หุ้นนางงาม MGI ทำ Ceiling หลังงบออก และจะทำธุรกิจคลินิก-เครื่องประดับ
หุ้นนางงาม MGI ทำ Ceiling หลังงบออก และจะทำธุรกิจคลินิก-เครื่องประดับ
วันนี้ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ประกาศงบไตรมาส 2 ปี 2567
โดยบริษัทมีรายได้ 237.3 ล้านบาท (+11.8%)
กำไร 58.9 ล้านบาท (+32.6%)
วันนี้ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ประกาศงบไตรมาส 2 ปี 2567
โดยบริษัทมีรายได้ 237.3 ล้านบาท (+11.8%)
กำไร 58.9 ล้านบาท (+32.6%)
ผลประกอบการที่เติบโต เป็นเพราะรายได้จากธุรกิจพาณิชย์ ที่เติบโตขึ้น จากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ แข่งกันขายสินค้าของบริษัท ผ่านช่องทาง TokTok จึงทำให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้น
โดยสินค้าของบริษัทที่ขายดีสุด ในไตรมาส 2 ปี 2567
อันดับ 1 น้ำพริกปลาสลิด ตรานางงาม
อันดับ 2 น้ำหอม 4 กลิ่น ตราฟินเวอร์
อันดับ 3 NangNgam Sun Screen Serum
อันดับ 1 น้ำพริกปลาสลิด ตรานางงาม
อันดับ 2 น้ำหอม 4 กลิ่น ตราฟินเวอร์
อันดับ 3 NangNgam Sun Screen Serum
แต่ทั้งนี้ ยอดขายนํ้าพริกปลาสลิด มียอดที่ตกลงจากปี 2566 เนื่องจากมีการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น
รวมถึงธุรกิจการประกวด ก็มีการเติบโตขึ้นด้วย จากการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ปี 2567 เสร็จสิ้น บริษัทจึงได้ศิลปินใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนศิลปินเดิม ก็ยังคงสร้างรายได้ต่อเนื่อง
โดยสรุปที่มารายได้ของ MGI ได้ดังนี้
-สินค้าอุปโภค 51.0 ล้านบาท (+108.3%)
-สินค้าบริโภค 26.7 ล้านบาท (-50.3%)
-สื่อและบันเทิง 13.0 ล้านบาท (-56.0%)
-บริหารจัดการศิลปิน 33.9 ล้านบาท (-21.5%)
-การจัดประกวด 97.8 ล้านบาท (+79.1%)
-รายได้จากการเช่าช่วง MGI Hall 7.6 ล้านบาท (+43.6%)
-อื่น ๆ 7.4% (+412.5%)
-สินค้าบริโภค 26.7 ล้านบาท (-50.3%)
-สื่อและบันเทิง 13.0 ล้านบาท (-56.0%)
-บริหารจัดการศิลปิน 33.9 ล้านบาท (-21.5%)
-การจัดประกวด 97.8 ล้านบาท (+79.1%)
-รายได้จากการเช่าช่วง MGI Hall 7.6 ล้านบาท (+43.6%)
-อื่น ๆ 7.4% (+412.5%)
นอกจากนี้ MGI ยังได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัทจะลงทุนในธุรกิจค้าเครื่องประดับ ที่ทำจากเพชร พลอย และอัญมณีมีค่า
ซึ่งจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 30 ล้านบาท ผ่านการตั้งบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100%
หรืออาจตั้งเป็นบริษัทร่วมทุน โดยถือหุ้นในสัดส่วน 55% (ส่วนอีก 45% เป็นของผู้ร่วมทุน)
หรืออาจตั้งเป็นบริษัทร่วมทุน โดยถือหุ้นในสัดส่วน 55% (ส่วนอีก 45% เป็นของผู้ร่วมทุน)
และจะลงทุนในธุรกิจเวชกรรมคลีนิก โดยตั้งเป็นบริษัทย่อย ที่ถือหุ้น 100% และมีเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาท
ซึ่งหลังจากประกาศผลประกอบการ และการรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่
ก็ทำให้ราคาหุ้น MGI ปรับตัวขึ้นทันที 30% ในช่วงบ่าย จนทำ Ceiling
ก็ทำให้ราคาหุ้น MGI ปรับตัวขึ้นทันที 30% ในช่วงบ่าย จนทำ Ceiling
และตอนนี้มูลค่าบริษัทกลายเป็น 3,192 ล้านบาท
ซื้อขายกันที่ค่า P/E ที่ 24 เท่า..
ซื้อขายกันที่ค่า P/E ที่ 24 เท่า..
*หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
โพสต์นี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นนี้แต่อย่างใด
โพสต์นี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นนี้แต่อย่างใด