สิงห์ปาร์ค X ลงทุนแมน

“จากอดีตเป็นเพียงเมืองผ่าน แต่วันนี้กลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับประเทศ”
คำพูดนี้น่าจะเหมาะสมกับจังหวัดเชียงราย ที่เวลานี้ภาคการท่องเที่ยว เปรียบเสมือนเครื่องยนต์สำคัญทางเศรษฐกิจ ที่ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้แก่ชาวเชียงรายให้ดีขึ้นกว่าในอดีต

ปี 2565 เชียงรายมีนักท่องเที่ยวมาเยือนสูงถึง 5 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 34,400 ล้านบาท

ปี 2566 เชียงรายขึ้นมาเป็นจังหวัดอันดับที่ 5 ที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทย และมีสถิตินักท่องเที่ยวพุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี สร้างรายได้ 46,000 ล้านบาท

คิดในแง่ธุรกิจ หากเปรียบ เชียงราย เป็นแบรนด์แบรนด์หนึ่ง ก็น่าจะเป็นแบรนด์ที่มีอัตราการเติบโตทางธุรกิจที่น่าสนใจเลยทีเดียว

อะไรที่ทำให้ เชียงราย กลายเป็นจังหวัดระดับแลนด์มาร์ก ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองไทย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ลองมาดูปัจจัยบวกที่ช่วยสร้างมูลค่าให้แก่ เชียงราย ในภาคการท่องเที่ยว

อย่างแรกสุดคือ ตลอดเวลาที่ผ่านมาภาครัฐได้เข้ามาลงทุนด้านการคมนาคมในหลายพื้นที่ ทำให้การเดินทางสะดวกสบายขึ้นกว่าในอดีต จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ เชียงราย มีความเป็นเมืองมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ เกิดการลงทุนของบริษัทอสังหาฯ ที่เข้ามาสร้างโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นมากมาย ประกอบกับภูมิศาสตร์ของจังหวัดที่มีชายแดนติดกับ 2 ประเทศเพื่อนบ้านคือ พม่า และลาว

เมื่อทั้งหมดนี้มาเชื่อมต่อเข้ากับจุดขายที่เป็นวัตถุดิบหลักของเชียงรายคือ อากาศดีตลอดปี, รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม, มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ผู้คนในจังหวัดนี้มีความอ่อนโยน และเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว

หากเปรียบเชียงรายเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ก็น่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยแบบธรรมชาติ อารมณ์ดี มีความเรียบง่าย น่ารัก สุภาพอ่อนโยน จึงไม่แปลกหากใครที่มาเที่ยวเชียงรายจะหลงรัก มีความสุขทุกครั้งที่มาเยือน

ที่สำคัญคือ เชียงราย มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ เช็กอิน มากมาย เช่น สิงห์ปาร์คเชียงราย, วัดร่องขุ่น, สวนแม่ฟ้าหลวง, พระธาตุดอยตุง, ตลาดแม่สาย, วัดพระแก้ว, ตลาดเชียงรายไนท์บาซาร์ และอื่น ๆ

ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายเท่านั้น
แต่รู้หรือไม่ว่า เชียงราย ถือเป็นจังหวัดที่มีทั้งประเพณีและอิเวนต์ 5 ดาวตลอดทั้งปี อย่างการเดินขึ้นพระธาตุดอยตุง, ไหว้สาพญามังราย, ตานสลากภัต, ทําบุญปอย, การแข่งเรือเชียงแสน, แข่งขันไตรกีฬาบนมาตรฐานการแข่งขันสากล

ส่วนเทศกาลก็เช่น เชียงรายดอกไม้งาม, โล้ชิงช้าของชาวอาข่า, ชิมชา ชมดอกซากุระ และอิเวนต์ระดับท็อปอย่าง เทศกาลบอลลูนนานาชาติ สิงห์ปาร์คฯ

ที่ในแต่ละปีดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติให้มาเที่ยวเชียงราย

การจะทำอย่างนี้ได้ สิงห์ปาร์ค ต้องมีไอเดียที่ “ต่าง” เมื่อเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ

โดยเรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่เป็นแนวคิดของ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

เมื่อเขาต้องการให้พื้นที่ทั้งหมดที่เคยเป็นพื้นที่ทดลองปลูกข้าวบาร์เลย์ แปรเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรในแบบ Social Enterprise เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในจังหวัด ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีควบคู่ไปกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นกว่าเดิม

แม้แนวคิดนี้จะสร้าง Impact ในเชิงบวก ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากมาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามแล้วนั้น เพียงแต่ “หากเราลงมือทำอะไรสักอย่าง ก็ต้องไปให้สุดทาง”

ทำให้ปัจจุบัน “สิงห์ปาร์ค” ยังเป็นสถานที่จัดอิเวนต์ทั้งในระดับจังหวัดจนถึงระดับนานาชาติ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนปีละมากกว่า 500,000 คน ผ่านอิเวนต์ต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น

- เทศกาลบอลลูนนานาชาติ “Singha Park Chiangrai International Balloon Fiesta” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2559 ในช่วงวันวาเลนไทน์ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่ช่วยให้เกิดภาพจำของเชียงรายในการเป็นเมืองแห่งความรัก (romantic city) หนึ่งใน “World-Class Love Destinations” ที่โดดเด่นแห่งหนึ่งของโลก

โดยมีการนำบอลลูนมาร่วมงานกว่า 30 ลูก ซึ่งปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานนี้ราว ๆ 110,000 คน และทำให้เกิดการจ้างงาน 1,380 คน

- คอนเสิร์ต Farm Festival on The Hill ในช่วงฤดูหนาว ที่จัดต่อเนื่อง 11 ปี ตลอด 5 วัน 5 คืน โดยมีคนร่วมงานแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ที่น่าสังเกตคือมีชาวต่างชาติหน้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดย 2 บิ๊กอิเวนต์ระดับท็อป เมื่อรวมกัน สร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจของจังหวัดสูงถึงกว่า 2,000 ล้านบาท

ข้อมูลเหล่านี้ กำลังจะบอกกับเราว่า สิงห์ปาร์ค ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่คนในจังหวัดเชียงราย ทั้งแบบทางตรงและทางอ้อม

จะเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายของ สิงห์ปาร์ค ถูกขยายให้กว้างขึ้น ไม่ได้จำกัดแค่นักท่องเที่ยวคนไทยและประเทศใกล้เคียง แต่หมายถึงยังสร้างแรงดึงดูดให้ คนทั่วโลก เข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2567 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเชียงราย อยู่ที่ 671,001 คน เพิ่มขึ้น 13.4%

ส่งผลให้มีอัตราการเข้าพักในธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 67.24% และมีค่าใช้จ่ายต่อทริป 7,597 บาท เติบโต 3.53% ที่น่าสนใจก็คือ ยิ่งเป็นช่วง High Season ก็น่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก

เพราะเมื่อ Demand ที่เป็นนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ Supply ที่ต้องรองรับความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวเช่นกัน

ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นในธุรกิจที่พักและร้านอาหาร, คนค้าขายในตลาดมียอดขายเพิ่มขึ้น, รถโดยสารต่าง ๆ มีคนใช้บริการมากขึ้น, ผลผลิตทางการเกษตรมียอดขายเพิ่มขึ้น และอื่น ๆ

ตรงนี้เองที่ทำให้ GDP ของจังหวัดโตระเบิด

ปี 2560 GDP ต่อประชากรเชียงราย 91,308 บาท/คน/ปี
ปี 2565 GDP ต่อประชากรเชียงราย 129,585 บาท/คน/ปี

จะเห็นว่าภายใน 5 ปี GDP เติบโตถึง 41.9% เลยทีเดียว ที่น่าสนใจก็คือ สัดส่วนรายได้ประชากร มาจากภาคบริการถึง 65.9%

อย่างไรก็ตามการเติบโตของเชียงราย ไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่หมายถึง จิกซอว์ ทุกชิ้น มีความสำคัญเท่ากันหมด

- ประชากรเชียงราย ที่มีอัธยาศัยน่ารักกับนักท่องเที่ยว
- ธรรมชาติ ที่สวยงาม ต่อให้ไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
- ประเพณี ที่มีทั้งคุณค่า และมรดกทางวัฒนธรรม
- การลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน ที่ทำให้เชียงรายมีความสะดวกสบายมากขึ้น

พอนำมาประกอบเป็นภาพเดียวกัน ย่อมสร้างประโยชน์วงกว้างแบบ Impact จนทำให้โมเดลการสร้างจังหวัดเชียงราย สามารถสูบฉีดความสุขให้แก่นักท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวเชียงราย อย่างไม่มีวันสิ้นสุด

References
-กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
-สำนักงานสถิติจังหวัดเชียงราย
-https://nakornchiangrainews.com/chiang-rai-tourism-revenue-visitor-stats-2023/#:~:text=ปี%202566%20เป็นปีที่,ไทยสร้างรายได้ถึง
-กระทรวงพาณิชย์ Profile จังหวัดเชียงราย
-ข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์ สิงห์ปาร์ค