กองทุนเปิด MEGA 10 (MEGA10-A) จาก บลจ.ทาลิส ได้รับรางวัล Best Performing Mutual Fund จาก Hall of Funds 2025
กองทุนเปิด MEGA 10 (MEGA10-A) จาก บลจ.ทาลิส ได้รับรางวัล Best Performing Mutual Fund จาก Hall of Funds 2025
-วันที่ 30 มกราคม 2568 บริษัท Finnomena ได้จัดพิธีมอบรางวัล Hall of Funds 2025 ฉลองความเป็นเลิศและจุดประกายอนาคตกองทุนไทย ครอบคลุม หลากหลาย รางวัล ตามแต่ละธีม และกลุ่มการลงทุน
-วันที่ 30 มกราคม 2568 บริษัท Finnomena ได้จัดพิธีมอบรางวัล Hall of Funds 2025 ฉลองความเป็นเลิศและจุดประกายอนาคตกองทุนไทย ครอบคลุม หลากหลาย รางวัล ตามแต่ละธีม และกลุ่มการลงทุน
โดย MEGA10-A จาก บลจ. ทาลิส ได้รับรางวัล Best Performing Mutual Fund หรือ กองทุนที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมสุดในปีที่ผ่านมา
เรามาดูกันว่า MEGA10-A มีหลักการลงทุนอย่างไร
และลงทุนในบริษัทอะไรบ้าง ?
และลงทุนในบริษัทอะไรบ้าง ?
MEGA10-A ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายปี 2565 หรือราว 2 ปีกว่า โดยบลจ. ทาลิส
กองทุนนี้ มีนโยบายการลงทุนแบบ Rule-based หรือลงทุนตามเกณฑ์ สรุปเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
กองทุนนี้ มีนโยบายการลงทุนแบบ Rule-based หรือลงทุนตามเกณฑ์ สรุปเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
1.ลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้นําในด้านตราสินค้า (Brand Value) ที่ดีทั่วโลกจากการจัดอันดับโดย บริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการจัดอันดับดังกล่าว
2.บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุดที่จดทะเบียนซื้อ ขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสหรัฐอเมริกา NYSE และ NASDAQ
3.บริษัทที่มีสภาพคล่องสูง โดยพิจารณาจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover) เทียบกับขนาดของกองทุน
MEGA10-A จะเข้าลงทุนในหุ้น 10 ตัว ในสัดส่วนที่ใกล้เคียง กัน ตัวอย่างบริษัทที่กองทุน เข้าไปลงทุนได้แก่ (ข้อมูล และมูลค่าบริษัท อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละบริษัท และ Tradingview ณ วันที่ 31 มกราคม 2568)
1.Apple
-บริษัทผลิต iPhone, MacBook, iPad และบริการต่าง ๆ เช่น iCloud และ Apple Music
มูลค่าบริษัท 120 ล้านล้านบาท
-บริษัทผลิต iPhone, MacBook, iPad และบริการต่าง ๆ เช่น iCloud และ Apple Music
มูลค่าบริษัท 120 ล้านล้านบาท
2.Microsoft
-เจ้าของ Windows, Microsoft Office, Azure และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน OpenAI เจ้าของ ChatGPT
มูลค่าบริษัท 104 ล้านล้านบาท
-เจ้าของ Windows, Microsoft Office, Azure และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน OpenAI เจ้าของ ChatGPT
มูลค่าบริษัท 104 ล้านล้านบาท
3.Nvidia
-ผู้นำด้านชิป GPU สำหรับ AI, Data Center และ Gaming มีบทบาทสำคัญในเทคโนโลยี AI
มูลค่าบริษัท 103 ล้านล้านบาท
-ผู้นำด้านชิป GPU สำหรับ AI, Data Center และ Gaming มีบทบาทสำคัญในเทคโนโลยี AI
มูลค่าบริษัท 103 ล้านล้านบาท
4.Alphabet
-เจ้าของ Google และ YouTube รายได้หลักจากโฆษณาออนไลน์และคลาวด์
มูลค่าบริษัท 83 ล้านล้านบาท
-เจ้าของ Google และ YouTube รายได้หลักจากโฆษณาออนไลน์และคลาวด์
มูลค่าบริษัท 83 ล้านล้านบาท
5.Amazon
-บริษัทอีคอมเมิร์ซใหญ่สุดในโลกและ Cloud Computing (AWS)
มูลค่าบริษัท 83 ล้านล้านบาท
-บริษัทอีคอมเมิร์ซใหญ่สุดในโลกและ Cloud Computing (AWS)
มูลค่าบริษัท 83 ล้านล้านบาท
6.Meta
-บริษัทโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากสุดในโลก เป็นเจ้าของ Facebook, Instagram, WhatsApp และกำลังพัฒนาธุรกิจแว่น Oculus และธุรกิจ Metaverse ในกลุ่ม Reality Labs
มูลค่าบริษัท 59 ล้านล้านบาท
-บริษัทโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากสุดในโลก เป็นเจ้าของ Facebook, Instagram, WhatsApp และกำลังพัฒนาธุรกิจแว่น Oculus และธุรกิจ Metaverse ในกลุ่ม Reality Labs
มูลค่าบริษัท 59 ล้านล้านบาท
7.J.P. Morgan
-สถาบันการเงินใหญ่สุดในโลก ให้บริการด้านการเงิน การลงทุน และสินเชื่อ
มูลค่าบริษัท 25 ล้านล้านบาท
-สถาบันการเงินใหญ่สุดในโลก ให้บริการด้านการเงิน การลงทุน และสินเชื่อ
มูลค่าบริษัท 25 ล้านล้านบาท
8.Visa
-บริษัทเครือข่ายบัตรเครดิตรายใหญ่สุดของโลก รายได้หลักจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
มูลค่าบริษัท 22 ล้านล้านบาท
-บริษัทเครือข่ายบัตรเครดิตรายใหญ่สุดของโลก รายได้หลักจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
มูลค่าบริษัท 22 ล้านล้านบาท
9.Mastercard
-บริษัทเครือข่ายบัตรเครดิตรายใหญ่อันดับสองของโลก
มูลค่าบริษัท 17 ล้านล้านบาท
-บริษัทเครือข่ายบัตรเครดิตรายใหญ่อันดับสองของโลก
มูลค่าบริษัท 17 ล้านล้านบาท
10.Oracle
-ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร ฐานข้อมูล และ Cloud Computing
มูลค่าบริษัท 16 ล้านล้านบาท..
-ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร ฐานข้อมูล และ Cloud Computing
มูลค่าบริษัท 16 ล้านล้านบาท..
ทั้งนี้ ตัวอย่างบริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการณ์การลงทุน ณ ขณะนั้น บลจ. ทาลิส จะมีการพิจารณาปรับรายชื่อหลักทรัพย์ และปรับสมดุลของสัดส่วนน้ำหนักการลงทุน (Rebalance) ทุก ๆ 6 เดือน และจากผลการทบทวนรายชื่อแบรนด์ประจำปี
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 หรือ www.talisam.co.th และผู้สนับสนุนการขายหลายราย
คำเตือน :
- กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน
- กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน
- กองทุนรวมนี้มีการลงทุนในต่างประเทศ มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีการลงทุนกระจุกตัวของหลักทรัพย์ หมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
References
-Talis
-Finnomena
-Apple (https://investor.apple.com/investor-relations/default)
-Microsoft (https://www.microsoft.com/en-us/investor/default)
-Nvidia (https://investor.nvidia.com/home/default.aspx)
-Alphabet (https://abc.xyz/investor/)
-Amazon (https://ir.aboutamazon.com/overview/default.aspx)
-Meta (https://investor.atmeta.com/home/default.aspx)
-J.P. Morgan (https://www.jpmorganchase.com/ir)
-Visa (https://investor.visa.com/)
-Mastercard (https://investor.mastercard.com/overview/default.aspx)
-Oracle (https://investor.oracle.com/home/default.aspx)
-Talis
-Finnomena
-Apple (https://investor.apple.com/investor-relations/default)
-Microsoft (https://www.microsoft.com/en-us/investor/default)
-Nvidia (https://investor.nvidia.com/home/default.aspx)
-Alphabet (https://abc.xyz/investor/)
-Amazon (https://ir.aboutamazon.com/overview/default.aspx)
-Meta (https://investor.atmeta.com/home/default.aspx)
-J.P. Morgan (https://www.jpmorganchase.com/ir)
-Visa (https://investor.visa.com/)
-Mastercard (https://investor.mastercard.com/overview/default.aspx)
-Oracle (https://investor.oracle.com/home/default.aspx)
