MGI เผยงบไตรมาสล่าสุด กำไรลดลงเกินครึ่ง จากการแข่งขันที่รุนแรง
เช้านี้ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2567

-รายได้รวม 130.6 ล้านบาท ลดลง 4.6%
-กำไรสุทธิ 8.0 ล้านบาท ลดลง 68.0%
ทำให้ อัตรากําไรสุทธิ ลดลงเหลือ 6.1% จากเดิมปีก่อนอยู่ที่ 18.3%

โดยสัดส่วนรายได้มาจาก
สินค้าอุปโภค 54.3 ล้านบาท +22.8%
สินค้าบริโภค 14.1 ล้านบาท -9.4%
ธุรกิจสื่อและบันเทิง 22.3 ล้านบาท -32.1%
ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 29.0 ล้านบาท -21.2%
ธุรกิจการเช่าช่วง MGI Hall 8.7 ล้านบาท +44.6%
รายได้บริการอื่น ๆ 0.3 ล้านบาท +136.4%

จะเห็นว่า สาเหตุที่รายได้ลดลง เพราะว่าบริษัทมีรายได้จากสื่อบันเทิง และรายได้จากศิลปิน ลดลง
ในขณะที่ยอดสินค้าบริโภคที่ตกลง ตกลงจากน้ําพริก ปลาสลิด เนื่องจากมีการแข่งขันในตลาดสูงขึ้น

สำหรับสินค้าของบริษัท ที่ขายดีที่สุด 5 อันดับ ในไตรมาส 3 ปี 2567
อันดับ 1 NangNgam Neck Serum
อันดับ 2 NangNgam Sun Screen Serum
อันดับ 3 น้ําหอม 4 กลิ่น ตราฟินเวอร์
อันดับ 4 น้ําพริกปลาสลิด ตรานางงาม
อันดับ 5 NangNgam Anti – Melasma & Dark Spot Cream

นอกจากนี้ MGI ยังแจ้งว่า การขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม มีการแข่งขันทางด้านราคาและคอนเทนต์ เพิ่มสูงขึ้นมาก จึงทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรลดลง
โดยตอนนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ทางด้านการขายและสร้างคอนเทนต์ ให้ดึงดูดและน่าสนใจมากขึ้น เพื่อเรียกส่วนแบ่งทางการตลาดกลับคืนมา

ทั้งนี้ หลังจากประกาศงบการเงินไตรมาสล่าสุด
ราคาหุ้น MGI ได้ปรับตัวลงถึง -17.7%..