

2. ขยายกำลังการผลิต Specialty Products เพิ่มขึ้น 36% เพื่อรองรับตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น
- อุตสาหกรรมกลุ่มการแพทย์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EVs) และอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
- เพิ่มกำลังการผลิต Floating Solar (เฟส 2) อีก 8.5 เมกะวัตต์
- บริหารจัดการทรัพย์สินเพื่อเพิ่มรายได้ เช่น การวางแผนจำหน่ายหรือให้เช่าพื้นที่ในเขตประกอบการอุตสาหกรรม และพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนที่ดินของบริษัทฯ เพื่อเสริมศักยภาพด้านพลังงานสะอาด

ในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างความสำเร็จด้านความยั่งยืน โดยได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น

- รักษาสถานะสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11
- คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน
- ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่ FTSE4Good Index ประจำปี 2567

ทีนี้เราลองมาดูความน่าสนใจของหุ้นกู้ชุดใหม่ จาก IRPC กันบ้าง

หุ้นกู้ชุดใหม่นี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- แนวโน้ม คงที่ จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
สะท้อนถึงความมั่นคงของบริษัทในฐานะบริษัทย่อยที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ ปตท. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IRPC

หุ้นกู้แบ่งออกเป็น 5 รุ่น ได้แก่

- หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.80% ต่อปี
- หุ้นกู้อายุ 6 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี
- หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.25% ต่อปี
- หุ้นกู้อายุ 9 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.35% ต่อปี
- หุ้นกู้ดิจิทัลอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.95% ต่อปี

โดยจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ คาดเสนอขายระหว่างวันที่ 20-21 และ 24 มีนาคม พ.ศ. 2568

ที่น่าสนใจคือ IRPC ยังเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน โดยเปิดตัว “หุ้นกู้ดิจิทัลอายุ 5 ปี” ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”

ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้แบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับหุ้นกู้ทันทีที่ซื้อ และได้รับเงินทันทีที่ขาย พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลการถือครองหุ้นกู้ ราคาซื้อขาย และรายละเอียดอื่น ๆ ได้ครบจบในที่เดียว

ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายและความสะดวกสบายของการลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัล
หุ้นกู้ชุดใหม่นี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาผลตอบแทนที่มั่นคง ภายใต้บริษัทที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และเลือกลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของตนเอง เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพนั่นเอง..

สำหรับผู้ที่สนใจหุ้นกู้ชุดใหม่ของ IRPC สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th
หรือติดต่อผู้จัดการการจัดจำหน่ายตามช่องทางต่อไปนี้

- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Bangkok Bank Mobile Banking (เฉพาะผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Krungsri (เฉพาะผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 จองซื้อผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” (เฉพาะหุ้นกู้ดิจิทัลเท่านั้น)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 869 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) (เฉพาะผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY (เฉพาะผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 1428 กด #4
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน CIMB THAI (เฉพาะผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-285-1555
- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Dime! (เฉพาะผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา รวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร)
- ธนาคารออมสิน โทร. 02-299-9245, 02-299-9246 (สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนทั่วไปที่ไม่ใช่บุคคลธรรมดา) โทร. 1115 กด 5 และ 1143 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชัน MyMo (เฉพาะผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา)

คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

หมายเหตุ : บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน

References :
- ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)
- https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/IRPC/factsheet?
- https://www.irpc.co.th/businessirpc/